[DVD] Mazinger Z: Infinity สงครามหุ่นเหล็กพิฆาต

รอกันมานานทีเดียวครับ สำหรับ Mazinger Z: Infinity สงครามหุ่นเหล็กพิฆาต ในรูปแบบ DVD สำหรับคนที่ไม่ได้ไปดูในโรงแบบผม ซึ่งตอนแรกผมก็ทำใจแล้วนะ ว่าจะมีแผ่นออกมาให้เก็บกันหรือเปล่า เพราะหลังๆ นี่ DVD การ์ตูนออกแผ่นน้อยมากครับ แต่สุดท้ายทางบูมเมอร์แรงก็ได้สิทธิ์จากทาง MONO FILM ทำแผ่นออกมาให้เก็บสะสมกันในราคาที่ไม่แพงเกินเอื้อมนัก แม้จะรู้สึกเสียดายที่เรื่องนี้ไม่ทำบลูเรย์ออกมา แต่ก็เข้าใจได้ครับ เพราะขนาดจะสิ้นปีแล้ว เลข กท. (เลขขออนุญาตทำวิดิทัศน์) ยังอยู่ที่ 109/61 อยู่เลย แปลว่าจนถึงตอนนี้เพิ่งมีแผ่น DVD ออกมาแค่ 100 เรื่องนิดๆ เท่านั้น ผิดกับสมัยสมัยรุ่งเรืองที่เลข กท.ช่วงปลายปีจะไปถึง 3-4000 กันแล้ว

เอาล่ะครับ ไหนๆ ก็มีให้ดูแล้ว ก็แกะดูกันเลยครับ สำหรับเรื่องราวในภาคนี้ จะเป็นการต่อสู้ในยุคหลังจากสงครามระหว่างมาชินก้าแซดและ ดร.เฮลจบไปแล้วหลายปี (ถ้าเอาตามเรื่องย่อหลังปกก็สิบปี) นานขนาดที่ว่าอีตาสึรุกิ ทัตสึยะ (นักบินเกรทมาชินก้า) ไปทำจุนท้องป่องจนใกล้คลอดแล้ว ส่วนอีตา คาบุโตะ โคจิ นี่ผันแปรตนเองไปเป็นนัักวิทยาศาสตร์เต็มตัว ยูมิ ซายากะ ไปเป็นผอ.ศูนย์วิจัยพลังงานโฟตอน ที่ตอนนี้องค์กรใหญ่โตขึ้นมาก ส่วน ดร.ยูมิ พ่อซายากะ กลายเป็นนายกญี่ปุ่นเฉยเลย..(แต่เป็นนายกที่หงอมาก กลัวกระทั่งลูกสาว) และตัวละครอื่นๆ ต่างก็มีเส้นทางชีวิตที่แตกต่างกันไป

จนกระทั่งวันหนึ่ง ได้มีการค้นพบหุ่นยักษ์ “อินฟินิตี้” ที่ตัวใหญ่กว่ามาชินก้าหลายสิบเท่าอยู่ในเหวลึกของภูเขาไฟฟูจิ แถมในตัว  อินฟินิตี้ ยังมีหุ่นยนต์ชีวะรูปแบบมนุษย์ ที่ถูกเรียกว่า ลิซ่า อยู่ภายในด้วย ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน ดร.เฮลและลูกสมุนก็พื้นคืนชีพและบุกถล่มอเมริกาตามมาด้วยญี่ปุ่น โดยเป้าหมายของ ดร.เฮลนั้นอยู่ที่อินฟินิตี้หรือที่ลิซ่าเรียกว่า “โกราก้อน” นั่นเอง

เรื่องย่อคร่าวๆ ก็ประมาณนี้แหละครับ เพราะเล่ามากไปจะหาว่าสปอยล์กันเกินงามอีก แต่เอาจริงๆ เนื้อหาของภาคนี้ถือว่าสนุกเลยนะ คือเป็นอีกครั้งที่มาชินก้าพยายามจะก้าวข้ามกรอบของคำว่า “มวยปล้ำหุ่นยนต์” ซึ่งเป็นนิยามของการ์ตูนหุ่นยนต์ในยุค 70 ที่โทมิโนะ(ผู้กำกับกันดั้ม)เรียก จึงได้พยายามใส่ความจริงจัง และปรับเนื้อหาบางจุดให้สมจริง สมเหตุผลขึ้น โดยไม่ทิ้งความบ้าพลังแบบการ์ตูนซูเปอร์โรบอตไปจนเสียศูนย์แบบอนิเมหุ่นยนต์รีเมคหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะฉากหนึ่งในเรื่องนี้มันชวนให้นึกถึงยุทธการยาชิมะ(เอวานเกเลียน) เวอร์ชั่นบอลเก็งกิ (ดราก้อนบอล)ชัดๆ (ไม่บอกนะว่าฉากไหน ไปดูกันเอาเอง)

