แม้นิตยสารการ์ตูนโชเน็นจัมป์จะเป็นนิตยสารการ์ตูนเด็กผู้ชาย แต่นิตยสารที่มาอายุยืนนานกว่า 50 ปีเล่มนี้ ก็ไม่เคยขาดแคลนการ์ตูนรักชั้นดี ไม่ว่าจะเป็นตำนานบันได 99 ขั้น จากเรื่อง Orange Road การ์ตูนสุดฮิคแห่งยุค 80 หรือสาวน้อยผู้หลุดออกมาจากม้วน VDO อย่าง Video Girl ในยุค 90
และพอถึงทศวรรษแรกแห่งศตวรรษที่ 21 ตำนานแห่งการ์ตูนรักของจัมป์อีกเรื่องหนึ่งก็ได้ถือกำเนิดขึ้น เรื่องราวรักหลายเส้าของหนุ่มน้อยผู้หลงรักการถ่ายทำภาพยนตร์ และสาวน้อยปริศนาผู้สวมกางเกงในลายสตรอเบอร์รี่ ที่ก่อสงครามกองอวยในหมู่แฟนๆ อยู่ช่วงหนึ่ง ในผลงานที่ใช้ชื่อแปลกๆ ว่า ICHIGO 100%
ICHIGO (สตรอเบอร์รี่) 100% เป็นผลงานของ คาวาชิตะ มิซึกิ (หรืออีกนามแฝงหนึ่งคือ โมโมคุริ มิคัง) นักเขียนการ์ตูนผู้ชายแต่ตัวจริงเป็นหญิงที่สร้างสรรค์ผลงานที่อุดมไปด้วยฉากแฟนเซอร์วิสมาแล้วหลายเรื่อง และ ICHIGO 100% ก็เป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของ อ.คาวาชิตะที่ตีพิมพ์ในช่วงปี 2002-2005 ความยาวทั้งหมด 19 เล่ม จนถูกสร้างเป็นเกม OVA และอนิเมทีวีซีรี่ส์
ซึ่งเนื้อหาของการ์ตูนเรื่องนี้ก็จะเป็นแนวนิยมในยุคนั้น ซึ่งเป็นยุคที่เกมจีบสาวกำลังเฟื่องฟู การ์ตูนประเภทพระเอกโลเลหลายใจกับนางเอกหลายคน(ฮาเร็ม) กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง และ ICHIGO 100% ก็ยังคงคล้ายๆ กับสูตรนั้น ก็คือเป็นการ์ตูนที่มีพระเอก 1 คน กับนางเอกหลัก 2+2 (+1) คน ที่ตัวพระเอกเองก็สับสนว่าจะชอบใครดี โดยมีคีย์เวิร์ดสำคัญก็คือ สาวน้อยลายกางเกงในสตรอเบอร์รี่ที่มานากะ(พระเอก)ได้เจอบนดาดฟ้าโรงเรียน
ที่บอกว่าน่างเอก 2+2+1 ก็ตามที่ผมบอกแหละครับ คือจริงๆ น่างเอกของเรื่องมีเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น คือโทโจ อายะ และ นิชิโนะ สึคาสะ ซึ่งทั้งสองเป็นนางเอกที่ผู้เขียนวางโครงเรื่องไว้แต่แรกเริ่ม (วางไว้ก่อนจะมีคอนเซปต์สตรอเบอร์รี่มาเกี่ยวข้องอีก) โดยชื่อ โทโจ นั้น มีความหมายสื่อถึง ตะวันออก ส่วนนิชิโนะ ก็หมายถึง ตะวันตก โดยอ้างอิงจากตัวอักษรคันจิตัวแรกในนามสกุลของทั้งสองคน ส่วน ซัทสึคิ และ ยูอิ เป็นตัวละครที่เพิ่มเข้ามาสร้างสีสันในช่วงกลางเรื่อง และ มุไค โคสึเอะ ที่มีบทบาทในช่วงโค้งสุดท้าย แต่ยังไงสามคนหลังก็ไม่มีบทบาทเด่นเท่ากับโทโจ และ นิชิโนะ แม่จะมีแฟนๆ ชอบความใจถึงพึ่งได้ของซัทสึคิอยู่ไม่น้อยก็ตาม
ซึ่งตัวโทโจนั้น เป็นตัวละครที่ผู้เขียนกำหนดให้เป็นตัวเอกตั้งแต่แรก จากที่ผู้เขียนกล่าวไว้ในเล่มจบ และเป็นตัวละครที่อยู่เคียงข้างมานากะตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง มีความฝันร่วมกับมานากะในฐานะนักเขียน(นิยาย – บทภาพยนตร์) ในขณะที่มานากะอยากเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ รวมถึงเป็นหญิงสาวกางเกงในลายสตรอเบอร์รี่ปริศนาที่ปรากฎตัวตั้งแต่แรกเริ่มเลย ในขณะที่นิชิโนะนั้นกลับมีช่วงหนึ่งที่หายไปจากเนื้อเรื่องเลย และยังย้ายไปเรียนคนละโรงเรียนกับมานากะอีก ซึ่งตอนนั้นทุกคนก็เชื่อกันว่า ยังไงท้ายสุดโทโจก็เข้าวินเป็นนางเอกตัวจริงแน่นอน เพราะตามสูตรสำเร็จของเรื่องแนวนี้มักจะออกมาเป็นเช่นนั้น รวมถึงตัวผู้เขียนด้วย
