เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในวงการการ์ตูนญี่ปุ่นมีข่าวหนึ่งที่ฮือฮากันมาก ก็คือเรื่องที่ อ.ทาคาฮาชิ รูมิโกะ ได้รับการคัดเลือกให้มีชื่ออยู่ใน Will Eisner Comic Awards Hall of Fame ประจำปีนี้ หลังจากที่เคยถูกเสนอชื่อมาก่อนหน้านี้ถึงสามครั้ง ซึ่งในอดีตนั้นมีชาวญี่ปุ่นเพียงแค่ 4 คนเท่านั้นที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ และ อ.ทาคาฮาชิ รูมิโกะเองก็ถือได้ว่าเป็นนักเขียนการ์ตูนเพียงไม่กี่คนในญี่ปุ่นที่สามารถสร้างผลงานฮิตได้ตลอด 4 ทศวรรษจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมา ทางโชกักกุคังก็ได้ประกาศว่าผลงานของ อ.ทาคาฮาชิ รูมิโกะ นั้นมียอดตีพิมพ์รวมกันถึง 200 ล้านเล่มแล้ว ซึ่งในโลกของการ์ตูนผู้ชายนั้นอาจจะเรียกได้ว่า อ.ทาคาฮาชิเป็นนักเขียนหญิงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้
ทาคาฮาชิ รูมิโกะ เกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 1957 เป็นชาวเมืองนีงาตะ ซึ่ง อ.ทาคาฮาชิเคยบอกเล่าเรื่องราวในวัยเด็กของตัวเองว่า พ่อของ อ.ทาคาฮาชิ นั้นเป็นหมอ แต่เป็นหมอที่วาดรูปเก่งมาก และมักจะวาดภาพให้ อ.ทาคาฮาชิอยู่เสมอ ซึ่งนั่นทำให้ อ.ทาคาฮาชิ ชอบการวาดรูปไปในตัวด้วย และเหตุที่ อ.ทาคาฮาชิ ชอบการ์ตูนแนวเด็กผู้ชาย(โชเน็น)ทั้งที่เป็นผู้หญิงนั้นก็เพราะพี่ชายของเธอชอบอ่านนิตยสารโชเน็นซันเดย์ก็เลยอ่านตามพี่ชายมาตั้งแต่เรียน ป.2 แต่พอเธอโตขึ้นพี่ชายกลับหันไปอ่านโชเน็นแมกกาซีนแทน อ.ทาคาฮาชิก็เลยต้องซื้อโชเน็นซันเดย์อ่านเอง(ฮา) ซึ่งในตอนนั้นตัว อ.ทาคาฮาชิ เองก็เริ่มที่อยากจะเป็นนักเขียนการ์ตูนแล้ว พอขึ้นชั้น ม.1 อ.ทาคาฮาชิ จึงลองเขียนการตูน 4 ช่องส่งไปโชเน็นซันเดย์ และผ่านการคัดเลือกรอบแรกด้วย แม้จะไม่ได้ตีพิมพ์แต่ก็มีชื่อของตนปรากฎในนิตยสารซึ่งทำให้ อ.ทาคาฮาชิในตอนนั้นดีใจมาก พอเข้า ม.ปลายจึงตั้งใจเขียนการ์ตูนอย่างเต็มตัว แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จตามที่หวังเลยถอดใจไปเสียก่อน
