แม้จะช้าไป 4 เดือน แต่ผมเพิ่งได้ดู Scott Pilgrim Takes Off จบจริงๆ ก็วันนี้แหละครับ หลังจากค้างคาดองไว้นานมาก โดย Scott Pilgrim Takes Off มีต้นเรื่องมาจาก Scott Pilgrim การ์ตูนดังของ Bryan Lee O’Malley.นักเขียนชาวแคนาดา ที่เคยถูกสร้างเป็นหนังมาแล้วเมื่อปี 2010 โดยตอนนั้นใช้ชื่อเรื่องว่า Scott Pilgrim vs. the World กำกับโดย Edgar Wright ด้วยทุนสร้างสูงถึง 60–85 ล้านเหรียญ
อย่างไรก็ตาม ตัวหนังกลับไม่ประสบความสำเร็จใน Box Office มากนัก แต่ด้วยกระแสตอบรับจากนักวิจารณ์ที่ค่อนข้างดีถึงความแหวกแนวหลุดโลกของเนื้อเรื่อง การผสมผสานการเล่าเรื่องแบบ 8 Bit และวัฒนธรรม Pop Culture ทำให้หนังถูกนำมาต่อยอดและประสบความสำเร็จในตลาดโฮมวิดีโอ และยังกวาดรางวัลติดมือมามากมาย ซึ่งตอนนั้นบ้านเราใช้ชื่อไทยว่า สก็อต พิลกริม กับศึกโค่นกิ๊กเก่าเขย่าโลก โดยเนื้อเรื่องก็เหมือนกับชื่อไทยน่ะแหละครับ คือตัวเอกซึ่งเป็นมือเบสวงร็อคกิ๊กก๊อกอายุ 22 ปี จะต้องต่อสู้กับแฟนเก่าของนางเอกทั้ง 7 คน ที่มีพลังความสามารถแปลกๆ เพื่อที่จะชนะใจนางเอกให้ได้
ส่วนภาคอนิเม Scott Pilgrim Takes Off นั้นก็เริ่มมาคล้ายๆ กับเวอร์ชั่นหนัง ก็คือสก๊อต (พระเอก) ไปชอบราโมน่า (นางเอก) และต้องสู้กับกิ๊กเก่าของราโมน่า แต่ในขณะที่ตัวเขากำลังสู้อยู่นั้น ร่างของเขาก็ได้หายไป จนใครๆ คิดว่าสก๊อตตายไปแล้ว ราโมน่าจึงต้องสืบหาความจริงเรื่องนี้ ในอนิเมจึงจะเป็นการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของราโมน่า ที่ต้องกลับไปเจอกับพวกแฟนเก่าทั้ง 7 อีกครั้งหนึ่ง เพื่อตามหาสก๊อต และสืบหาว่าใครคือตัวการที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด
จุดที่ทำให้เรื่องนี้สนุก ก็คือการที่บรรยากาศของการ์ตูนเรื่องนี้เป็นเหมือนจุดรวมระหว่างบรรยากาศ Pop Culture ฝั่งตะวันออกและตะวันตก รวมถึง Meme ทางอินเตอร์เนตที่คลุกเคล้าเข้ากันได้อย่างอร่อยเหาะ หลุดโลก และคาดไม่ถึง ตอนที่ดูแรกๆ อาจจะรู้สึกมึนๆ งงๆ หน่อยกับสไตล์การเล่าเรื่องที่เหมือนจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่พอจับแนวทางในการเดินเรื่องได้แล้ว ก็รู้สึกว่ามันเป็นอนิเมที่ดูสนุกได้อย่างน่าประหลาด ทั้งเนื้อเรื่องที่พลิกไปมาจนเดาไม่ถูก (แต่ก็ไม่ซับซ้อนจนเกินไป) การหยิบเกม การ์ตูน หนัง มาล้อเลียน แทรกด้วยบรรยากาศแบบ 90s-00s ที่ดูแล้วได้ความรู้สึกนอสตาลเจียแบบแปลกๆ จนออกมาเหมือนจะมั่วๆ แต่ดันออกมาสนุกเฉย
สตูดิโอที่ทำอนิเมเรื่องนี้ก็คือ Science Saru สตูดิโออนิเมที่เพิ่งก่อตั้งปี 2013 แต่มีผลงานแนวๆ อาทิ Devilman Crybaby,Keep Your Hands Off Eizouken! รวมถึงผลงานล่าสุดที่จะออนแอร์ปลายปีนี้อย่าง Dandadan ส่วนเรื่อง Scott Pilgrim นี้ แม้กระแสบ้านเราอาจจะดูเงียบๆ เพราะเอาจริงๆ ตัวหนังมันก็ไม่ฮิตในบ้านเราอยู่แล้วด้วย) แต่อนิเมเรื่องนี้ในต่างประเทศถือว่ากระแสตอบรับดีเลยล่ะ ใน Rotten Tomatoes ได้คะแนนรีวิวไปถึง 96% จากนักวิจารณ์และ 86% จากผู้ชมทั่วไป แถมยังได้ Critics’ Choice Awards สาขา Best Animated Series ด้วยนะครับ ถือว่าเป็นของดีส่งท้ายปี 2023 ของ Netflix เลยล่ะ