ถูกเกณฑ์ไปต่างโลก: จากพนักงานเงินเดือนสู่หนึ่งในสี่จตุรเทพ! แค่เห็นชื่อเรื่องยาวๆ แบบนี้ ก็รู้เลยว่าเป็นอนิเมที่สร้างจากไลท์โนเวลแน่ๆ โดยต้นฉบับเป็นผลงานของ เบนิงาชิระ สังกัด สนพ.Overlab ที่ญี่ปุ่นออกมาแล้ว 10 เล่มยังไม่จบ ยอดพิมพ์ปัจจุบันรวมถึงเล่มล่าสุดอยู่ที่ 450,000 เล่ม ก็ถือว่าค่อนข้างดีเลยล่ะ

และแน่นอนว่า อนิเมเรื่องนี้ก็ยังคงเป็นอนิเมแนวต่างโลกอีกเรื่อง เพียงแต่ตัวเอกของเรื่อง อุชิมุระ เด็นโนสึเกะ เป็นพนักงานกินเงินเดือนธรรมดาที่ถูกจอมมารอัญเชิญมาเป็นหนึ่งในจตุรเทพในทัพจอมมาร เพราะเล็งเห็นความสามารถบางอย่างในตัวอุชิมุระที่คนในทัพจอมมารไม่มี นั่นคือทักษะการบริหารจัดการปัญหาและประสบการณ์ในฐานะพนักงานบริษัทที่สามารถช่วยแก้ปัญหาในทัพจอมมารที่แม้จะเต็มไปด้วยคนที่แข็งแกร่งแต่ก็ไม่อาจใช้กำลังแก้ได้ทั้งหมด

นี่จึงเป็นอนิเมแนวข้ามไปต่างโลกที่ตัวเอกไม่ได้รับทักษะพิเศษ โชค พรสวรรค์ สกิล หรือความสามารถในการต่อสู้เหมือนตัวเอกอนิเมแนวเดียวกัน ดังนั้นใครที่อยากเห็นฉากต่อสู้โชว์เทพของพระเอกเรื่องนี้คงไม่มี แต่เมื่อไหร่ที่เราเห็นเด็นโนสึเกะปรับเน็คไทให้เข้าที่ก็เป็นอันรู้กันว่าเจ้าตัวคิดวิธีแก้ปัญหาออกแล้ว ซึ่งมีตั้งแต่ปัญหาภายในทัพจอมมาร ปัญหาขาดแคลนทรัพยากร ไปจนถึงปัญหาความขัดแย้งระดับเผ่าพันธ์ ซึ่งเด็นโนสึเกะก็ใช้ประสบการณ์ในฐานะมนุษย์เงินเดือนนี่แหละรับมือกับปัญหาต่างๆ ด้วยวิธีที่เผ่าจอมมารที่ปกติถนัดแต่ใช้กำลังนึกไม่ถึง

ซึ่งจริงๆ แล้ว อนิเมที่เอาคนต่างโลกมาช่วยจัดการบริหารบ้านเมืองนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกครับ แต่เรื่องนี้แตกต่างตรงที่ตัวเอกเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาที่เหมือนจะสิ้นหวังกับวัฒนธรรมองค์กรของที่ทำงานเดิมไปแล้ว ทำให้เจ้าตัวขาดความมั่นใจและไม่กล้าที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า แต่การได้มาต่างโลกและรับตำแหน่งจตุรเทพและได้รับการยอมรับก็ทำให้เด็นโนสึเกะดูมั่นใจขึ้น มีความกล้ามากขึ้น ซึ่งผมว่ามันค่อนข้างโดนใจผู้ชมในวัยทำงานอยู่พอสมควรนะ เพราะหลายๆ คนก็อาจจะเคยมีประสบการณ์แย่ๆ เหมือนที่เด็นโนสึเกะเคยเจอ หรืออาจจะสิ้นหวังกับระบบบริษัทจนเลือกที่จะอยู่ไปวันๆ (พวกผมเรียกว่า เกียร์ว่าง) ซึ่งผมว่าพอได้ดูอนิเมเรื่องนี้ ก็อาจจะช่วยจุดไฟในตัว ให้กลับมาเผชิญหน้ากับสารพัดปัญหาได้อยู่

ตัวอนิเมผลิตโดย Geek Toys ค่ายอนิเมที่เป็นบริษัทลูกของ Geek Pictures บริษัทสื่อบันเทิงรายใหญ่ทีมีสาขาทั่วโลก (มีสำนักงานในไทยด้วยนะ) โดยภาพรวมแล้วถือว่าทำออกมาได้โอเคระดับหนึ่ง ไม่ถึงกับดีมาก แต่ก็อาจจะไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน เพราะอย่างที่บอกว่ามันไม่ใช่แนวแอ๊กชั่นต่างโลกแฟนตาซีที่เน้นการต่อสู้แบบที่เราคุ้นชิน แต่เดินเรื่องด้วยการพูดคุยเจรจา เนื้อเรื่องบางช่วงก็อืดๆ และชอบตัดตอนแบบค้างคาอีก แต่หากมองในมุมมนุษย์เงินเดือน ผมชอบเรื่องนี้นะ แม้จะเป็นเรื่องราวในโลกแฟนตาซี แต่มันก็มีความเรียลที่ดูแล้วน่าสนใจดีทีเดียว