หลังจาก อ.ทาคาฮาชิ ย้ายมาเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่โตเกียว ตอนเรียน ปี 2 อ.ทาคาฮาชิก็ได้มีโอกาสเข้าเรียนคอร์สเขียนการ์ตูนที่โรงเรียนสอนเขียนการ์ตูนเกคิกะซนจูคุ ซึ่งก่อตั้งโดย โคอิเคะ คาซึโอะ (ผู้เขียน ซามูไรพ่อลูกอ่อน ซึ่ง อ.โคอิเคะก็เป็นนักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่นอีกหนึ่งคนที่ได้ถูกบรรจุชื่อใน Will Eisner Comic Awards Hall of Fame ด้วย) ซึ่งที่นั่น อ.ทาคาฮาชิ ได้พบกับ อ. อิเคงามิ เรียวอิจิ นักเขียนการ์ตูนในดวงใจที่ได้มาบรรยายการเขียนการ์ตูนที่เกคิกะซนจูคุ และกลายเป็นเชื้อไฟที่ทำให้ อ.ทาคาฮาชิเกิดความตั้งใจอันแรงกล้าที่จะเขียนการ์ตูนอย่างเต็มตัวอีกครั้ง โดยเริ่มจากการเขียนโดจินชิในปี 1975 และพอเรียนอยู่ ปี 3 ก็ได้มีโอกาสไปเป็นผู้ช่วยชั่วคราวของ อ.อุเมซึ (ผู้เขียนมาโคโตะ เด็กฮาร์ด) แม้จะเป็นเวลาแค่ 3 วันแต่ก็ได้รับประสบการณ์และแรงบันดาลใจอย่างท่วมท้น
ในปี 1978 การ์ตูนสั้นชุด Katte na Yatsura ได้รับรางวัลจาก สนพ.โชกักกุคัง และกลายเป็นใบเบิกทางให้ อ.ทาคาฮาชิ ได้เป็นนักเขียนในโชเน็นซันเดย์ซึ่งเป็นนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ของโชกักกุคัง โดยผลงานเรื่องยาวเรื่องแรกที่ได้ตีพิมพ์ คือเรื่อง Urusei Yatsura หรือ ลามู ทรามวัยจากต่างดาว ก็กลายเป็นการ์ตูนฮิตติดลำดับต้นๆ ของโชเน็นซันเดย์เลยครับ แถมยังถูกสร้างเป็นการ์ตูนทีวี และหนังโรงด้วย และในช่วงที่ อ.ทาคาฮาชิกำลังประสบความสำเร็จกับเรื่องลามูอยู่นั้น การ์ตูนชุด Maison Ikkoku ผลงานมาสเตอร์พีชอีกเรื่องของ อ.ทาคาฮาชิ ก็เริ่มตีพิมพ์ในนิตยสาร Big Comic Spirits ไปพร้อมๆ กันด้วย (ช่วงนั้น Big Comic Spirits ยังเป็นนิตยสารรายปักษ์อยู่ จึงเขียนพร้อมกันได้) และไม่น่าเชื่อเลยว่า การ์ตูนทั้งสองเรื่องที่มีเนื้อหาคนละแนวทางกลับประสบความสำเร็จไปพร้อมๆ กันในแบบที่หลาย ๆ คนคาดไม่ถึง
หลังจากการ์ตูนยอดนิยมของ อ.รูมิโกะทั้งสองเรื่องจบลงในปี 1987 อ.ทาคาฮาชิก็ไม่ยอมหยุดพัก แต่สร้างสรรค์ผลงานเรื่องยาวชุดใหม่ Ranma ½ ออกมาติด ๆ ทันที ซึ่งผลงานเรื่องนี้กลายเป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จสูงสุดเรื่องหนึ่งในชีวิตของ อ.ทาคาฮาชิเลยครับ และหลังจาก Ranma ½ จบลงในปี 1996 อ.ทาคาฮาชิก็เขียนการ์ตูนชุด อินุยาฉะ เทพอสูรจิ้งจอกเงินต่อในปีเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เพราะเชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะยังทันชมกันอยู่
