เป็นเรื่องที่ผมอยากเขียนถึงมานานแล้ว แต่หาอันดับตรงๆ นี่ยากมากครับ เพราะไม่มีใครรวมไว้อย่างเป็นทางการเสียที (ส่วนใหญ่รวมไว้เป็นรายปีมากกว่า) บังเอิญไปเจอทางเวบไซต์ https://tanoshimi.xyz เขารวบรวมเอาไว้เมื่อ 2 ปีก่อน (เดือนกันยายน 2016) ซึ่งพอไปเช็คตัวเลขยอดขายแยกของแต่ละเรื่องก็เห็นว่าตรงกันอยู่ แต่บางเรื่องก็ใกล้เคียง ไม่เป๊ะ 100% เพราะข้อมูลปี 2018 มันก็มียอดขายเพิ่มเข้ามาอีก แต่ถึงจะเป็นข้อมูลปี 2016 ก็ไม่ถือว่าเก่าเกินไปนัก เพราะหลายๆ เรื่องในชาร์ตก็ยอดขายนิ่งแล้ว (จบไปแล้ว) ก็เลยเอามาลงไว้ให้ดูละกันครับ แต่บางเรื่องหากผมมีข้อมูลเพิ่มเติมก็จะเอาตัวเลขล่าสุดที่มีใส่ประกอบไว้ด้วยครับ
1.GUIN SAGA (30 ล้านเล่ม)
ผลงานของ คุริโมโตะ คาโอรุ สำหรับเรื่องนี้ ผมเดาถูกแต่แรกครับ ด้วยเหตุผลที่ว่ามันมีเขียนออกมาตั้ง 130 เล่มมาตั้งแต่ปี 1979 และเคยถูกสร้างเป็นอนิเมมาแล้วด้วย แต่ประเด็นก็คือ บางคนเขาก็ไม่นับว่าเรื่องนี้เป็นไลท์โนเวลนะ ถึงแม้องค์ประกอบมันจะเป็นไลท์โนเวลก็เถอะ แถม lndb.info ยังนับเรื่องนี้ไปอยู่ในกลุ่มไลท์ด้วย
2. SLAYERS (20 ล้านเล่ม)
สเลเยอร์ถือเป็นไลท์โนเวลแนวแฟนตาซีเวทมนตร์ที่โด่งดังที่สุดในยุค 90 อย่างไม่ต้องสงสัย โดยผลงานเรื่องนี้เขียนโดย คันซากะ ฮาจิเมะ มาตั้งแต่ปี 1989 จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่จบนะครับ ยังมีภาคใหม่ๆ ภาคพิเศษออกมาเรื่อยๆ ทีวีอนิเม หนังโรง ก็มีอีกเยอะเลย ถือเป็นแฟรนไชส์ที่ดังมาก ๆในยุคหนึ่ง แม้ว่ากระแสบ้านเราจะเงียบๆ ไม่หวือหวาเท่าไหร่ก็ตาม
3. SWORD ART ONLINE (16.7 ล้านเล่ม / ปัจจุบัน 20 ล้านเล่ม-ทั่วโลก)
ไม่ต้องอธิบายแล้วมั้งสำหรับเรื่องนี้ นอกจากจะยังไม่จบแล้วยังมีอนิเมภาคใหม่รอลงจอในช่วงปลายปีนี้กันอีก เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะแซงขึ้นอันดับ 2 ได้แน่นอนครับ และถ้าวัดในระดับโลก SAO นี่น่าจะเป็นเรื่องที่ดังที่สุดด้วย เพราะยอดขายต่างประเทศก็มีมากเกินกว่า 3 ล้านเล่มและกำลังจะมีเวอร์ชั่น Live Action ทาง Netflix ด้วย
4.A CERTAIN MAGICAL INDEX (15.2 ล้านเล่ม / ล่าสุด 16.35 ล้านเล่ม)
สำหรับเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่ต้องพูดถึงอะไรมาก สำหรับ Toaru Majutsu no Index หรือชื่อไทย อินเดกซ์ คัมภีร์คาถาต้องห้าม เพราะอนิเมภาคใหม่ก็กำลังจะออกอากาศแล้ว ซึ่งปัจจุบันมีนิยายออกมาตั้งแต่ปี 2004 มากถึง 24+19 +2 = 45 เล่ม (รวมทุกภาคและภาคพิเศษ) โดยตัวเลขจนถึงเดือนสิงหาคม 2017 นั้นสามารถขายไปได้ถึง 16.35 ล้านเล่ม และหากนำตัวเลขของภาคคอมมิคมารวมด้วยล่ะก็ จะมากถึง 30 ล้านเล่มทีเดียวครับ (กรกฎาคม 2018 : อ้างอิง https://natalie.mu/) ปล.ส่วนตัวผมชอบเรลกันฝั่งวิทย์มากกว่าอินเด็กซ์ฝั่งเวทมนตร์นะ แฮ่ๆ
5.LEGEND OF THE GALACTIC HEROES (15 ล้านเล่ม)
หรือชื่อญี่ปุ่น Ginga Eiyuu Densetsu เป็นมหากาพย์สงครามแห่งจักรวาลที่โด่งดังที่สุดในยุค 80 ซึ่งคุณทานากะ โยชิกิ เขียนในช่วงปี 1982-1987 รวม 10 เล่มจบ (และก็มี Side Story ตามมาอีก 4 เล่มกับ 5 เรื่องสั้น) ถูกนำไปทำเป็นภาพยนตร์หลายครั้งและล่าสุดกับทีวีซีรี่ส์เมื่่อซีซันที่ผ่านมาไม่นานนี้เอง (เวบไซต์อนิเม http://www.ginei.jp/)
6.MAJUTSUSHI ORPHEN (12 ล้านเล่ม)
ถ้าเป็นแฟนอนิเมยุค 90 น่าจะคุ้นเคยเรื่องนี้กันเป็นอย่างดี นอกจากจะมีออกอากาศทางเคเบิ้ลทีวีบ้านเราแล้วยังมีฉบับคอมมิคของทางบงกชออกมาให้อ่านกันด้วย ตัวนิยายเขียนโดย อาคิตะ โยชิโนบุ ในช่วงปี 1994-2003 รวมความยาว 20 เล่มเฉพาะภาคหลัก และมีภาคอื่นๆ ตามมาอีก 24 เล่ม และแว่วว่าจะมีอนิเมทีวีซีรี่ส์ภาคใหม่ฉายในปีหน้าเพื่อฉลอง 25 ปีของซีรี่ส์นี้ด้วยครับ (หมายเหตุ เวบต้นทางบอก 12 ล้านเล่มแต่ใน www.crunchyroll.com บอกว่า 10 ล้านเล่มนะครับ / กรกฎาคม 2018)
7. FULL METAL PANIC (11 ล้านเล่ม)
ไลท์โนเวลอีกเรื่องทืี่ถือได้ว่าเป็นลูกรักของคาโดคาว่าเลยล่ะครับ ต้นฉบับเขียนโดย กาโต้ โชจิ ช่วงปี 1998-2011 ความยาว 23 เล่มจบ ถูกทำเป็นอนิเมซีรี่ส์มาแล้วส 4 ซีซันโดย 3 สตูดิโอ โดยภาคล่าสุดเพิ่งออกอากาศไปเมื่อปีนี้เอง (ปี 2018 นี้มีมาครบเลย ทั้งอนิเม เกม PS4 และพลาโมจากบันได) และถึงแม้บ้านเราจะไม่มีใครถือลิขสิทธิ์นิยายภาคหลัก (ภาค another บงกชทำอยู่) แต่ตัวคอมมิคและอนิเมมีให้ชมกันทุกภาคเลยครับ เหลือภาคล่าสุดนี่แหละที่ใครจะเอาเข้ามา..(ตอนนี้ก็เก็บเงินซื้อ Metal Build กันไปก่อน)
8. RECORD OF LODOSS WAR (10 ล้านเล่ม)
ผลงานของ มิซึโนะ เรียว ตีพิมพ์ในช่วงปี 1988-1993 ความยาว 7 เล่ม (ไซด์สตอรี่อีก 2 เล่ม) สำหรับผลงาานเรื่องนี้ผมเชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกับเวอร์ชั่นเกมมากกว่า เพราะออกมาให้เล่นกันเยอะมาก ตั้งแต่ปี 1988-2016 กันเลยทีเดียว และก็เป็นผลงานอีกเรื่องที่ก่อให้เกิดกระแสชื่นชอบสาวเอลฟ์ในญี่ปุ่นด้วย..
