ในบรรดาการ์ตูนทำอาหารที่มีอยู่หลายสิบหลายร้อยเรื่อง ผลงานชุด ยอดกุ๊กแดนมังกร น่าจะเป็นหนึ่งในการ์ตูนที่ประสบความสำเร็จสูงสุดเรื่องหนึ่งในยุค 90 ซึ่งถ้าถามผมนะ ในช่วงนั้นผมชอบ “จอมโหดกระทะเหล็ก” มากกว่า แต่ยอดกุ๊กแดนมังกร กลับถูกนำมาสร้างเป็นอนิเม และยังมีการสร้างเป็นหนังจีนกำลังภายใน ทำให้มีคนรู้จักผลงานเรื่องในวงกว้างกว่าเรื่องอื่นๆ
และถึงแม้ว่าการ์ตูนเรื่องนี้จะจบชุดไปนานมากมากแล้ว และ อ.โอคาวะ เอสึชิ ก็หันไปเขียนการ์ตูนเรื่องอื่นมาแล้วหลายๆ เรื่อง บางเรื่องก็แอบเชื่อมโยงกับเรื่อง “ยอดกุ๊กแดนมังกร” อย่างเนียนๆ แต่ก็ไม่มีเรื่องไหนเลยที่จะประสบความสำเร็จเท่า “ยอดกุ๊กแดนมังกร” จนในที่สุด อ.โอกาวะ ก็ต้องกลับมาเขียนภาคต่อของยอดกุ๊กแดนมังกรออกมาจนได้

“ยอดกุ๊กแดนมังกร ภาค พิชิตฉงชิ่ง” ยังคงเป็นเรื่องราวของยอดกุ๊กอายุน้อย “หลิวเหมาชิง” หรือที่คนรุ่นผมคุ้นเคยกับชื่อหลิวคุนชิง (เวอร์ชั่นพิมพ์ครั้งแรก) เด็กหนุ่มจากเสฉวนที่ต้องการที่จะเป็นสุดยอดนักทำอาหารแห่งประเทศจีนตามรอยมารดาของตนและยังต้องคอยปกป้องผู้คนจากสมาคมอาหารใต้ดินรวมไปถึงการออกเดินทางเพื่อค้นหาเครื่องครัวในตำนานอีกด้วย ซึ่งในตอนจบของภาคก่อน หลิวเหมาชิง ได้ค้นพบเครื่องครัวในตำนาน และได้ทำลายสมาคมอาหารใต้ดินของจีน จนวงการอาหารจีนกลับคืนสุ่ความสงบสุขอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนเนื้อเรื่องในภาคใหม่นี้ แม้จะตีพิมพ์ห่างจากภาคก่อนนานเกือบ 20 ปี แต่ก็เริ่มเรื่องมาเหมือนต่อจากภาคก่อนเลย โดยปริศนาสำคัญในภาคนี้จะอยู่ที่ หม่าหลิว พ่อของหลิวเหมาชิง ที่เชื่อกันว่าตายไปแล้ว ทว่าความจริงบางอย่างเกี่ยวกับพ่อของเหมากลับถูกเปิดเผยออกมา หลิวเหมาชิงและเพื่อน ๆ จึงออกเดินทางไปยังฉงชิ่ง เมืองโบราณที่ปัจจุบันถูกบรรจุเป็นมรดกโลก ซึ่งการผจญภัยและปริศนาครั้งใหม่กำลังรออาเหมาและเพื่อนๆ อยู่

แน่นอนครับว่าการ์ตูนที่เขียนห่างจากภาคก่อนหน้านานเกือบ 20 ปี ลายเส้นย่อมไม่มีทางเหมือนเดิมครับ ลายเส้นของยอดกุ๊กแดนมังกรภาคนี้จะคล้ายกับผลงานในยุคหลังๆ ของ อ.โอคาวะ ที่เส้นจะโปร่งบางและเบากว่า เนื้อเรื่องก็มีฉากเซ็กซี่ตามสไตล์งานของ อ.โอคาวะในยุคหลัง ส่วนฉากรีแอคชั่นก็ยังอลังการเหมือนเดิม (แต่การ์ตูนอาหารสมัยนี้ก็มีฉากรีแอคชั่นเว่อร์ๆ กันเยอะ จนดูธรรมดาไปเลย) แถมการ์ตูนเรื่องนี้ยังตีพิมพ์อยู่ใน Magazine Pocket (MagaPoke) App การ์ตูนออนไลน์ของโคดันฉะด้วย ซึ่งแว่วว่าทางวิบูลย์กิจจะทำเรื่องนี้วางจำหน่ายในรูปแบบ E-Book ด้วยเช่นกันครับ

ส่วนเรื่องการแปลนั้น เนื่องจากใช้คนแปลคนละกันกับเวอร์ชั่นเก่า ทำให้ชื่อตัวละคร ชื่อสถานที่ (ซึ่งเป็นชื่อจีน) หลายๆ จุดแตกต่างจากของเดิม ซึ่งถ้าเป็นแฟนๆ รุ่นใหม่ก็คงไม่แปลกใจเท่าไหร่ แต่สำหรับแฟนๆ รุุ่นเก่าก็รู้สึกว่าเวลาอ่านแล้วรู้สึกสะดุดอยู่เหมือนกัน ซึ่งเป็นปัญหาที่เจอประจำของการ์ตูนญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อตัวละครจีน เพราะวิธีการอ่านชื่อจีนของจีนและญี่ปุ่นแตกต่างกัน คิดว่าอ่านไปสักสองสามเล่มก็คงจะเริ่มชิน แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเล่ม 2 จะออกเมื่อไหร่ เพราะตอนนี้ที่ญี่ปุ่นเพิ่งออกถึงเล่ม 3 เองครับ…แต่ปกติวิบูลย์กิจจะออกการ์ตูนของค่ายโคดันฉะเร็วนะ แถมเล่มนี้ขายในเรทราคาปกติ (ของ สนพ.นี้) ด้วย (75 บาท) ก็เลยซื้อเก็บได้แบบสบายใจไม่เหนื่อยสักเท่าไหร่ ถ้าราคาพอๆ กับเล่มพิมพ์ย้อนละก็อาจจะคิดหนักอยู่เหมือนกัน