สารพัดวิธีไปงานหนังสือที่เมืองทองแบบมักเกิลเมืองทอง

อีกไม่กี่วัน ก็จะถึงงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 24 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 2-13 ต.ค. 62 ณ ชาเลนเจอร์ 2 เมืองทองธานี กันแล้วนะครับ ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่งานหนังสือระดับชาติจะย้ายมาจัดที่เมืองทองธานี ซึ่งหลายๆ คนอาจจะไม่คุ้นเคยกันสักเท่าไหร่ การเดินทางก็ไม่ได้สะดวกสำหรับคนที่เคยชินกับรถไฟฟ้า เพราะรถไฟฟ้าที่เข้าอิมแพคยังสร้างไม่เสร็จ รถติดแจ้งวัฒนะก็ขึ้นชื่อว่าไม่แพ้ใคร แถมบางคนก็มีความกังวล เพราะอันที่จริง ทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ เคยไปลองจัดงานหนังสือขนาดย่อม ๆ ที่อิมแพคมา 2-3 ครั้งแล้ว และก็เจ็บตัวทุกครั้งเสียด้วย

งาน Big Bad Wolf งานหนังสือต่างประเทศที่เมืองทองที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง แม้ดึกดื่นก็ยังมีคนมาเดินงานกันตลอด 24 ชั่วโมง!

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา งาน Big Bad Wolf ได้ไปลองจัดงานหนังสือต่างประเทศที่อิมแพคแบบยิงยาว 24 ชั่วโมง แล้วปรากฎว่าผลตอบรับดีมาก คนมากันหนาตาแม้กระทั่งตอนตี 2! และด้วยเหตุผลเรื่องสถานที่จัดงานเดิม(ศูนย์ประชุมฯ) ต้องปิดปรับปรุง ทำให้งานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ ต้องย้ายมาจัดที่เมืองทอง ซึ่งตัวผมที่ใช้ชีวิตอยู่ในย่านนี้มานานกว่า 20 ปี และเคยอาศัยอยู่ในเมืองทองมาตั้งแต่ยุคเมืองร้าง (ปัจจุบันย้ายออกไปแล้ว แต่ก็ยังอาศัยอยู่ย่านแจ้งวัฒนะ ซึ่งยังจำเป็นต้องผ่านเมืองทองทุกวัน) ก็เลยจะมาบอกเล่าถึงวิธีเดินทางมายังเมืองทองแบบง่ายๆ ในมุมมองของผม ซึ่งอาจจะมีมุมมองและความเห็นที่ต่างไปจากทางสมาคมฯ บ้าง แต่ก็คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังจะวางแผนมางานหนังสือที่เมืองทองนะครับ

ภาพอิมแพคโดยรวม จากเพจ IMPACT Arena, Exhibition and Convention Center

เอารถส่วนตัวไป ไม่ต้องกลัวไม่มีที่จอดรถ

จุดแข็งของอิมแพคเมืองทองธานีก็คือ ที่จอดรถจำนวนมหาศาล ชนิดที่ศูนย์ประชุมไหนๆ ก็เทียบไม่ได้ คือรองรับได้ถึง 16,222 คัน! ถ้าจอดสะดวกสุดก็ลานจอดใต้อาคารชาเลนเจอร์ (ใต้ที่จัดงานหนังสือนั่นแหละครับ) ตรงนั้นก็จุได้มากกว่า 2,500 คัน (แต่เต็มง่ายสุด) แต่ถ้าไม่มีที่ก็สามารถมาตรงอาคารจอดรถที่อยู่ติดกับโรงแรมโนโวเทลได้ ตรงนั้นก็ทะลุมาอาคารชาเลนเจอร์ได้เหมือนกันครับ แต่ถ้าไม่มีที่จอดอีก ก็ยังมีอาคารจอดรถ Indoor Parking 3 ตรง Outlet ที่เชื่อมต่อกับอิมแพคอารีน่าได้อีก และมีลานจอดรถกลางแจ้ง ลาน Aktiv Square (บางทีก็เปิดเป็นลานจอดรถ ถ้าคนเยอะ) หรือถ้าขยันเดิน ก็ไปจอดตรงคอสโมบาซาร์ได้ (จอดฟรี 2 ชั่วโมงด้วย) ชอบตรงไหนก็เลือกเอาตามสะดวกครับ และไม่ต้องกลัวเดินไกล เพราะปกติเวลามีงาน อิมแพคจะจัดรถรางวิ่งรอบอาคารตลอดเวลา แถมรถยังมาค่อนข้างถี่ด้วย

ปล.จุดจอดรถแต่ละที่ มีอัตราค่าจอดที่แตกต่างกัน แต่ก็มีลานจอดรถกลางแจ้ง P4-P5 ที่จอดฟรี รองรับได้ 1,623 คันครับ แต่อย่าไปจอดโซนคอนโดฯ นะครับ นอกจากจะหาที่จอดยากแล้ว แถวคอนโดฯ รถยังหายบ่อยด้วย!