ซึ่งบางจุดผมก็ชอบมากเลยนะ อย่างเช่นการตั้งคำถามว่า “คนที่ฉลาดๆ อย่าง ดร.เฮล จะคิดครองโลกไปทำไม” ..ซึ่งบางทีเราก็เคยสงสัยนะ ว่าทำไมผู้ร้ายในการ์ตูนถึงอยากครองโลก ครองโลกมันดีตรงไหน ครองแล้วได้อะไร หรือการพูดถึงประเด็นเรื่องสังคม การเมือง ไปจนกระทั่งระบบประชาธิปไตยที่บางครั้งก็แก้ปัญหาความแตกต่างและแตกแยกไม่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ ดร.เฮลพูดว่าความแตกต่างนี่แหละคือจุดอ่อนของมนุษย์ โดยเฉพาะในสภาวะที่สังคมเกิดความ chaos ซึ่งในเรื่องมันคุกรุ่นมาตั้งแต่การใช้พลังงานโฟตอนเป็นพลังงานหลักของโลกที่มีทั้งคนชอบ และไม่ชอบ จนมีม็อบ มี NGO ออกมาต่อต้าน และการคืนชีพของ ดร.เฮล รวมถึงการปรากฎตัวของอินฟินิตี้ก็ถูกโยนมาให้เป็นความผิดของพลังงานโฟตอนอีก จนบางฉากนี่ผมอยากจะให้ยูมิ ซายากะ เอาโพเดียมทุ่มนักข่าวที่ชอบเสี้ยมไม่เป็นเรื่องตอนท้ายๆ เรื่องอยู่เหมือนกัน

และอีกจุดหนึ่งที่ผมว่าน่าสนใจมากก็คือ เรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครในเรื่องครับ ในขณะที่สึรุกิ ทัตสึยะ ทำจุนท้องป่องไปแล้ว คู่ของโคจิกับซายากะกลับไปด้วยกันได้ไม่ราบรื่นนัก และดูเหมือนทั้งสองพอใจที่จะอยู่กันไปแบบเพื่อนเสียมากกว่า มันเหมือนเป็นภาพสะท้อนของคนหนุ่มสาวญี่ปุ่นในยุคปัจจุบันที่เริ่มรู้สึกไม่อยากมีครอบครัว ซึ่งต่างจากคนสมัยโชวะ โดยสึรุกิกับจุนถูกทำให้กลายเป็นตัวแทนของหนุ่มสาวโชวะแบบตรงไปตรงมา (ถึงขนาดชอบอาศัยอยู่ในบ้านแบบยุคโชวะ) ในขณะที่ตัวของคาบูโตะเองพอก้าวไปถึงอนาคตจุดหนึ่งก็กลับโหยหาตัวตนในแบบดั้งเดิม(โชวะ) ซึ่งตรงนี้ผมว่าสื่อมาค่อนข้างชัดครับ เพราะคาบูโตะเองทิ้งตัวตนในอดีตไปหาอนาคตแบบใหม่ ชีวิตแบบใหม่ ปล่อยให้สึรุกิยึดติดกับตัวตนในอดีต(เป็นชายชาตินักรบ มีครอบครัว และยึดติดกับบรรยากาศยุคโชวะ) แต่สุดท้าย คาบุโตะก็ไม่อาจจะทิ้งตัวตนในฐานะนักบินมาชินก้าไปได้อยู่ดี ไม่ว่าสังคมรอบข้างจะร้องเรียกหาเขาหรือไม่ก็ตาม

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่ค่อยชอบก็คือ การ Tie-In โฆษณาของรถยนต์ Nissan ที่ผมว่ามันดูโจ่งแจ้งไปหน่อย และบางฉากก็ดูยัดเยียดไปนิด (มากระทั่งโชว์รูม แถมตอนจบมีแอบเนียนโปรโมตรถไร้คนขับของนิสสันที่กำลังทดลองอยู่ด้วย) แต่ถ้าไม่คิดมากก็คงไม่รู้สึกอะไรครับ ส่วนตัวแผ่น DVD ก็ทำออกมาได้ดีนะ พากย์ไทยก็ดูโอเคอยู่ แต่พูดตามตรงว่าเสียงพากย์ไม่คุ้นหูเลย น่าจะเป็นนักพากย์ในสายภาพยนตร์ของทาง MONO มั้ง พอมาพากย์อนิเมซึ่งก็ทำได้ดีนะ ตอนซีนที่ต้องเอะอะโวยวายก็ดูเข้าถึงอารมณ์ดีอยู่ แต่มันฟังแล้วไม่คุ้นเคยเท่าไหร่ ก็เลยเลือกฟังเสียงญี่ปุ่นดีกว่า

ปล.เรื่องนี้ชื่อไทยมันปฐมบทยังไงฟะ..มันควรจะเป็นศึกสุดท้ายของมาชินก้าแซดสิ จะบอกว่าเพราะเป็นหุ่นเหล็กตัวแรกงั้นรึ..แล้วเอาหุ่นเหล็กหมายเลข 28 ไปทิ้งไว้ไหนดีล่ะ..

ปล.2 ด้วยราคาไม่ถึง 300 บาท ผมว่าซื้อแผ่นไปเลยครับ อย่ารอตอนเซลล์เลย…ตัวหนังก็สนุกด้วย ดูแล้วไม่เสียดายเวลาเหมือนหนังอีกหลายเรื่อง อย่างน้อยคนทำก็จะได้มีกำลังใจหน่อย..