แต่ท้ายสุด เรื่องก็พลิกผัน เมื่อนางเอกตัวจริงที่ได้คู่กับมานากะกลับกลายเป็นสึึคาสะ ซึ่งแม้แต่ผู้เขียนเองก็คาดไม่ถึงด้วยเช่นกัน (อ้าว) โดยผู้เขียนกล่าววมา มันเป็นการเติบโตของตัวละครที่ทำให้บทสรุปออกมาเป็นเช่นนั้น ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ตั้งใจเอาไว้แต่แรก แต่นั่นก็กลายเป็นการหักปากกาเซียนครั้งใหญ่ที่ทำให้แฟนๆ เสียงแตก เพราะเอาจริงๆ แฟนๆ กองอวยของโทโจ อายะ เองก็มีอยู่ไม่น้อย และทุกคนก็รู้ว่าโทโจรักมานากะมากแค่ไหน แต่กลับมีเหตุให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่สามารถมาบรรจบลงรอยกันได้อยู่ตลอด ซึ่งแน่นอนว่า พอผลออกมาเช่นนี้ก็ทำให้แฟนๆ บางส่วนไม่พอใจอยู่เหมือนกัน (ถึงขั้นที่ว่า ผู้เขียนต้องมาเขียนภาคพิเศษของโทโจ ชื่อว่า East Side Story ออกมาเสริมอีกภายหลัง แต่อ่านแล้วก็..เอ่อ เอางี้เลยนะ)
และก็ต้องยอมรับด้วยว่า การ์ตูนฮาเร็มที่พอเฉลยนางเอกตัวจริงออกมาแล้ว กระแสจะตกค่อนข้างเร็ว ซึ่งดูจากกระแสของเรื่องนี้ตอนออกใหม่ๆ กับกระแสตอนหลังค่อนข้างต่างกันชัด หรือดูยอดขายฉบับไพเรท(ตอนที่เรื่องนี้ยังมีกระแส) กับฉบับลิขสิทธิ์ (ออกมาหลังจากการ์ตูนจบแล้วหลายปี) ก็ต้องยอมรับว่ากระแสและยอดขายต่างกันเยอะจนออกจะเห็นใจเจ้าของลิขสิทธิ์เลย ทั้งที่ตอนดังๆ มีคนอวยให้ซื้อลิขสิทธิ์กันเยอะมาก แต่พอซื้อเข้ามาจริงๆ กระแสกับเงียบๆ จนน่าใจหายถึงขนาดบางคนยังบ่นเลยว่า “อ้าว เพิ่งออกเล่มจบเองหรือ”
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ากระแสของ ICHIGO 100% ในตอนนี้จะเป็นอย่างไร เราก็ต้องยอมรับว่า การ์ตูนเรื่องนี้เป็นหนึ่งในการ์ตูนรักที่โดดเด่นมากในช่วงทศวรรษแรกของศตวรรษที่ 21 และเป็นผลงานที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่การ์ตูนแนวนี้ในยุคหลังหลายเรื่อง แม้ว่าในช่วงแรกกระแสของการ์ตูนเรื่องนี้จะมาจากฉากแฟนเซอร์วิสก็จริง แต่ถ้าเรามองข้ามฉากโชว์กางเกงในออกไป มันก็เป็นการ์ตูนรักที่สื่อถึงการเติบโตของตัวละครที่มีความฝันที่แตกต่างกัน แต่กลับก้าวเดินไปร่วมกัน และถึงแม้ว่าการ์ตูนเรื่องนี้จะจบลงด้วยการที่มานากะต้องตัดสินใจเลือกใครสักคนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่ไม่ถูกเลือกจะไม่มีความสุขนะครับ…มันเป็นแค่จุดเปลี่ยนจุดหนึ่งในชีวิตที่ทุกคนต้องข้ามผ่านและเติบโตขึ้นอย่างมีความสุขต่อไป..
ปล.สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่าน เชื่อแน่ว่า งานสัปดาห์หนังสือคราวนี้ น่าจะมี pack set ลดราคาขายแน่นอน สนใจก็หาซื้อมาอ่านกันได้นะครับ ก่อนที่อีกหน่อยจะกลายเป็นของ Rare เพราะโอกาสพิมพ์ซ้ำน่าจะน้อยเอามากๆ เลยล่ะ
ปล.2 ผู้เขียนเคยบอกว่า จดหมายจากแฟนคลับที่เขียนส่งเข้ามา อันดับ 1 คือ “ได้โปรดให้ _____ ได้ลงเอยกับมานากะด้วยเถิด” ส่วนอันดับ 2 ก็คือ “ให้ซัตสึคิทำเรื่องลามกมากกว่านี้อีกหน่อยสิ”(ฮา)