Oh My Goddess!

             ถึงแม้ว่าชื่อของ อ.ฟูจิชิมะ โคสุเกะ ในปัจจุบันอาจจะเงียบหายไป แม้กระทั่งเกมชุดซากุระไทเซ็นภาคใหม่ อ.ฟุจิชิมะ ก็ไม่ได้ออกแบบตัวละครให้แล้ว แต่ในยุค 90 นั้นถือได้เลยว่าเป็นยุคทองของ อ.ฟุจิชิมะจริงๆ เพราะนอกจากเกมซีรี่ส์ซากุระไทเซ็นจะฮิตแล้ว ยังมีผลงานในระดับตำนานอย่างๆ Oh My Goddess! ซึ่งเขียนมาตั้งแต่ปี 1988! หรือกว่า 31 ปีมาแล้ว!และเพิ่งจบไปเมื่อห้าปีก่อนนี้เอง รวมแล้วการ์ตูนเรื่องนี้ตีพิมพ์ในนิตยสาร Afternoon ของโคดันฉะมานานต่อเนื่องถึง 26 ปี! และมีรวมเล่มออกมาถึง 48 เล่ม เป็นผลงานที่ยาวที่สุดในชีวิตของ อ.ฟูจิชิมะ โคสุเกะเลยล่ะครับ

               Oh My Goddess หรือชื่อไทย “นางฟ้าแสนกล” “เทพธิดาอลเวง” (แล้วแต่ สนพ.ในบ้านเราจะตั้งชื่อ แต่คอมมิคลิขสิทธิ์ใช้ชื่อว่า โอ้เทพธิดา ตรงๆ เลย” เป็นเรื่องราวของ โมริซาโตะ เคย์อิจิ นิสิตคณะวิศวกรรมของมหาวิทยาลัยเนโคมิ ได้โทรศัพท์แล้วสายดันไปติดสำนักงานเทพธิดาเข้า เทพธิดาเบลล์ดันดี้ที่รับสายอยู่เลยจะให้พรเคย์อิจิประการหนึ่ง แต่เคย์อิจินั้นเป็นคนดวงอาภัพเรื่องผู้หญิง และไม่ค่อยเชื่อเรื่องเทพธิดาสักเท่าไหร่ ก็เลยพูดเล่นๆ ไปว่า ขอให้เทพธิดามาอยู่เคียงข้างเขา เบลล์ดันดี้ก็เลยโผล่ออกมาเฉยเลย และจากนั้นไม่พอ พี่น้องของเบลล์ดันดี้อย่างอุรด์ และ สกัลด์ ก็ยังตามมาสร้างความวุ่นวายให้กับพวกเคย์อิจิเข้าไปอีก

               เนื้อเรื่องของ Oh My Goddess นั้นแรกๆ ก็เป็นเรื่องราวชีวิตประจำวันของเคย์อิจิ และเบลล์ดันดี้ ซึ่งดูเหมือนจะเดินเรื่องไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยมีอะไร (จนบางทีก็ดูเหมือนเอื่อยๆ ไปนิด) แต่ช่วงหลังๆ ก็เริ่มมีความซับซ้อนมากขึ้น มีเทพธิดา ปีศาจ โผล่เข้ามาวุ่นวายมากขึ้น กระทบไปถึงมิติสวรรค์ มิติเวลาโน่นเลย (และที่น่าสนใจก็คือ การร่ายคาถาของเทพธิดาฯ ในต้นฉบับญี่ปุ่นจะใช้ฟอนต์ตัวอักษรภาษาไทยมาเรียงๆ กันแทนการร่ายคาถา อาจเพราะในตอนนั้น ตัวหนังสือภาษาไทยยังดูเป็นของแปลกสำหรับคนญี่ปุ่นก็ได้มั้ง)