ปัจจุบัน อ.ทาคาฮาชิ อายุ 60 ปีแล้ว ซึ่งหลายๆ คนอาจมองว่า ผ่านจุดสูงสุดในชีวิตนักเขียนการ์ตูนมาแล้ว แต่ผลงานเรื่องล่าสุดอย่าง Rin-ne แม้จะไม่ได้รับความนิยมเทียบเท่าผลงานก่อนๆ แต่ก็มีรวมเล่มออกมาให้อ่านกันถึง 40 เล่ม ทำยอดขายไปได้มากกว่า 3 ล้านเล่ม และยังถูกสร้างเป็นอนิเมออกอากาศทางช่อง NHK-E อีก ซึ่งนั่นทำให้ อ.ทาคาฮาชิ ยังคงเป็นหนึ่งในนักเขียนยอดนิยมลำดับต้นๆ ของนิตยสารโชเน็นซันเดย์ และเชื่อว่าอ.ทาคาฮาชิ น่าจะสร้างสรรค์ผลงานยอดนิยมเรื่องใหม่ๆ ในแบบที่เราคาดไม่ถึงออกมาให้ได้อ่านกันอีกแน่นอนครับ
กว่าจะมาเป็น 200 ล้านเล่มของทาคาฮาชิ รูมิโกะ
1978–1987 Urusei Yatsura (ลามู ทรามวัยจากต่างดาว)
การ์ตูนซีรี่ส์ยาวเรื่องแรกของ อ.ทาคาฮาชิ รูมิโกะ ที่นำเอาเรื่องราวแนวไซไฟมาผสมกับนิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่น กลายเป็นการ์ตูนเลิฟคอเมดี้ข้ามจักรวาลของเด็กหนุ่ม ม.ปลายจอมกะล่อน โมโรโบชิ อาตารุ กับลามู สาวน้อยจากต่างดาวที่หวังจะรุกรานโลก แต่สุดท้ายก็มาหลงรักอาตารุในขณะที่อาตารุเองก็ยังจีบสาวไปทั่วไม่ว่าจะเป็นภูตผีปีศาจหรือมนุษย์ต่างดาว จนกลายเป็นการ์ตูนคอมมิคยาว 34 เล่ม ถูกสร้างเป็นการ์ตูนทีวียาวถึง 195 ตอน และยังมี OVA กับหนังโรงอีก (ยอดขาย 26 ล้านเล่ม)
1980–1987 Maison Ikkoku (บ้านพักอลเวง)
การ์ตูนแนวเลิฟสตอรี่ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของ ทาคาฮาชิ รูมิโกะ เรื่องราวความรักของ โกได ยูซาคุ ที่หวังจะจีบผู้ดูแลบ้านพัก โอโตนาชิ เคียวโกะ ที่เป็นแม่ม่ายยังสาว โดยเล่าเรื่องราวตั้งแต่ตอนที่โกไดยังเป็นเด็กซิ่ว ไปจนสอบเอนท์ติด เรียนจบ มีงานทำ ในขณะที่เคียวโกะเองก็ต้องก้าวข้ามความเจ็บปวดจากการสูญเสียสามีไปให้ได้ เรื่องนี้ประสบความสำเร็จสูงจนถูกสร้างเป็นการ์ตุูนทีวี อนิเมฉายโรง หนังโรงคนแสดง ละครทีวี และถึงแม้จะมีรวมเล่มแค่ 15 เล่ม (เพราะตีพิมพ์ในนิตยสารรายปักษ์) แต่ทำยอดขายไปถึง 25 ล้านเล่ม ซึ่งหากคิดตัวเลขเฉลี่ยออกมาแล้ว เรื่องนี้คือผลงานของ อ.ทาคาฮาชิ ที่มียอดขายเฉลี่ยต่อเล่มสูงสุดเลยล่ะครับ
1087-1996 Ranma ½ (รันม่า ½ ไอ้หนุ่มกังฟู)
