MF Ghost เป็นอนิเมดังอีกเรื่องในซีซันที่ผ่านมาที่มีแฟนๆ ให้ความสนใจกันค่อนข้างเยอะ เพราะนี่ถือเป็นภาคต่ออย่างเป็นทางการของการ์ตูนในตำนาน Initail D ที่ถือว่าเป็นการ์ตูนแข่งรถบนถนนที่ดังที่สุดของญี่ปุ่นด้วยยอดขายถึง 55 ล้านเล่ม ส่วนอนิเมก็โคตรฮิตขนาดถูกนำไปทำหนังคนแสดงจนโด่งดังไปทั่วโลก และกระแสของ Initial D ยังทำให้รถ Toyota Sprinter Trueno (AE86) กลับมาโด่งดังในฐานะ “รถส่งเต้าหู้ในตำนาน” ถึงขนาดที่ว่าในไทยก็ยังมีแฟนคลับรถรุ่นนี้ แถมแต่งสติ๊กเกอร์ทำสีเหมือนในเรื่องด้วย
ส่วน MF Ghost นั้นเป็นคอมมิคที่เพิ่งเขียนมาเมื่อปี 2017 แต่เล่าถึงอนาคตอันใกล้ในปี 202X ที่ผู้คนในโลกหันมาใช้รถ EV แบบ Auto Pilot กันหมด (ซึ่งจริงๆ ตอนนี้ก็เริ่มมีเค้าลางบ้างละ) แต่ที่ญี่ปุ่นก็ยังมีองค์กรที่ชื่อ MFG ที่มีทาคาฮาชิ เรียงสุเกะ (ตัวละครหลักในเรื่อง Initial D) ที่ยังคงจัดการแข่งขันรถน้ำมันบนท้องถนนและถ่ายทอดสดการแข่งขันผ่านอินเตอร์เน็ตจนมีผู้ติดตามรับชมทั่วโลกกว่า 30 ล้านคน โดยตัวเอกของเรื่องนี้ก็คือ คานาตะ เด็กหนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่น-อังกฤษ อายุ 19 ปี ที่สืบทอดวิชาการขับรถขั้นเทพมาจาก ฟุจิวาระ ทาคุมิ ตัวเอกของเรื่อง Initial D ที่ย้ายไปเป็นอาจารย์สอนขับรถอยู่ที่อังกฤษ โดยคานาตะใช้รถ Toyota 86 สีแดงที่แม้จะเป็นรถญี่ปุ่นที่มีกำลังแรงม้าน้อยกว่ารถคู่แข่งที่ส่วนใหญ่เป็นซูเปอร์คาร์แต่ก็สามารถสร้างผลงานในการแข่งได้อย่างน่าทึ่งจนถูกหลายฝ่ายจับตา
สำหรับคนชอบรถยนต์ นี่ถือเป็นอนิเมอีกเรื่องที่ขยายขอบเขตโลกของ Initial D ให้กว้างขึ้น จากเดิมเป็นการแข่งขันอัดรถลงเขา 1:1 และเน้นรถญี่ปุ่นเป็นหลัก มาสู่การแข่งขันรถที่จริงจัง เข้มข้น ดูเป็นทางการ ชิงเงินรางวัลมหาศาล และเต็มไปด้วยรถยนต์ชื่อดังแห่งยุคอย่าง Lamborghini Huracán LP 610-4, Ferrari 488 GTB, Lotus Exige, Alfa Romeo 4C และ Porsche 911 Carrera (991) เป็นต้น คือแค่ดูรถซูเปอร์คาร์หรูๆ กับนักขับเทพๆ แข่งกันก็น่าสนุกแล้ว แต่การได้เห็นคานาตะ หาหนทางในการเอาชนะคู่แข่งที่มีข้อได้เปรียบเรื่องแรงม้าของรถมากกว่า มันก็ยิ่งทำให้เนื้อเรื่องดูน่าสนใจไปอีกระดับหนึ่ง เพราะตอน Initail D นั้นจะเน้นการแข่งรถลงเขาเป็นหลัก ซึ่งการอัดรถแบบ Downhill ก็เหมือนจะเป็นตัวช่วยสำหรับรถที่มีแรงม้าน้อยให้สามารถทัดเทียมกับรถคู่แข่งที่มีกำลังมากกว่าได้ แต่ MFG นั้นสนามจะมีระยะทางที่มากและซับซ้อน รวมถึงรูปแบบสนามที่มีทั้งทางชันทางโค้งที่หลากหลายกว่า ซึ่งนั่นทำให้การแข่งขันรถในภาคนี้ ดูมีมิติมากขึ้น
ทว่าด้วยการที่มันเป็นการแข่งรถแบบจริงจัง มีรถเข้าแข่งถึงสนามละ 15 คัน (ในเรื่องจะเรียกคามิ15) ทำให้การแข่งแต่ละครั้งกินเวลานานหลายตอน อย่างอนิเมซีซันแรก 12 ตอนนี่เพิ่งแข่งรอบคัดเลือกกับสนามแรกจบไป และกำลังจะเริ่มสนามที่สองเท่านั้นเองครับ ซึ่งถ้าเทียบกับ Initial D จะเห็นว่าการแข่งรถใน Initail D มีความกระชับ และงัดเทคนิคแข่งกันแบบ 1 : 1 ไม่มีกติกาอะไรให้วุ่นวาย ทำให้แต่ละ Match เดินเรื่องไปเร็วกว่า ในขณะที่ MFG จะมีกฎกติกาและระบบการแข่งขันที่ดูเป็นทางการมากกว่า รวมถึงยังมี Side Story เกี่ยวกับครอบครัวของคานาตะ และความสัมพันธ์กุ๊กกิ๊กกับ เรน ลูกสาวบ้านไซออนจิที่คานาตะไปพักอาศัยอยู่ด้วย ซึ่งทำให้เนื้อเรื่องดูมีสีสันที่สดใสมากกว่าการโฟกัสที่การแข่งรถอย่างเดียว
ส่วนตัวอนิเมทำออกมาได้ค่อนข้างดีครับ CG รถก็พัฒนาขึ้นมาจากตอน Initial D อีกขั้นหนึ่ง คือดูกลมกลืนระหว่างอนิเม 3D และ 2D มากขึ้น และรักษาคุณภาพงานได้สม่ำเสมอค่อนข้างดี ลายเส้นคาแรกเตอร์ก็ดูสวยดี (ไม่ใช่ว่าเส้นคอมมิคไม่สวยนะ..เรียกว่ามีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ดีกว่า แต่อนิเมปรับให้ดูง่ายขึ้น) ส่วนเพลงประกอบก็ยังมีความเป็น Euro Beat ที่ฟังสนุกและเข้ากับเนื้อเรื่องเช่นเดียวกับตอน Initial D ที่ซาวด์แทรกโดดเด่นเข้ากับบรรยากาศการแข่งรถมาก สำหรับใครที่ชอบอนิเมแข่งรถ และชอบ Initial D นี่ถือเป็นผลงานที่ไม่อยากให้พลาดกันเลย โดยในส่วนของซีซัน 2 นั้นก็มีการประกาศออกมาแล้วด้วยว่าจะได้ดูกันในปี 2024 แน่ๆ ครับ แต่ยังไม่รู้ว่าเดือนไหนนะ