ในอนิเมแนวต่างโลกที่มีอยู่มากมาย เรื่องหนึ่งที่ผมค่อนข้างชอบเป็นลำดับต้นๆ และเป็นเรื่องที่ผมรอคอยภาคต่อมานานมากเรื่องหนึ่ง ก็คือ “จันทรานำพาสู่ต่างโลก” (Tsukimichi: Moonlit Fantasy) นี่แหละครับ เรื่องราวของ มิสุมิ มาโคโตะ ที่ถูกสึคุโยมิ เทพแห่งจันทราอัญเชิญไปยังต่างโลกเพื่อที่จะเป็นผู้กล้า แต่มาโคโตะกลับถูกเทพธิดาที่ต่างโลกปฏิเสธด้วยเหตุผลที่ว่า “หน้าตาเจ้ามันอัปลักษณ์” (ซึ่งจริงๆ หน้าตาพระเอกก็ไม่ถึงกับน่าเกลียดหรอก แต่มาตรฐานของโลกนี้สูงเกินไปต่างหาก) พร้อมกับถูกเนรเทศไปยังสุดขอบโลกที่เต็มไปด้วยเหล่าอมนุษย์แถมยังถูกสาปให้พูดจากับมนุษย์ไม่รู้เรื่องอีก
แต่โชคชะตากลับทำให้มาโตโตะได้พบกับโทโมเอะ(ชิน) มังกรระดับสูงและมิโอะ ปีศาจแมงมุมที่เกิดถูกใจพระเอกเข้า จนกลายเป็นสหายร่วมทาง และได้สร้างอาณาจักรของเหล่าอมนุษย์ขึ้นในโลกต่างมิติ เริ่มทำการค้าขายกับมนุษย์และพยายามที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในต่างโลกโดยไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับใครหากไม่จำเป็น แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็หนีเรื่องวุ่นวายไม่พ้น เนื่องจากโลกนี้เต็มไปด้วยความขัดแย้งมากมาย ทั้งความขัดแย้งระหว่างพวกมนุษย์กับปีศาจ ปัญหาการเมืองระหว่างอาณาจักร การแข่งขันทางการค้า ไปจนถึงเรื่องราวของผู้กาก เอ๊ย ผู้กล้าคนอื่นที่ตามมาสร้างปัญหาให้มาโคโตะอีก
โครงเรื่องนั้นค่อนข้างมีความซับซ้อนกว่าอนิเมแนวแฟนตาซีต่างโลกเรื่องอื่น แต่กลับดูสนุก เข้าใจได้ไม่ยาก แต่ด้วยความซับซ้อนของพล็อตเรื่องที่มีการเล่าเรื่องในหลากหลายมิติมุมมอง ทั้งในฝั่งตัวเอก ฝั่งผู้กล้า เทพเจ้า ปีศาจ ไปจนถึงเรื่องราวการทำธุรกิจการค้า และชีวิตในรั้วโรงเรียนที่ตัวเอกตั้งใจจะไปสมัครเป็นนักเรียนแท้ๆ แต่กลับกลายเป็นอาจารย์โรงเรียนเวทมนตร์เฉยเลย ซึ่งนั่นทำให้ในซีซันสองนี้เราไม่ค่อยได้เห็นมาโคโตะได้มีบทโชว์เทพมากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเจ้าตัวต้องการปิดบังฝีมือตัวเองเพื่ออำพรางตัวตนจากเทพธิดา (ซึ่งในซีซันสอง เราจะได้เห็นมาโคโตะใส่ชุดฮีโร่เพื่อปิดบังตัวตนด้วย) และลูกน้องของมาโคโตะแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นโทโมเอะ มิโอะ หรือ ชิกิ (ผู้ติดตามคนที่ 3 เป็นลิชหรืออันเดด) ที่เก่งเสียจนไม่ค่อยมีเหยื่อเหลือรอดมาถึงมือมาโคโตะสักเท่าไหร่ แต่พอถึงบทที่มาโคโตะได้โชว์ฝีมือจริงๆ ก็เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มได้สะใจคนดูเหมือนกัน
ในส่วนอนิเมนั้น ซีซันแรกผลิตโดยสตูดิโอ C2C แต่ในซีซัน 2 เปลี่ยนเป็น J.C.Staff แทน แถมจำนวนตอนก็มากกว่าซีซัน 1 ถึงเท่าตัว (25 ตอน) เพราะขอบเขตเนื้อเรื่องในซีซัน 2 นั้นไปไกลจนไม่น่าจับยัดลง 12 ตอนได้ แถมตัวละครใหม่ก็เยอะมากด้วย แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องราวในอนิเมยังเดินเรื่องมาแค่ 1/4 ของนิยายเองครับ ก็เลยไม่น่าแปลกใจว่าพอซีซัน 2 จบก็มีการประกาศซีซัน 3 ตามมาทันที ซึ่งก็หวังว่าคงไม่ต้องคอยกันนานถึง 3 ปีเหมือนตอนรอซีซัน 2 นะครับ เพราะถ้าดูจากกระแสตอบรับแล้วก็ถือว่าออกมาดีเลยล่ะ