Mobile Suit Gundam: Char’s Counterattack

หลังจากขับเคี่ยวกันมาอย่างยาวนานนับสิบปี ในที่สุด การต่อสู้ของคู่รักคู่แค้น อามุโร่ เรย์ และ ชาห์ อัสนาเบิ้ล ก็จะมาถึงจุดสิ้นสุดใน Mobile Suit Gundam: Char’s Counterattack ภาพยนตร์อนิเมปี 1988 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 0093 (หลังจากภาค ZZ 5 ปี) เมื่อ ดาวหางสีแดง ชาร์ ได้กลับมาเป็นผู้นำของเนโอซีออน ที่ตั้งใจจะใช้ดาวเคราะห์น้อยลูนาร์ 5 พุ่งตกใส่โลก เพื่อให้เกิด nuclear winter ที่ทำให้มนุษย์ไม่สามารถอาศัยอยู่ในโลกได้จนต้องอพยพออกสู่อวกาศและทำให้มนุษยชาติเข้าสู่ยุคสมัยแห่งสเปซนอยด์ตามอุดมการณ์ของ ซีออน ซูม ไดคุน ซึ่งเป็นพ่อที่แท้จริงของชาร์นั่นเอง

ซึ่งคนที่จะมาขัดขวาง ชาร์ ก็คือ อามุโร่ เรย์ และ ไบร์ท โนอา สองวีรบุรุษแห่งสงคราม 1 ปี ที่ตอนนี้สังกัดหน่วยลอนโด เบลล์ กองกำลังอิสระภายใต้กองทัพสหพันธ์โลก โดยอามุโร่จะมีหุ่นหลักประจำภาคก็คือ นิวกันดั้ม ซึ่งมีเทคโนโลยีใหม่คือ ไซโคเฟรม ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ทำให้นิวไทป์สามารถขับหุ่นด้วยความคิดและคลื่นสมองได้ (ที่ตลกร้ายคือ คนที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาไซโคเฟรมก็คือชาร์นี่แหละ) โดยคู่ปรับสำคัญของนิวกันดั้มก็คือ ซาซาบี สุดยอดโมบิลสุทของ ชาห์ อัสนาเบิล ที่เราคุ้นเคยกันดี

มหาสงครามในภาคนี้ถือเป็นจุดสิ้นสุดของคู่รักคู่แค้น ชาร์ และ อามุโร่ ที่สุดท้ายต่างก็ MIA (Missing in Action) ไปทั้งคู่ แต่ก็ยังส่งต่อเรื่องราวไปยัง Gundam Unicorn (เหตุการณ์ปี 0096 หลังจากภาคนี้ 3 ปี) และยังเชื่อมโยงกับหนังโรง Gundam Hathaway ในปี 0105 ซึ่งเป็นเรื่องราวของฮาซาเวย์ ลูกชายของไบร์ท โนอา ที่จะมีบทบาทสำคัญในภาค CCA นี้ด้วย

จุดที่น่าสนใจคือ เดิมทีนั้น Char’s Counterattack เป็นหนังโรงที่สร้างจากนิยายชุด Mobile Suit Gundam High-Streamer ที่เขียนโดยโทมิโนะ ตีพิมพ์ในนิตยสาร Animage ปี 1987 (และเปลี่ยนชื่อเป็น Char’s Counterattack ในฉบับรวมเล่ม) ซึ่งโครงเรื่องจะคล้ายๆ กัน แต่ขอบเขตเรื่องของนิยายจะกว้างกว่า และมีดีไซน์โมบิลสุทที่แตกต่างจากหนังโรงมาก (ออกแบบโดย Hoshino Yukinobu ซึ่งผมแปะรูปให้ดูด้วยครับ)

ซึ่งตัวนิยายภาคนี้ประสบความสำเร็จมากๆ ครับ ทว่าพอมีการตัดสินใจนำ Char’s Counterattack มาทำเป็นหนังโรง นอกจากจะออกแบบหุ่นใหม่แล้ว โทมิโนะก็ยังเอาบทนิยายดั้งเดิมมาแก้ใหม่ และปรับเนื้อหาบางส่วน เช่น ให้ เบลโทจิก้า กับ อามุโร่ แต่งงานมีลูกด้วยกัน ซึ่งสุดท้ายทางทีมงานก็ปรับแก้ใหม่หมดอีกรอบเพื่อความเหมาะสม จนกลายเป็นหนังโรงที่เราได้ดูกันนี่แหละ ส่วนเนื้อเรื่องในเวอร์ชั่นของโทมิโนะ ก็ถูกนำมาเขียนใหม่เป็นนิยายชุด Mobile Suit Gundam Char’s Counterattack – Beltorchika’s Children ซึ่งใครที่สงสัยว่าไฮนิวกันดั้มหายไปไหน..มันก็จะอยู่ในนิยายเวอร์ชั่นนี้แหละครับ แถมตัวนิยายยังได้ มิกิโมโต้ ฮารุฮิโกะ (มาครอส) มาวาดภาพให้ด้วยนะ

ส่วนตัวหนังโรง ก็อย่างที่เราทราบกันดีว่า ประสบความสำเร็จสุดๆ ทำรายได้ไปกว่าพันล้านเยน ซึ่งในยุคนั้น (1988) ถือว่าเยอะมากๆ และหากใครที่ยังไม่เคยชม ตอนนี้ก็มีให้ชมกันทาง Netflix ด้วยนะครับ