ทางด่วนก็สะดวกนะ..แต่

สำหรับคนที่ขับรถมาเมืองทองสามารถขึ้นทางด่วนมาลงในเมืองทองได้เลย แต่ตรงนี้มีจุดที่ต้องบอกก่อนตรงที่ ถ้าลงตรงถนนแจ้งวัฒนะแล้วกลับรถเข้าเมืองทอง จะเสียค่าทางด่วนประมาณ 15-60 บาท แต่ถ้านั่งไปลงข้างในเมืองทองเลย จะต้องเสียเพิ่มอีก 35 บาท ซึ่งแน่นอน หากลงตรงแจ้งวัฒนะก็จะประหยัดเงินไปหน่อย แต่ก็ต้องทนรถติดแถวแจ้งวัฒนะอยู่นิดหน่อยด้วยนะ หากยอมจ่ายเพิ่มอีก 35 บาท ก็จะไปลงตรงหลังอิมแพคเข้าลานจอดรถได้แบบง่ายๆ เลย หรือถ้ามาจากเส้นสรงประภา ก็สามารถเข้าเมืองทองทางคลองประปาได้ครับ เส้นสรงประภารถไม่ค่อยติดด้วย

ขึ้นทางด่วนยาวๆ ไปลงแจ้งวัฒนะได้เลย แต่ถ้าเป็นชั่วโมงเร่งด่วน แนะนำให้ยอมเสียเพิ่มอีก 35 บาท ลงในเมืองทองเลยจะดีกว่านะ

รถตู้คือทางเลือกที่ดีที่สุด

ถ้าไม่มีรถยนต์ส่วนตัว การขึ้นรถตู้คือทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางมาเมืองทองครับ เพราะที่เมืองทองเป็นเหมือนชุมสายรถตู้ที่มีรถเดินทางไปกลับทั้งจากอนุสาวรีย์ รังสิต งามวงศ์วาน บางกะปิ สนามหลวง ซึ่งถ้าใครถนัดรถไฟฟ้า มาขึ้นรถตู้ตรงอนุสาวรีย์ฯ จะดีที่สุดครับ ขึ้นทางด่วนแป๊บเดียวถึงเลย หรือจะมาขึ้นตรง BTS จตุจักรก็ได้ แต่คิวรถอนุสาวรีย์จะมีจำนวนรถเยอะกว่า และออกถี่กว่าครับ โดยจุดขึ้นรถตู้ในเมืองทองจะอยู่ที่อาคารคอสโมบาซาร์ ชั้น 2 ที่มีระบบบัตรคิวแบบสนามบิน แถมมีห้องแอร์ให้รอรถตู้ด้วยนะครับ

ปล.รถอนุสาวรีย์ฯ จะหมดราว 4 ทุ่ม แต่ปกติถ้ามีงานใหญ่ๆ เช่นคอนเสิร์ต มักจะขยายเวลาเป็นเที่ยงคืน ยังไงก็ลองตรวจสอบกับทางรถตู้อีกครั้งนะครับ

อาคารคอสโมบาซาร์ เป็นห้างสรรพสินค้าในเมืองทอง อยู่ทางทิศตะวันออกของอิมแพค สามารถเดินมาจากอิมแพคได้ ชั้นล่างเป็นศูนย์อาหาร ชั้นสองเป็นชุมทางรถตู้ ชั้น 3 เป็นโรงหนัง SF Cinema

อัตราค่าโดยสารรถตู้ที่อาคารคอสโมบาซาร์

  • เมืองทองธานี – อนุสาวรีย์ชัยฯ  30  บาท (ล่าสุดแว่วว่า 35 บาทแล้ว) เวลาให้บริการ 05.00 – 22.00 น. (ตลอดวัน)
  • เมืองทองธานี – เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน  25  บาท (ล่าสุดได้ข่าวว่า 27 บาท) เวลาให้บริการ 06.20 – 21.30 น. (ตลอดวัน)
  • เมืองทองธานี – บางกะปิ – รามคำแหง 40  บาท เวลาให้บริการ 06.20 – 08.30 น. และ 16.00 – 21.00 น. (เช้า-เย็น)
  • เมืองทองธานี – ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต   35  บาท เวลาให้บริการ 06.00 – 09.30 น. และ 16.00 – 21.30 น. (เช้า-เย็น)
  • เมืองทองธานี – สนามหลวง  40  บาท (ล่าสุด 45 บาท จอดตรงโรงแรมรัตนโกสินทร์ เวลาให้บริการ 05.00  – 21.30 น. แต่รอรถนานหน่อย)
  • เมืองทองธานี – จตุจักร  35  บาท (จอดตรงลานจอด BTS) เวลาให้บริการ 06.00 – 21.00 น. (ตลอดวัน)

