ที่อยากพูดถึง Power Rangers เพราะหลังๆ เหมือนซีรี่ส์ Power Rangers จะเริ่มถูกพูดถึงในบ้านเรามากขึ้น แม้ซีรี่ส์นี้จะไม่ได้ฉายทีวีบ้านเรามานาน จนบางคนคิดว่า Power Rangers มีแต่ซีรี่ส์รีเมคของจูเรนเจอร์ชุดเดียวเท่านั้น แต่ไม่นานมานี้ NETFLIX ก็เริ่มเอาสองซีรี่ส์ล่าสุดมาฉายให้ชมกันอย่างจุใจ (มีให้ดูถึงภาค Ninja Steel) ซึึ่งอันที่จริง Power Rangers Series นั้นก็สร้างมาอย่างต่อเนื่องแม้จะมีช่วงสะดุดอยู่บ้าง ทว่านับจากปี 1993 เป็นต้นมาก็เป็นเวลานานกว่า 26 ปีแล้ว และมีด้วยกันถึง 26 ซีรี่ส์เลยทีเดียว แต่บางซีรี่ส์ก็ฉายต่อเนื่องเกิน 1 ปีนะ และซีรี่ส์ล่าสุดก็คือ Power Rangers Beast Morphers ที่เพิ่งฉายไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้เอง
Power Rangers ชุดแรกนั้น ใช้ชื่อซีรี่ส์ว่า Mighty Morphin Power Rangers เป็นการนำซีรี่ส์ขบวนการห้าสี(เซ็นไต)ชุดขบวนการไดโนเสาร์จูเรนเจอร์ของญี่ปุ่นมาทำใหม่โดยดัดแปลงให้เป็นแบบอเมริกัน ซึ่งซีรี่ส์ชุดนี้เคยนำเข้ามาฉายในบ้านเราทางช่อง 9 อสมท.สมัยก่อนด้วย แต่ตอนแรกผมก็ยอมรับว่ารู้สึกสับสนไม่น้อย เพราะ Mighty Morphin Power Rangers ออกฉายในบ้านเราหลังจูเรนเจอร์ (และไดเรนเจอร์)จบชุดไปแล้ว พออยู่ๆ เอา Mighty Morphin Power Rangers ของอเมริกามาฉายแทนที่จะเป็นคาคุเรนเจอร์ของญี่ปุ่นให้ต่อเนื่องกันไป (ซึ่งตอนหลังคาคุเรนเจอร์ไปโผล่ช่อง 3 เฉยเลย)ฉากต่อสู้หลายฉากรวมทั้งเหล่าหุ่นและสัตว์ประหลาดมันก็เลยดูซ้ำๆ กับจูเรนเจอร์ที่เคยดูไปแล้วแบบเลี่ยงไม่ได้ เพราะทางอเมริกา(SABAN)เล่นเอาหลายซีนมาใช้โดยไม่ได้ถ่ายใหม่หมด แถมเนื้อเรื่องของฉบับอเมริกันยังดูเด็กกว่าฉบับญี่ปุ่นมาก ก็เลยดูชวนเบื่ออยู่ไม่น้อย (แถมช่อง 9 ฉายไม่จบอีกต่างหาก) แต่สำหรับเด็กอเมริกันที่ไม่เคยดูจูเรนเจอร์หรือหนังขบนการชุดอื่นมาก่อน พอ Mighty Morphin Power Rangers ฉายทีวีก็กลายเป็นว่าฮิตระเบิดระเบ้อทำเรตติ้งติดสถิติสูงสุดตลอดกาล จนต้องมีการเอาไดเรนเจอร์กับคาคุเรนเจอร์มายำต่อให้กลายเป็นซีรี่ส์เดียวกัน โดยมีกลุ่มตัวเอกชุดเดิม และผู้ร้ายที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันแบบงงๆ แต่ก็กลายเป็นเรื่องเดียวกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ
สำหรับเรื่องราวของ Mighty Morphin Power Rangers จะกล่าวถึงริต้า แม่มดชั่วร้ายแห่ง Moon Palace ที่หมายจะยึดครองโลก ซอร์ดอนจึงได้คัดเลือกเหล่าเด็กหนุ่ม 5 คน มาปกป้องโลก (จูเรนเจอร์ของญี่ปุ่นเป็นชาย 4 หญิง 1 แต่ของอเมริกา เป็น ชาย 3 หญิง 2 เจ๋งมะ เพิ่มตัวผู้หญิงให้ด้วย) ซึ่งหนุ่มสาวทั้งห้าคนก็จะแปลงร่างเป็น Power Rangers และก็จะตามสูตรญี่ปุ่น คือพอผู้ร้ายแพ้ก็จะขยายร่าง พระเอกของเราก็จะเรียกหุ่นยักษ์หรือเมก้าซอร์ดมาช่วย และเอาชนะได้จนกลายเป็นสูตรสำเร็จแบบของญี่ปุ่น โดยตอนหลังก็จะมีเรนเจอร์คนที่ 6 คือ ทอมมี่ โผล่ออกมาแจมด้วย ซึ่งตัวเรนเจอร์คนอื่นนี่ก็จะมีสับเปลี่ยนกันบ้าง อย่าง เรด(เจสัน) แบล็ก(แซ็ค) เยลโล่(ทรีนี่) มีการเปลี่ยนตัวโดยให้เหตุผลในเนื้อเรื่องว่า ต้องไปเรียนต่อเลยต้องหาคนรับช่วงต่อ (ทิ้งการปกป้องโลกไปเรียนต่อเนี่ยนะ) ส่วนอีตาทอมมี่ที่เป็นเรนเจอร์คนที่ 6 นี่ตอนหลังๆ กลายเป็นหัวหน้าแถมยังอยู่ยาวลากไปอีกหลายซีรี่ส์ทีเดียว
เรื่องราวการต่อสู้ของริต้าและซอร์ดอนนั้นลากยาวมาหลายซีรี่ส์ตั้งแต่ปี 1993 จนมาสิ้นสุดที่ Power ranger in Space ซีรี่ส์ Power Rangers ลำดับที่ 5 (บางคนก็นับเป็น 6) ในปี 1998 (ซึ่งเป็นรีเมคของเมก้าเรนเจอร์ ซึ่งบ้านเรามีเรื่องแปลกๆ ตรงที่บ้านเราตอนนั้นฉายเมก้าเรนเจอร์ของญี่ปุ่น แต่หุ่นในเรื่องกลับเปลี่ยนชื่อพากย์เป็นแบบ Power Ranger อเมริกันแทนที่จะเป็นแบบญี่ปุ่น อาทิเช่นกาแลกซี่เมก้าก็จะกลายเป็นแอสโตรเมก้าซอร์ด ทั้งนี้เพราะว่าของเล่นที่เอามาขายในบ้านเรามาจากซีรี่ส์พาวเวอร์เรนเจอร์นั่นเอง) ซึ่งต้องออกปากชมเลยว่าทางอเมริกานั้นผสมเรื่องออกมาได้เนียนมาก แถมเนื้อหาก็เข้มข้นขึ้นไม่ใช่หนังเด็กแบบยุคแรกๆ (ญี่ปุ่นทำคาร์เรนเจอร์ออกมาขำๆ แต่เวอร์ชั่น Power Ranger นี่มาโทนจริงจังเลย) แถมยังมีอาวุธใหม่ๆ ที่เวอร์ชั่นญี่ปุ่นไม่มีอีก แฟนๆ ของหนังขบวนการเซ็นไตฝั่งญี่ปุ่นก็เลยเริ่มที่หันมาสนใจฮีโร่เรนเจอร์ฝั่งอเมริกามากขึ้น
เท่านั้นยังไม่พอ ในซีรี่ส์ Power ranger in Space ยังมีตอนที่ไปครอสโอเวอร์กับ Teenage Mutant Ninja Turtlesด้วย (ใช่ครับ นินจาเต่านั่นแหละ) แต่เรื่องราวจะเป็นยังไง ต้องไปหาดูกันเองนะ
