[ดูจบแล้ว]Astérix et Obélix : Le Combat des Chefs

“แอสเตอริกซ์และโอเบลิกซ์กับสมรภูมิหัวหน้าเผ่า” หรือ Astérix et Obélix : Le Combat des Chefs (ชื่อฝรั่งเศส) เป็นอนิเมชั่นมินิซีรีส์ของ Netflix ยาว 5 ตอน ที่บ้านเราอาจไม่ค่อยสนใจ เพราะไม่ค่อยมีคนรู้จัก แต่จริงๆ แล้วการ์ตูนเรื่องนี้ดังมากในแถบยุโรป ต้นฉบับเป็นการ์ตูนฝรั่งเศสที่ตีพิมพ์มาตั้งแต่ปี 1964 และเคยมีแปลเป็นภาษาไทยในชื่อ แอสเตอริกซ์ ตอน ศึกชาวกูล แต่คนที่ทันอ่านผมว่าอายุน่าจะต้องมีระดับ 40+ เลยนะ (แม้จริงๆ จะมีเวอร์ชั่นหนังเคยมาฉายโรงบ้านเราอยู่ แต่ก็รู้จักกันเฉพาะกลุ่มจริงๆ)

สำหรับการ์ตูนเรื่องนี้จะเป็นการ์ตูนอิงประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส-โรมัน ยุคจูเลียสซีซาร์เรืองอำนาจ ที่รบชนะเขาไปทั่วยกเว้นหมู่บ้านโกล(กูล หรือ กอล แล้วแต่สำนวนแปล) ที่ยืนหยัดต่อต้านทัพโรมันได้ เพราะหมู่บ้านนี้มีพ่อหมอที่ปรุงยาวิเศษ (Netflix แปลว่า น้ำยาเวท) ทำให้คนในหมู่บ้านมีพลังเหนือมนุษย์ โดยตัวเอกของเรื่องคือ แอสเตอริกซ์ นักรบร่างเล็กผู้เฉลียวฉลาด และโอเบลิกซ์ ชายร่างอ้วนที่ตกลงไปในหม้อยาวิเศษตั้งแต่เด็ก ทำให้เขาไม่ต้องกินยาวิเศษก็มีพลังเหนือมนุษย์อยู่ตลอดเวลา

เมื่อยึดครองหมู่บ้านไม่ได้สักที ทัพโรมันก็เลยเปลี่ยนแผนใหม่ จัดเวทีประลองหัวหน้าหมู่บ้านตามประเพณีของโกล ให้หัวหน้าหมู่บ้านโกลที่ภักดีต่อโรมันไปประลองกับหมู่บ้านของแอสเตอริกซ์ แต่ติดที่พวกแอสเตอริกซ์นั้นมียาวิเศษ พวกโรมันก็เลยต้องหาทางเล่นงานพ่อหมอประจำหมู่บ้านไม่ให้ปรุงยาวิเศษได้ และดูเหมือนจะได้ผลเสียด้วย

ความสนุกของแอสเตอริกซ์และโอเบลิกซ์นั้นจะเป็นการ์ตูนที่เหมือนจะเอาสังคมยุคปัจจุบันมาเล่าย้อนในบรรยากาศเสียดสีแบบยุคโรมัน ที่เต็มไปด้วยสีสันแบบตลกเจ็บตัว แต่พอเอาต้นฉบับการ์ตูนปี 1964 มาดัดแปลงเป็นอนิเมปี 2025 ก็ต้องมีการปรับปรุงเนื้อหาหลายๆ ส่วนให้เข้ากับยุคสมัย ตั้งแต่เพิ่มตัวละครอย่างเมตะดาต้า (Meta Data คงไม่ต้องบอกว่าล้ออะไร) เข้าไปเป็นตัวกลางในการดำเนินเรื่อง หรือการแอบ Woke แบบเนียนๆ นิดๆ แต่ไม่รู้สึกติดขัด ไปจนถึงการจิกกัดเสียดสีล้อเลียนสังคมปัจจุบันที่หลายๆ มุกนี่แอบฮากว่าที่คิด

แต่จุดที่น่าสนใจคือ ตัวอนิเมชั่นมีการดัดแปลงเนื้อหาจากต้บฉบับ ตั้งแต่ตอนต้นเรื่องที่เล่าถึงแอสเตอริกซ์และโอเบลิกซ์ตอนเด็ก จุดกำเนิดยาวิเศษ ไปจนถึงการเปลี่ยนฉาก Climax ของเรื่อง ซึ่งไม่ได้เดินไปตามสูตรสำเร็จแบบต้นฉบับ แต่มีการ Plot Twist กันหลายตลบ ทำให้เนื้อหาสองสามหน้าสุดท้ายในต้นฉบับที่เดิมทีแค่ประลองกันชนะก็จบ แต่อนิเมชั่นกลับพลิกไปพลิกมาแบบเดาทางกันไม่ถูก แต่กลับออกมาสนุก และทำให้บทบาทของแอสเตอริกซ์และโอเบลิกซ์ในภาคนี้มีความโดดเด่นทั้งในด้านมิตรภาพ ไปจนถึงมิติของตัวละครหลายๆ ตัวในเรื่องที่มีความลึกมากกว่าเดิม ทำให้ดูน่าสนใจมากขึ้น

เท่าที่ดูกระแสตอบรับ ดูเหมือนว่า แอสเตอริกซ์และโอเบลิกซ์ภาคนี้จะประสบความสำเร็จในฝั่งยุโรปไม่น้อยครับ IMDB เรตติ้งได้ไป 8.0 Rotten Tomatoes PopcornMeter พุ่งแรงถึง 92% เลยทีเดียว และแม้ว่า Netflix บ้านเราจะไม่ค่อยโปรโมต แต่ก็มีฉบับพากย์ไทยด้วยนะครับ ใครที่ไม่เคยดูก็อยากแนะนำให้ดู แต่ถ้ารู้จักแอสเตอริกซ์อยู่แล้ว ยิ่งอยากแนะนำให้ดูมากขึ้นไปอีกครับ Netflix ทำออกมาอร่อยระดับสิบหมูป่าเลย

ปล.ตัวละครในเรื่องใช้ชื่อแบบฝรั่งเศส ต่างจากฉบับแปลไทยสมัยก่อน ที่แปลจากต้นฉบับอังกฤษ ที่มีชื่อตัวละครแตกต่างกันครับ