ผลงานอนิเมที่โลกลืมในปี 2014 ที่สร้างจากนิยายดังที่กำลังมาแรงของโนโซมิ โคตะ ในตอนนั้น และออกแบบคาแรกเตอร์โดย 029 (อ่านว่า โอนิขุ) ที่มีผลงานที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง “ผู้กล้าซึนซ่าส์กับจอมมารสู้ชีวิต” ซึ่งคราวนี้จะเป็นเรื่องราวของกลุ่มเด็กนักเรียนที่อยู่ดีๆ ก็มีพลังพิเศษขึ้นมา แต่ในยุคสมัยนี้ การมีพลังพิเศษกลับกลายเป็นส่วนเกินที่ไม่รู้จะเอาพลังนี้ไปทำอะไร จะไปสู้กับมอนสเตอร์ก็ไม่มีให้สู้ โลกก็สงบสุขดีอยู่แล้ว ก็ได้แต่เอาพลังพิเศษนี้มาใช้สนุกๆ ในชีวิตประจำวัน แต่มันจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ หรือ?

ผลงานเรื่องนี้สร้างโดยสตูดิโอทริกเกอร์ สตูดิโอใหม่แกะกล่องในตอนนั้น เพราะตัวสตูดิโอเพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2011 (ตอนนี้ครบ 10 ปีแล้ว) โดย อิมาอิชิ ฮิโรยุกิ และ โอซึกะ มาซาฮิโกะ ที่แยกตัวออกมาจากสตูดิโอไกแนกซ์ ซึ่งผลงานซีรี่ส์เรื่องแรกของทริกเกอร์นั้นก็โด่งดังไม่น้อยเลยครับ กับ คิลลาคิล หนึ่งในอนิเมที่สร้างเสียงฮือฮาที่สุดในช่วงก่อนหน้านั้น และผลงานเรื่อง Inou-Batoru wa Nichijou-kei no Naka de หรือ พลังป่วนก๊วนเหนือธรรมชาติ ของสตูดิโอทริกเกอร์ ก็ดูเหมือนจะได้รับคำชมไม่น้อยทีเดียว แต่ทำไมถึงไม่ได้สร้างต่อล่ะ?

สำหรับเนื้อเรื่องของอนิเมนั้นก็อย่างที่บอกครับว่า เป็นเรื่องราวของสมาชิกชมรมวรรณศิลป์ 4 คน+เด็กประถมอีก 1 คน ที่ได้รับพลังพิเศษมาได้ยังไงก็ไม่รู้ แล้วบังเอิญตัวเอกของเรื่อง (จุไร) ก็ดันเป็นพวกจูนิเบียวที่บ้าพลังพิเศษเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอมีพลังพิเศษก็ดีใจจนเนื้อเต้นแม้ว่าจริงๆ แล้วพลังพิเศษของเจ้าตัวจะห่วยแตกสุดๆ ก็ตามที

ซึ่งเนื้อเรื่องในอนิเมกับนิยายจะเดินเรื่องแตกต่างกันอยู่พอสมควรครับ เพราะตัวนิยายนั้นจะล้อเลียนการ์ตูนเรื่องอื่นค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะสายการ์ตูนผู้ชายอย่างดราก้อนบอล ฮันเตอร์ โจโจ้ จะเยอะเป็นพิเศษ (โจโจ้จะถูกพาดพิงบ่อยที่สุด) อย่างเช่นพลังของโทโมโยะนี่ในนิยายจุไรจะบอกเลยว่ามันคือพลังของดิโอ(โจโจ้)ผสมกับคล็อกอัพ(ไรเดอร์คาบูโตะ) แต่ในส่วนของอนิเมเข้าใจว่าคงทำแบบนั้นไม่ได้เพราะคงจะมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ตามมาอย่างแน่นอน ดังนั้นโทนเรื่องของอนิเมจึงออกมาเน้นแอ๊กชั่นที่หวือหวามากกว่า และผมว่ามันก็เป็นสาเหตุที่อนิเมเรื่องนี้แป้กด้วย..ลองนึกถึงกินทามะที่ไม่จิกกัดชาวบ้านสิครับ อนิเมเรื่องนี้ก็ประมาณนั้นแหละ คือถามว่าสนุกไหม ก็สนุกนะ งานดีเลยแหละ แต่สู้นิยายไม่ได้เลย..

แต่ไม่ว่าอย่างไรทั้งสองเรื่องก็เดินไปบนเส้นทางเดียวกัน (แต่ก็ไม่ได้สร้างต่อจนจบอยู่ดี) แถมเพลงประกอบอนิเมเรื่องนี้ก็เพราะมากด้วยนะครับ นักพากย์ก็ถือว่ามีชื่อเสียง และก็มีฟิกเกอร์ออกมาให้สะสมกันบ้าง เนนโดรอยด์ก็มีทำออกมา 1 ตัว (โทโมโยะ) ซึ่งผมซื้อเก็บไว้ด้วย เสียดายที่ไม่ทำตัวอื่นออกมาให้ครบๆ อาจเพราะกระแสตอบรับมันน้อยกว่าที่คาดนี่แหละ เสียดายเหมือนกัน ใครยังไม่เคยดูก็ลองหานิยายมาอ่านได้นะครับ
ปล.บทความนี้ผมเคยเขียนลงนิตยสารเซนชูเมื่อ 7 ปีก่อน แต่ผมเอามารีไรท์ใหม่ครับ