14 เมษายนที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบ 20 ปี Honey and Clover อนิเมที่ผมรักมากที่สุดอีกเรื่อง ซึ่งอนิเมเรื่องนี้ออนแอร์ครั้งแรกทางฟูจิทีวี (Noitamina) ในคืนวันที่ 14 เมษายน 2005 แต่ถ้านับจริงๆ ก็จะเป็นวันที่ 15 เมษายน เพราะออกอากาศหลังเที่ยงคืน (แต่ตามผังทีวีทางญี่ปุ่นเขายังนับเป็นวันที่ 14 อยู่)

อนิเมเรื่องนี้สร้างจากต้นฉบับผลงานของ Chica Umino ความยาว 10 เล่มจบ แต่ถูกสร้างเป็นอนิเมถึง 2 ซีซัน ความยาวรวม 36 ตอน + 2 OVA เรื่องราวของนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยศิลปะในโตเกียวกับรักหลายเส้าแสนวุ่นวายของทาเคโมโตะ เด็กหนุ่มรุ่นน้องธรรมดาสามัญ โมริตะ หนุ่มอัจฉริยะสุดแสนลึกลับแต่เรียนไม่จบสักที มายามะ หนุ่มแว่นมาดดีที่หลงรักผู้หญิงอายุมากกว่า ยามาดะ สาวปั้นหม้อฉายาหญิงเหล็กที่หลงรักมายามะ และฮากุ เด็กสาวอัจฉริยะร่างเล็กที่ทั้งทาเคโมโตะและโมริตะต่างก็ตกหลุมรัก

เรื่องราวคล้ายกับเป็นเลิฟคอเมดี้ในรั้วมหาวิทยาลัยศิลปะที่มีแต่คนเพี้ยนๆ ติสท์ๆ ซึ่งช่วงแรกๆ ผมนึกไปถึงพวกหนังไทยยุค 90s อย่างกลิ่นสีและกาวแป้งอะไรแบบนั้น แต่ Honey and Clover นั้นมีแก่นเรื่องที่เรื่องราวความรักที่หลากหลาย ทั้งสมหวังและผิดหวัง และมีจุดที่ทำให้เราประหลาดใจมากกว่า โดยเฉพาะเรื่องราวของโมริตะ จุดศูนย์กลางของความเพี้ยนของเรื่องที่มีคาแรกเตอร์ที่ปนเปกันระหว่างอัจฉริยะและคนบ้าแต่กลับมีภูมิหลังที่สุดแสนซับซ้อนและรันทด จนกลายเป็นตัวละครที่แฟนๆ ชอบมากที่สุดในเรื่อง

อีกจุดหนึ่งที่ผมคิดว่าแฟนๆ อนิเมน่าจะชอบเป็นพิเศษก็คือเพลงประกอบที่มักจะใช้เพลงของ Spitz มาแทรกเป็น Insert Song ได้อย่างลงตัวมากๆ งานภาพกฌทำออกมาโอเคเลย ถือได้ว่าเป็นอนิเมที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของ J.C.Staff เลยล่ะ เสียดายที่บ้านเราตอนนั้นมี LC แค่อนิเมซีซันแรก เพราะถึงกระแสจะดีแต่ยอดแผ่น DVD ไม่ได้ดีเท่าที่คิดก็เลยไม่มี Season 2 ออกมาในบ้านเรา (ก็ต้องไปหาช่องทางธรรมชาติดูกันเอง) แต่เรื่องนี้ที่ญี่ปุ่นดังมากนะครับ นอกจากอนิเมแล้วก็ถูกนำมาสร้างเป็นหนังคนแสดง ละครซีรีส์ญี่ปุ่น แถมมีซีรีส์ไต้หวันด้วย! ส่วนหนังสือการ์ตูนก็มียอดตีพิมพ์รวม 8.5 ล้านเล่ม และสามารถคว้ารางวัลการ์ตูนยอดเยี่ยม Kodansha Manga Award สาขาการ์ตูนผู้หญิงมาครอง และยังติดอันดับการ์ตูนแนะนำใน Kono Manga ga Sugoi! สองปีซ้อนด้วยครั