(หมายเหตุ อย่าสับสนระหว่างรถตู้ปากเกร็ดกับรถตู้เมืองทองนะครับ รถตู้ปากเกร็ดจะไปสุดสายท่าน้ำปากเกร็ด และไม่เข้าเมืองทอง รถตู้เมืองทองจะไปสุดสายอาคารคอสโมบาซาร์ครับ)

คิวรถตู้ที่คอสโมบาซาร์ จะเป็นระบบบัตรคิว และมีห้องแอร์ให้รอด้วยครับ

รถเมล์ก็ไปถึงในเมืองทองได้นะ แต่ต้องดูให้ดี

สำหรับรถเมล์ที่ไปถึงข้างในเมืองทองได้ ก็มีสาย 166 ครับ ขึ้นจากป้ายอนุสาวรีย์ ขึ้นทางด่วนไปลงสุดสายเมืองทองธานีเลย แต่ถ้าเลือกได้ นี่เป็นทางที่ผมไม่แนะนำครับ เพราะรถเมล์สาย 166 พอลงด่วนปุ๊บ มันจะไม่เข้าเมืองทอง แต่จะวนไปที่ท่าน้ำปากเกร็ดก่อน แล้วค่อยย้อนกลับเข้ามาเมืองทองครับ ซึ่งใครอยู่แถวนั้นก็คงรู้ว่า เส้นแจ้งวัฒนะตอนกำลังก่อสร้างรถไฟฟ้า ติดสาหัสแค่ไหน หรือเวลาขึ้น 166 จากแจ้งวัฒนะ ต้องสังเกตป้ายหน้ารถดีๆ ด้วย ว่าเป็นรถที่ลงจากทางด่วน (ป้ายจะเขียนว่าเมืองทอง) หรือรถที่มาจากในเมืองทอง (ป้ายจะเขียนว่าอนุสาวรีย์) ไม่เช่นนั้นจะเสียเวลาวนไปวนมาเป็นชั่วโมงเลย

ถ้าเจอรถเมล์สาย 166 ป้ายเหลือง เขียนว่า อนุสาวรีย์ แปลว่าเป็นรถที่ออกจากเมืองทอง กำลังจะไปอนุสาวรีย์ ซึ่งปกติ รถ 166 ที่เข้าเมืองทอง จะใช้ป้ายสีแดง เขียนว่า เมืองทอง เป็นจุดสังเกตครับ

ส่วนใครที่จะนั่งรถเมล์มาลงหน้าเมืองทอง แล้วนั่งวินมอเตอร์ไซค์หรือสองแถว(สีขาว สาย 1)เข้ามาเมืองทอง ก็ได้นะครับ แต่อาจจะยุ่งยากนิดหน่อย รถโดยสารประจำทางที่ผ่านหน้าเมืองทองก็มี สาย  52, 150, 356  และรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ สาย 150, 356 ครับ แต่ถ้าจะมาเส้นติวานนท์ ก็มีรถโดยสารประจำทาง สาย 33, 90, 51, และรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ สาย 367, 359 มาลงตรงทางเข้าเมืองทองฝั่งติวานนท์ (มีจุดสังเกตคือ ร้าน KFC แบบไดร์ฟอิน และ ศูนย์รถโตโยต้าชัวร์) แล้วต่อรถสองแถว (สีขาว สาย 2) ก็สามารถเข้ามาภายในเมืองทองได้เช่นกันครับ

เรือด่วนเจ้าพระยา จากสาธร ใช้เวลาเดินทางถึงท่าน้ำปากเกร็ดประมาณ 1.30-1.45 ชม. มาถึงแล้วขึ้นรถเมล์สาย 166 (ป้ายสีแดง เมืองทอง) ต่อเข้าเมืองทองได้เหมือนกัน ประหยัดด้วย

หมายเหตุ ในช่วงวันธรรมดา สามารถนั่งเรือด่วนเจ้าพระยา ธงเขียวมาลงที่ท่าน้ำปากเกร็ด และนั่งรถเมล์สาย 166 ต่อเข้าเมืองทองได้ด้วยนะครับ แต่ให้บริการเฉพาะช่วงเช้าและเย็นวันจันทร์-ศุกร์นะ  เรือด่วนพิเศษธงเขียว เส้นทาง : ปากเกร็ด – นนทบุรี – สาทร บริการ  จันทร์ – ศุกร์  06.10 – 08.10 น. (เช้า) 16.05 – 18.05 น. (เย็น)