หลังจากจบ Power ranger in Space และปิดจักรวาลของซอร์ดอนลง ก็ยังมีการสร้าง Power Rangers ต่อมาอีกหลายภาค (บางภาคก็มีประเด็นน่าสนใจ อย่าง Power Rangers Lightspeed Rescue ซึ่งเป็นรีเมคของขบวนการโกโกไฟว์นั้นมีนักแสดงชาวไทย (จริงๆ เป็นลูกครึ่ง ไทย-ไชนีสอเมริกัน แต่เกิดที่ระยอง) มารับบทเป็นบลูเรนเจอร์ด้วย คือคุณ Michael Chaturantabut (ไม่มั่นใจเรื่องชื่อสะกดภาษาไทย ขอทับศัพท์นะครับ) ซึ่งนอกจากจะเป็นนักแสดงแล้วยังเป็นอาจารย์สอนศิลปะการต่อสู้ชื่อดังที่มีลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์อย่าง Taylor Lautner ด้วย (จำได้ไหมครับ เขาคือ Jacob Black ใน The Twilight Saga ยังไงล่ะครับ)
และก็อย่างที่บอกไว้ในย่อหน้าที่แล้วว่า ถึงจะจบเรื่องราวของซอร์ดอนไปแล้ว แต่ Power Ranger Series ก็ยังคงสร้างต่อเนื่องมาอีกหลายซีรี่ส์ ซึ่งหลังๆ จะเป็นเนื้อเรื่องที่ไม่เชื่อมต่อกันแล้ว แต่อาจมีแขกรับเชิญจากซีรี่ส์เก่ามาแจมบ้าง จนถึงซีรี่ส์ Power rangers Wild Force ในปี 2002 ก็มีปัญหาเกิดขึ้น เมื่อลิขสิทธิ์ของ Power Rangers เปลี่ยนมือจาก SABAN กลายเป็น Disney ทำให้ Power rangers Wild Force ต้องเปลี่ยนช่องออกอากาศกลางเรื่อง จาก Fox Kids กลายเป็น ABC Kids และทาง Disney ก็ทำ Power Rangers มาอีกหลายซีรี่ส์ จนมาถึง Power Rangers RPM (ซึ่งเป็นรีเมคของโกออนเจอร์) ซึ่งกลายเป็นซีรี่ส์สุดท้ายของ Power Rangers ฉบับ Disney จากนั้น ลิขสิทธิ์ของ Power Rangers ก็กลับมาเป็นของ SABANS อีกครั้ง (แต่ก็ทำให้เกิดการเว้นวรรคขึ้นในปี 2010 ที่ไม่มีซีรี่ส์ Power Rangers ออกฉายเลย) และ SABAN ก็เข็น Power Rangers ออกมาอีกหลายซีรี่ส์ ไปจนถึงภาคหนังโรงที่หลายๆ คนคงได้ดูแล้ว (ชอบหรือเปล่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง) และล่าสุดก๋็กำลังจะความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการทำตลาดของเล่นในอเมริกาอีก เนื่องจากทาง Hasbro ยักษ์ใหญ่ของเล่นอเมริกาได้เข้ามามีเอี่ยวทางลิขสิทธิ์ตั้งแต่ปี 2019 นี้ด้วย ซึ่งเดี๋ยวคงจะพูดถึงกันในโอกาสต่อไป
ปล.บทความนี้ เคยเขียนลงนิตยสารเซนชูเมื่อหลายปีก่อน แต่ผมเอามาเขียนปรับแก้ใหม่ และอัพเดทเนื้อหาให้เป็นปัจจุบันขึ้น เพราะตอนที่พิมพ์ในนิตยสาร หนังโรงเวอร์ชั่นฮอลลีวูดยังไม่ได้ฉายเลยด้วยซ้ำ