หลังจากประสบความสำเร็จจากไซไฟเลิฟคอเมดี้(ลามู) คราวนี้ อ.รูมิโกะเปลี่ยนมาเขียนแนวกังฟูเลิฟคอเมดี้ ของพ่อหนุ่มซาโอโตเมะ รันม่า ที่ไปตกบ่อน้ำต้องสาปขณะไปฝึกวิชาที่เมืองจีน ทำให้เวลาโดนน้ำร้อนจะกลายเป็นผู้ชาย โดนน้ำเย็นจะกลายเป็นผู้หญิง และพอรันม่ากลับมาอยู่ญี่ปุ่น ก็ต้องไปอาศัยร่วมชายคาอยู่ที่บ้านเทนโด ซึ่งบ้านนี้มีลูกสาวสามคน และหนึ่งในนั้นก็คือเทนโด อากาเนะ ที่เป็นคู่หมั้นของรันม่าด้วย แถมหลังๆ ก็มีเหล่าผู้คนที่ตกลงไปในบ่อน้ำต้องสาปออกมาเต็มเรื่องไปหมด รันม่า ½ เป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จสูงมาก ทั้งอนิเม หนังโรง ละครทีวี OVA มีรวมเล่มมากถึง 38 เล่ม และเป็นผลงานที่มียอดขายรวมสูงสุด โดยขายไปได้ถึง 53 ล้านเล่มทีเดียว
1996-2008 Inuyasha (อินุยาฉะ เทพอสูรจิ้งจอกเงิน)
หลังจากที่ฮาหลุดโลกไปกับ รันม่า ½ ผลงานเรื่องต่อมาก็กลับเป็นแนวจริงจังมากขึ้น กับการต่อสู้ของเหล่าปีศาจในญี่ปุ่นยุคอดีตเมื่อ 500 ปีก่อน คาโกเมะ เด็กสาวที่ย้อนเวลาไปในอดีตได้พบกับอินุยาฉะ ปีศาจที่ถูกตัวตนในชาติก่อนของคาโกเมะผนึกเอาไว้ และทั้งสองก็ต้องออกเดินทางร่วมกันเพื่อค้นหาเศษลูกแก้วสี่วิญญาณที่เป็นที่หมายปองของเหล่าปีศาจ เป็นการ์ตูนที่เหมือนจะมีพล็อตเรียบง่าย แต่กลับมีความลุ่มลึกและแฝงไปด้วยปรัชญา รวมถึงความเชื่อเรื่องวิญญาณและการกลับชาติมาเกิด จนถูกนำไปสร้างเป็นอนิเมและประสบความสำเร็จไปทั่วโลก โดยตัวคอมมิคนั้นถือเป็นผลงานที่มีความยาวสูงสุดของ อ.ทาคาฮาชิ โดยมีความยาวทั้งสิ้น 56 เล่ม และทำยอดขายไปได้ 45 ล้านเล่ม
ซึ่งพอเอาผลงานทั้ง 4 เรื่องมารวมกัน รวมกับ Rin-ne (3 ล้านเล่ม) ก็เป็นจำนวนมากถึง 152 ล้านเล่ม ส่วนที่เหลือก็จะเป็นผลงานเรื่องอื่นๆ อาทิเช่น ตำนานเงือก (3 เล่ม) One-pound Gospel (ฤทธิหมัดเสือหิว) ผลงานรวมเรื่องสั้น และอื่นๆ ซึ่งทางโชกักกุคังได้ออกมาประกาศว่าผลงานของ อ.ทาคาฮาชิ รูมิโกะ ทุกเรื่องนั้นมียอดขายรวมกันทั่วโลกทั้งสิ้น 200 ล้านเล่ม (มีนาคม 2017) ซึ่งนักเขียนการ์ตูนน้อยคนที่จะทำได้แบบนี้ แถมยังเป็นนักเขียนการ์ตูนผู้หญิงจำนวนน้อยนิดในวงการการ์ตูนผู้ชายด้วย..สมแล้วล่ะครับกับการได้บรรจุชื่ออยู่ใน Will Eisner Comic Awards Hall of Fame ประจำปีนี้