Demon Slayer Swordsmith Village ดาบพิฆาตอสูร : สู่หมู่บ้านช่างตีดาบ

ผมคงไม่ต้องอธิบายว่า ดาบพิฆาตอสูร ดังแค่ไหน แม้ตอนนี้กระแสอาจจะเริ่มๆ จางลงบ้าง เพราะตัวหนังสือการ์ตูนจบไปพักใหญ่ๆ แล้ว แต่พอ ดาบพิฆาตอสูร : สู่หมู่บ้านช่างตีดาบ เข้าฉายที่ญี่ปุ่น ก็ยังทำรายได้ขึ้นเป็นอันดับ 1 และพอเปิดรอบพิเศษในไทย ก็มีคนจองบัตรเข้าไปชมกันเต็มโรงเลยครับ

แต่บอกกันก่อนนะครับว่า ดาบพิฆาตอสูร : สู่หมู่บ้านช่างตีดาบ นั้น เป็นการเอาสองตอนสุดท้ายจาก ดาบพิฆาตอสูร ซีซัน 2 ย่านเริงรมย์ มารวมกับ ดาบพิฆาตอสูร : สู่หมู่บ้านช่างตีดาบ ทีวีซีรีส์ตอนแรกที่ยังไม่ออนแอร์ รวมความยาวทั้งหมด 109.33 นาที ซึ่งพูดกันตามตรง คนที่ไปดู ก็คืออยากจะไปดู ดาบพิฆาตอสูร : สู่หมู่บ้านช่างตีดาบ ตอนแรกก่อนใครนั่นแหละครับ ส่วนบทย่านเริงรมย์นั้นเหมือนเป็นของแถมมากกว่า

ทว่าหากเอาจริงๆ เนื้อหาที่ฉายโรงที่ทำออกมาดีที่สุดก็คือ บทย่านเริมรมณ์นั่นแหละครับ เพราะฉากต่อสู้ในบทนี้มันอลังการงานสร้างมากๆ เสียดายที่ตัวหนังไม่ได้เริ่มฉายตั้งแต่ช่วงเนซึโกะโชว์เทพ ในหนังโรงภาคนี้เราเลยไม่ค่อยได้เห็นบทบาทของเนซึโกะมากนัก แม้แก่นเรื่องจริงๆ ของสองตอนนี้ กับบท หมู่บ้านช่างตีดาบ ตอนแรก จะเป็นเรื่องพี่น้องก็ตาม

ส่วนบท หมู่บ้านช่างตีดาบ ตอนแรกนั้น สำหรับผมมันเหมือนกับช่วงเกริ่นเรื่องมากกว่า เพราะในตอนแรกมันยังไม่มีการโชว์ฉากแอ๊กชั่นอะไรมากนัก แต่ก็มีการเปิดตัวละครหลักที่จะมีบทเด่นในภาคนี้ อย่าง เสาหลักหมอก โทคิโตะ มุอิจิโร่ นักดาบอัจฉริยะที่สามารถขึ้นมาเป็นเสาหลักด้วยอายุน้อยที่สุด และ เสาหลักความรัก คันโรจิ มิตสึริ ซึ่งกระแสนางดีมาตั้งแต่เปิดตัว เพราะรอบที่ผมไปดู มีคนคอสเป็น คันโรจิ มิตสึริ กันเยอะมากครับ แม้บทที่ออกมาในหนังโรงจะไม่มากนัก เพราะเป็นแค่ตอนแรก แต่ก็มีบทแช่ออนเซ็นที่ฮือฮากันมาก่อนหน้านี้แล้วว่า จะโดนตัดออกไหม ซึ่งคำตอบก็คือ ไม่ตัดนะครับ เต็มๆ เลย

และส่วนที่ผมชอบอีกจุดก็คือ เราจะได้ฟังเพลงเปิดใหม่ KIZUNA NO KISEKI ของ MAN WITH A MISSION × milet กันแบบเต็มๆ (ในแบบทีวีไซส์) กันเสียที ซึ่งตัวเพลงทำออกมาดีมากครับ คึกคักและแตกต่างจากเพลงเปิดอื่นๆ พอสมควร คิดว่าพอตัวเพลงปล่อยออกมาเต็มๆ ก็น่าจะฮิตไม่น้อย แต่ย้ำอีกครั้งนะครับว่า ในบท หมู่บ้านช่างตีดาบ ที่เราได้ดูในหนังโรง เป็นแค่ตอนแรกที่ยังไม่มีฉากต่อสู้อะไรนะครับ ดังนั้นงานภาพอาจจะไม่หวือหวาเท่าบทรถไฟหรือบทเริงรมณ์ คิดซะว่ามันคือการโหมโรงก่อนจะได้ดูทีวีซีรีส์กันแบบเต็มๆ ในอีกไม่นานนี้ละกันครับ