[ดูจบแล้ว] Overtake!

Overtake! เป็นอนิเมออริจินอลของสตูดิโอ Troyca ในปี 2023 เนื้อเรื่องเกี่ยวกับการแข่งขันรถ F4 หรือชื่อเต็มๆ FIA Formula 4 ซึ่งเป็นการแข่งรถที่เพิ่งมีการแข่งขันในญี่ปุ่นครั้งแรกเมื่อปี 2015 นี่เองครับ โดยรถ F4 นั้นเป็นเหมือนก้าวแรกในการที่จะไต่ระดับโลกของนักแข่งอาชีพที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนไปถึง F1 ที่เป็นจุดสูงสุดของเหล่านักแข่งรถ

ตัวเอกของเรื่องนี้จะมีอยู่สองคน คนแรกคือ ฮารุกะ นักเรียนมัธยมปลายที่อยากจะเป็นนักแข่งรถเหมือนพ่อ ฮารุกะเข้าร่วมทีมโคมากิมอเตอร์ ซึ่งเป็นทีมแข่งรถเล็กๆ สปอนเซอร์ก็ไม่ค่อยมี ผลงานก็เลยไม่ค่อยดีนัก เพราะกีฬามอเตอร์สปอร์ตนั้นต้องลงทุนสูง แม้จะเป็นแค่ระดับ F4 ก็ตาม แต่ไม่ว่าจะเป็นการฝึกซ้อม การบำรุงรักษารถ ล้วนมีค่าใช้จ่าย ถ้าไม่มีผู้สนับสนุนก็ยากที่จะอยู่ในวงการนี้ได้

ส่วนอีกคนหนึ่งก็คือ มาโดกะ ช่างภาพอิสระที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับถนนสายนี้เปรี้ยว (แถมเป็นผู้ชายด้วย) จริงๆ เจ้าตัวเป็นช่างภาพที่เก่งมากคนหนึ่ง แต่กลับมีปมปัญหาในใจทำให้ไม่สามารถถ่ายภาพ “คน” ได้อีก จนกระทั่งมาโดกะได้พบกับฮารุกะแล้วเกิดความรู้สึกอยากจะสนับสนุนฮารุกะขึ้นมาเลยพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ฮารุกะสามารถมุ่งมั่นกับการแข่งได้อย่างเต็มที่พร้อมกับพยายามที่จะก้าวข้ามปมปัญหาในใจไปให้ได้

แม้เรื่องนี้จะเป็นอนิเมแข่งรถ แต่คีย์สำคัญของเรื่องคือการเติบโตและการก้าวข้ามอดีตของฮารุกะและมาโดกะ เนื้อหาจึงออกไปในเชิงดราม่ามากกว่าที่จะเน้นไปในส่วนของการแข่งขัน แต่ตัวอนิเมก็สะท้อนเรื่องราวในวงการมอเตอร์สปอร์ตได้อย่างสมจริงและ Realistic มาก ซึ่งนั่นอาจจะทำให้มันดูไม่สนุกมากนักหากเทียบกับอนิเมแข่งรถเรื่องอื่นๆ เพราะมันเน้นเรื่องของการสะท้อนความเป็นมืออาชีพ มิตรภาพในวงการแข่งรถ มากกว่าการเอาชนะกันและกัน ในเรื่องมันเลยดูเหมือนไม่มีตัวร้ายหรือคู่แข่งที่ชัดเจน เพราะทีมคู่แข่งอย่าง Belsorriso ก็ไม่ได้มองโคมากิเป็นศัตรู แถมยังอยากจะสนับสนุนฮารุกะด้วยซ้ำไป

อีกจุดหนึ่งที่ผมสนใจก็คือ อนิเมเรื่องนี้ได้ Shimura Takako มาเป็นผู้ออกแบบตัวละคร ซึ่งถ้าใครนึกไม่ออก ก็คือคนเดียวกับที่เขียนการ์ตูนเรื่อง Wandering Son (หนุ่มแอบหวานกับสาวแอ๊บแมน) ที่เคยสร้างเป็นอนิเมเมื่อปี 2011 นั่นแหละครับ และก็เป็นคนออกแบบตัวละครเรื่อง Aldnoah.Zero ด้วยครับ ส่วน Troyca ก็เป็นสตูดิโอเล็กที่งานไม่ค่อยชุก มีงานเฉลี่ยออกมาแค่ปีละเรื่อง แต่คุณภาพงานถือว่าดีเลยครับ ถือเป็นอนิเมนอกกระแสที่น่าสนใจอีกเรื่องในซีซันที่ผ่านมาที่อยากจะแนะนำให้ชมกัน