9. FORTUNE QUEST (10 ล้านเล่ม)
นิยายแนวแฟนตาซีอีกเรื่องที่เขียนตั้งแต่ปี 1989 และมีออกมาหลายภาคมาก (เฉพาะภาคหลัก 24 เล่ม) เรื่องนี้เขียนโดยฟุคาซาวะ มิชิโอะ ซึ่งประสบความสำเร็จสูงมาก ถูกนำไปสร้างอนิเม คอมมิค และอื่นๆ อีกมากมายทีเดียว แต่กระแสในบ้านเราค่อนข้างเงียบและพูดถึงกันน้อยเมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ
10. SHAKUGAN NO SHANA (8.6 ล้านเล่ม)
น่าจะเรียกได้ว่าเป็นผลงานที่ “ปักหมุด” กระแสความนิยมไลท์โนเวลในบ้านเราในยุคแรกๆ เขียนโดย ทาคาฮาชิ ยาชิจิโร่ ช่วงปี 2002-2012 ความยาว 26 เล่มจบ ถุกนำไปสร้างเป็นคอมมิค อนิเมถึง 3 ซีซัน และ OVA อีกมากมาย ซึ่งตัวชานะนั้นถูกยกให้เป็นต้นตำรับของคำว่า “เตี้ย แบน ซึน” ที่ยังใช้กันถึงทุกวันนี้เลย
อันดับ 11-25
|
อันดับ |
เรื่อง |
ยอดขาย |
|
| 11 | Suzumiya Haruhi Series | 8.5 ล้านเล่ม |  |
| 12 | Kino no Tabi: the Beautiful World | 7.85 ล้านเล่ม |  |
| 13 | Juuni Kokuki 12 อาณาจักรเทพยุทธ์ | 7.8 ล้านเล่ม |  |
| 14 | Saiunkoku Monogatari บุปผาคู่บัลลังก์ | 6.5 ล้านเล่ม |  |
| 15 | Boku wa Tomodachi ga Sukunai ชมรมคนไร้เพื่อน | 6.2 ล้านเล่ม |  |
| 16 | Arslan Senki | 6 ล้านเล่ม |  |
| 17 | Baka to Test to Shoukanjuu โรงเรียนป่วนก๊วนคนบ๊อง | 5.5 ล้านเล่ม |  |
| 18 | Mahouka Koukou no Rettousei | 5.3 ล้านเล่ม |  |
| 19 | Ore no Imouto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai | 5 ล้านเล่ม |  |
| 20 | Hidan no Aria อาเรีย กระสุนแดงเดือด | 5 ล้านเล่ม |  |
| 21 | Biblia Koshodou no Jiken Techou | 4.8 ล้านเล่ม |  |
| 22 | Durarara!! | 4.7 ล้านเล่ม |  |
| 23 | Monogatari Series* | 4.5 ล้านเล่ม |  |
| 24 | Boogiepop Series | 4.5 ล้านเล่ม |  |
| 25 | Zero no Tsukaima | 4.5 ล้านเล่ม |  |
ที่มา https://tanoshimi.xyz
*หมายเหตุ : บางเรื่องเอาจริงๆ ก็ไม่ใช่ไลท์โนเวลนะ อย่าง Monogatari Series ซึ่งต้นทางก็ยอมรับเหมือนกันว่าไม่ใช่ LN ..แต่ก็ใส่มา ก็เลยขอใส่ตามไปด้วยละกัน