พอเข้าถึงเดือนธันวาคม ที่ญี่ปุ่นก็จะเริ่มมีสรุปอันดับต่างๆ ออกมาให้เราได้รับรู้กัน ซึ่งจริงๆ อันดับส่วนใหญ่เขาจะปิดยอดกันตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนนี่แหละครับ อย่างคราวนี้ผมจะพูดถึงอันดับไลท์โนเวลขายดีแห่งปี ซึ่งทาง Oricon เขาก็สรุปจากยอดขายไลท์โนเวลในช่วงระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน 2017 จนถึงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2018 ครับ ซึ่งอันดับไลท์โนเวลขายดีของแต่ละปี ก็มักจะมีปัจจับที่ทำให้โด่งดังต่างกัน เช่น การถูกสร้างเป็นอนิเมก็จะทำให้มีกลุ่มนักอ่านหน้าใหม่เพิ่มมากขึ้นแบบก้าวกระโดด เป็นผลงานใหม่ของนักเขียนชื่อดัง กระแสนักวิจารณ์ หรือในปีนั้นมีไลท์โนเวลเรื่องนั้นออกถี่หลายๆ เล่ม ก็ช่วยเพิ่มยอดขายเหมือนกัน เพราะการมีเล่มใหม่ออก ก็จะช่วยดันยอดขายเล่มเก่าไปในตัวด้วยนั่นเอง
สำหรับไลท์โนเวลที่มียอดขายสูงสุดในปี 2018 คือ Overlord เล่ม 13 (The Paladin of the Holy Kingdom II) ทำยอดขายไปทั้งสิ้น 240,361 เล่ม รองลงมาคือนักดาบสเตย์คูล Sword Art Online: Progressive เล่ม 5 ขายได้ 208,825 เล่ม และ Sword Art Online: Progressive เล่ม 6 ขายได้ 177,656 เล่มครับ ส่วนอันดับ 4 ก็คือเรื่อง พี่น้องปริศนาโรงเรียนมหาเวท เล่ม 24 ขายได้ 170,766 เล่ม และอันดับ 5 คือ พี่น้องปริศนาโรงเรียนมหาเวท เล่ม 25 ขายได้ 166,745 เล่ม
อันดับ 6 No Game No Life เล่ม 10 ขายได้ 161,121 เล่ม และอันดับ 7 ก็ยังคงเป็น พี่น้องปริศนาโรงเรียนมหาเวท เล่ม 26 ที่ขายได้ 152,569 เล่ม ซึ่งเล่มนี้เป็นเล่มที่เพิ่งออกใหม่ไปไม่นาน (10 สิงหาคม 2018) ก็เลยยังทำยอดขายได้น้อยกว่าเล่มที่ออกมาก่อนหน้านี้ครับ แต่พี่น้องปริศนาฯ ก็ถือเป็นผลงานที่ทำยอดขายติด Top 10 ได้มากที่สุดถึงสามเล่ม เกินความคาดหมายไปมากทีเดียวครับ (ล่าสุดเล่ม 27 ที่เพิ่งออก ก็ทำยอดทะลุแสนเล่มไปแล้ว) ส่วนอันดับ 8-10 ก็เป็นเรื่อง ขอให้โชคดีมีชัยในโลกแฟนตาซี เล่ม 13 (143,251 เล่ม) มันผิดรึไงถ้าใจอยากจะพบรักในดันเจี้ยน เล่ม 13 (138,937 เล่ม) และ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ปฏิบัติการสายลับเดอะซีโร่ ฉบับนิยาย ขายได้ 131,790 เล่ม ซึ่งแน่นอนครับว่า มาจากกระแสหนังโรงล้วนๆ เลยครับ
จุดที่น่าสนใจคือ SAO ที่ติดอันดับทั้ง 2 เล่ม เป็นภาค Sword Art Online: Progressive นะครับ ไม่ใช่ภาคหลัก ส่วนภาคหลักคิดว่าอันดับน่าจะพุ่งขึ้นในปีหน้าเพราะอนิเมภาคใหม่เพิ่งเริ่มฉายไปเมื่อเดือนตุลาคมนี้เอง แต่ตัวอันดับนิยายนั้นปิดยอดไปเมื่อ 20 พฤศจิกายน เลยยังไม่เห็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดมากนัก และที่สำคัญ ตลอดช่วงที่กำลังจัดอันดับ 1 ปี ไม่มี SAO ภาคหลักเล่มใหม่ออกวางจำหน่ายเลยครับ (เล่ม 20 ออก 8 กันยายน 2017 ส่วนเล่ม 21 Sword Art Online 21: Unital Ring กำลังจะออกในวันที่ 7 ธันวาคม 2018 ครับ) แต่ถ้าดูตัวเลขรายสัปดาห์จะเริ่มเห็นว่ายอดขายเริ่มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างมีนัยสำคัญทีเดียว