กลับดึก..รถหมด ทำไงดี ก็นอนในเมืองทองเลยสิ

ถ้าถึงคราวจำเป็นต้องกลับดึก และไม่มีรถกลับจริงๆ เช่น ตอนมีคอนเสิร์ตดึกๆ คนจะออกพร้อมกันเยอะ และรถตู้หรือแท็กซี่มีไม่พอ (บางทีก็โดนบังคับเหมา) การพักค้างแรมในเมืองทอง ก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ครับ โดยในตัวเมืองทองนั้น มีโรงแรมใหญ่ถึงสองโรงแรม คือโรงแรมโนโวเทล โรงแรมระดับ 4 ดาว ที่เชื่อมต่อกับอาคารชาเลนเจอร์โดยตรงเลย ราคาเริ่มต้นที่ประมาณคืนละสองพันบาท อีกแห่งก็คือโรงแรมไอบิส ที่อยู่ตรงข้ามกับฮอลล์ 12 (ฮอลล์ 8 เดิม) ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณพันนิดๆ ซึ่งก็ถือว่าไม่แพงมาก เวลาคนมาดูคอนเสิร์ตที่นี่แล้วขี้เกียจเดินทางดึกๆ ก็จะนอนพักกันเยอะพอสมควร

อีกวิธีนึ่หนึ่งก็คือการหาที่พักรายวันในคอนโดเมืองทองธานี ซึ่งราคาค่อนข้างถูก คืนละ 500 ก็พอหาได้ แต่คุณภาพก็เป็นแบบห้องเช่านะ ไม่ใช่โรงแรม และควรจองไว้ล่วงหน้าครับ โดยมาเดินหาตามป้ายประกาศในคอนโดเมืองทองนี่แหละครับ ใครที่จะมาออกบูธที่เมืองทอง ก็ควรจะมาสำรวจห้องพักแถวนี้เอาไว้ล่วงหน้าด้วยนะ แนะนำให้เช่าเหมาเลย ส่วนเรื่องอาหารการกินไม่ต้องห่วง ใต้คอนโดมีร้านอาหารให้ทานตลอด 24 ชั่วโมง หรือจะเดินมา Max Value ก็เปิด 24 ชั่วโมงเหมือนกัน

โรงแรมโนโวเทลแบงคอคอิมแพค สำหรับคนขี้เกียจกลับดึก (ภาพเซฟมาจากเวบไซต์ของโรงแรม)

เมืองทองไม่เคยหลับ งานหนังสือไม่เคยตาย

ในเวลาแค่ 20 ปีนี้ ต้องยอมรับว่าเมืองทองธานีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก ที่นี่ไม่ใช่เมืองร้างเหมือนสมัยก่อน แต่กลับเป็นชุมชนที่มีผู้คนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ห้าง ศูนย์อาหาร ศูนย์กีฬา สวนสาธารณะ มหาวิทยาลัย ทีมฟุตบอล โรงหนัง วัด (ขาดก็แค่รถไฟฟ้า ที่กำลังก่อสร้างสายสีชมพูอยู่) และเป็นศูนย์แสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในไทย มีชื่อเสียงในระดับโลก

การย้ายงานหนังสือมาเมืองทอง สำหรับหลายๆ คนอาจจะรู้สึกว่า มันไกล มันเสี่ยง บางคนก็เข็ดหลาบจากการที่เคยมาออกบูธขายหนังสือที่นี่แล้วเจ๊งมาก่อน แต่อย่าลืมว่า ตอนนี้กับสมัยก่อนมันไม่เหมือนกัน เมืองทองผ่านงานแสดงสินค้าระดับโลกมาแล้วมากมาย แม้กระทั่งงานหนังสือ Big Bad Wolf ก็ยังประสบความสำเร็จอย่างสูงที่เมืองทอง มีคนเดินซื้อหนังสือให้เห็นกันตลอด 24 ชั่วโมง การย้ายงานหนังสือมาจัดที่เมืองทองรอบนี้ แน่นอนว่ามีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จสูงด้วยเช่นกัน อย่างน้อยถ้ามีคนเดินงานไม่น้อยกว่างาน BBW ล่ะก็ ผมว่าหลายๆ คนก็คงยิ้มออกแล้วล่ะ

ปล.ถ้ามีคนอ่านเยอะ ผมอาจจะมาแนะนำร้านอาหารในเมืองทองกันต่อ ซึ่งบอกเลยว่าเยอะมาก…มีตั้งแต่ข้าวแกงราคาถูก อิซากายะ สารพัดฟาสต์ฟู้ด อาหารทะเล ร้านอาหารริมน้ำ ไปจนถึงภัตราคารหรูระดับต้นๆ ของประเทศเลยทีเดียว รับรองว่ามางานหนังสือรอบนี้ มีที่ให้กินกันเพียบเลยครับ