แต่จุดเด่นของเรื่องนี้คือ ลายเส้นของ อ.ฟูจิชิมะ โคสุเกะ ที่พริ้วสวยและมีพัฒนาการอย่างน่าสนใจ ทำให้คาแรกเตอร์ของเบลล์ดันดี้ที่มีภาพลักษณ์ของเทพธิดาที่แสนดีและบอบบางนั้นถูกนำมาทำเป็นฟิกเกอร์และสินค้ามากมาย งานรวมภาพ illust ก็ขายดิบขายดี (ใครมีนี่เอามาอวดเพื่อนได้เลย) ในตลาดฟิกเกอร์ยุค 90 (ซึ่งยังไม่ใช่ฟิกเกอร์สำเร็จรูปแบบสมัยนี้) เรียกได้ว่าเป็นเวทีประลองของเหล่าโมเดลเลอร์ที่ออกฟิกเกอร์เบลล์ดันดี้มาขายเยอะมากจริงๆ เพราะความพริ้วไหวของส่วนต่างๆ โดยเฉพาะส่วนเสื้อผ้าและเส้นผมนี่คือเป็นตัววัดใจเหล่าโมเดลเลอร์เลยว่า จะปั้นเบลล์ดันดี้ออกมาได้สวยเหมือนต้นฉบับได้มากแค่ไหน แถมงานออกแบบเครื่องจักรของ อ.ฟูจิชิมะ ในเรื่องนี้ก็ยังดูมีเสน่ห์ (อ.แกบ้ารถยนต์ ดูจากผลงานก่อนหน้านั้นได้ แถมพระเอกเรื่องนี้ยังเรียนวิศวะด้วย) และไปกันได้ด้วยดีกับลายเส้นผู้หญิงที่แสนอ่อนช้อยอย่างน่าประหลาด

                ส่วนฉบับอนิเมก็ทำออกมาหลายภาค ประกอบด้วย OVA 5 ตอนในปี 1993-1994 (และมี OVA ตามมาอีกหลายชุดมาก) ทีวีซีรี่ส์ (Mini Goddess) 48 ตอนในปี 1998 ภาพยนตร์ในปี 2000 ทีวีซีรี่ส์ชุดใหม่ 26 ตอนในปี 2005 และในปี 2006 อีก 24 ตอน ซึ่งบางภาคก็เคยมีคนซื้อลิขสิทธิ์มาให้ชมในบ้านเราด้วย โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นงานของสตูดิโอ AIC ยกเว้นภาค Mini Goddess ที่เป็นผลงานของสตูดิโอ OLM ซึ่งก็ถ่ายทอดเรื่องราวของเหล่าเทพธิดาออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมสมกับที่มีแฟนๆ ติดตามอย่างเหนียวแน่นทีเดียว

เบลล์ดันดี้

หนึ่งในสามเทพธิดาตามตำนานแห่งเทพนอร์ธ เธอคือเทพธิดาแห่งปัจจุบัน และเป็นเทพธิดาระดับ 1 (ไม่จำกัด) มีนิสัยอ่อนโยน รักสงบ สมกับเป็นเทพธิดาจริงๆ ชอบจิบชาและของน่ารักๆ รวมถึงเคย์อิจิด้วย แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงหลวมตัวมาอาศัยอยู่ร่วมชายคาเดียวกับเคย์อิจินี่สิ เบลล์ดันดี้ให้เสียงพากย์ในเวอร์ชั่นอนิเมโดย อิโนะอุเอะ คิคุโกะ และเป็นผลงานสร้างชื่อของเธอด้วย (ปัจจุบันถึงเธอจะมีอายุ 55 ปีแล้ว แต่ก็ยังมีผลงานพากย์ออกมาเรื่อยๆ นะ)

อุรด์

พี่สาวของเบลล์ดันดี้ เป็นเทพธิดาแห่งอดีต และเป็นเทพธิดาระดับ 2 (จำกัด) แต่เธอมีลักษณะที่แตกต่างจากเบลล์ดันดี้พอสมควรเพราะเธอกับเบลล์ดันดี้เป็นพี่น้องต่างมารดากัน โดยอุรด์นั้นเป็นลูกครึ่งปีศาจ (มารดาของอุรด์คือ ฮิลด์ จ้าวแห่งโลกปีศาจ) งานอดิเรกของอุรด์นั้นคือการปรุงยา

สกัลด์

น้องเล็กของสามเทพธิดา เป็นเทพธิดาแห่งอนาคต และเป็นเทพธิดาระดับ 2 (จำกัด) เป็นพี่น้องร่วมมารดากับเบลล์ดันดี้ จึงรักและหวงเบลล์มาก (แน่นอนว่าทำให้ตอนแรกเธอมีอคติกับเคย์อิจิไม่น้อย) เธอเป็นเทพธิดานักประดิษฐ์ที่สร้างอุปกรณ์ไฮเทคออกมามากมาย