แต่หากมาดูยอดขายรวมแบบแยกตามซีรี่ส์แล้ว อันดับ 1 ยังคงเป็น Overlord ที่ทำยอดขายรวมในปี 2018 ไปถึง 807,693 เล่ม ตามมาด้วยอันดับ 2 ขอให้โชคดีมีชัยในโลกแฟนตาซี ที่ได้กระแสอนิเมหนุนทำให้ยอดขายขึ้นไปถึง 630,889 เล่ม (ซึ่งตัวอนิเมนั้นพูดได้เลยว่า ภาพไม่สวยเลยเมื่อเทียบกับเรื่องอื่น บางซีนก็ดูเผาเกิน แต่กลับดูสนุก ดูแล้วติดงอมแงมเลย) อ้อ ยอดนี้ยังไม่รวมเล่ม 15 ที่เพิ่งออกนะครับ ส่วนอันดับ 3 เป็น พี่น้องปริศนาโรงเรียนมหาเวท ทำยอดไปถึง 626,952 เล่ม ซึ่งเป็นยอดขายที่มาจาก 3 เล่มล่าสุดที่ออกในปีนี้นั่นเองครับ (และแน่นอนว่า ยังไม่รวมยอดขายเล่ม 27 เข้าไปด้วยเช่นกัน) ส่วนอันดับ 4 คือเรื่องหนูแรมนางเอก เอ้ย รีเซทชีวิต ฝ่าวิกฤตต่างโลก ทำยอดไปได้ 619,031 เล่ม (ผมรออนิเมภาคต่ออยู่นะ) และอันดับ 5 ก็คือ เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว ที่ได้กระแสจากอนิเมหนุนเต็มๆ อีกเรื่อง ทำยอดขายไป 539,277 เล่มครับ
ส่วนอันดับ 6 หมากรุกกินเด็ก เอ๊ย สอนหมากหนูที คุณพี่จ้าวมังกร ที่ได้กระแสทั้งจากคำวิจารณ์และอนิเมที่ทำออกมาได้ดี ทำยอดขายรวมไป 478,242 เล่ม (ล่าสุด Netflix เอาเรื่องนี้มาลงแล้ว ใครยังไม่ได้ดูไปดูกันได้นะ) ส่วนอันดับ 7 เป็น Sword Art Online: Progressive ที่แน่นอนว่า ส่วนใหญ่มาจากยอดขาย 2 เล่มล่าสุด ทำยอดรวมกับเล่มอื่น ๆ ไปถึง 426,794 เล่ม อันดับ 8 คือ ขอต้อนรับสู่ห้องเรียนนิยม (เฉพาะ) ยอดคน ที่แม้อนิเมจะไม่ค่อยมีกระแสมากนัก แต่กลับช่วยโปรโมตนิยายให้ยอดพุ่งไปถึง 393,949 เล่ม อันดับ 9 เป็น Sword Art Online ภาคหลัก ที่ขายได้ 371,626 เล่ม น้อยกว่าภาค Progressive อีก แต่ก็อย่างที่บอกแหละครับว่า คงต้องรอกระแสอนิเมภาคใหม่นิดนึงครับ เพราะในช่วงที่จัดอันดับ ไม่มี SAO ภาคหลักเล่มใหม่ออกแม้แต่เล่มเดียว แต่ยังสเตย์คูลขายได้เกินสามแสนเล่มนะครับ และอันดับสุดท้ายก็คือ No Game No Life ขายได้ 350,960 เล่ม
ซึ่งจะเห็นได้เลยว่า ทั้ง 10 อันดับเป็นเรื่องที่มีขายในบ้านเราทุกเรื่องเลย (เว้นโคนัน ที่ตัวหนังโรงได้เข้าฉาย แต่นิยายไม่ได้ตามมาด้วย) ส่วนอนิเมที่สร้างจากนิยาย เอาจริงๆ ก็มีลิขสิทธิ์ทุกเรื่องเลยนะ แต่ครึ่งนึงไปอยู่บน Netflix ตามสมัยนิยมนั่นแหละครับ ใครที่สนใจก็ไปตามดูกันได้นะ ผมเองก็เพิ่งไล่ดูจบไปหลายเรื่องเหมือนกัน
ที่มา https://www.oricon.co.jp/