ตอนแรกผมนึกว่าปีนี้จะไม่ได้ดูกินทามะในโรงหนังเสียแล้ว เพราะรอบสื่อเขาไม่ได้เชิญมา (ซึ่งก็แปลกใจเหมือนกัน เพราะคนรอบข้างหลายๆ คนไม่ได้ไปดูรอบสื่อกันเยอะมาก) ซึ่งถ้าไม่ได้ดูรอบสื่อผมจะไม่ค่อยได้ดูหนังแบบฉายจำกัดโรงเท่าไหร่หรอกครับ เพราะด้วยข้อจำกัดด้านเวลาของผมตัวเอง(เลิกงานดึก)บวกกับแถวบ้านผมกำลังก่อสร้างรถไฟฟ้า ก็เลยทำให้การออกนอกบ้านแต่ละครั้ง (ที่ไม่ใช่ไปทำงาน) เป็นเรื่องน่าเบื่อและยากลำบาก (เอาง่ายๆ ปีนี้ผมไปร่วมงาน event ต่างๆ น้อยมากเลย) แต่บังเอิญผมมีธุระต้องมาเชียงใหม่เพื่อมาดูน้องแนทเธอรีน เอ๊ย มาทำงาน แล้วที่เชียงใหม่มีโรงที่ฉายกินทามะอยู่พอดี แต่ฉายแค่วันละรอบเดียว(เศร้า) แล้วแว่วมาว่ารายได้ของกินทามะวันต่อวันยังน้อยกว่า My Hero Academia ที่ฉายสัปดาห์ที่สองเสียอีก ก็เลยคิดว่า ดูกินทามะที่เชียงใหม่ก็ได้นะ เปลี่ยนบรรยากาศไปอีกแบบ
สำหรับกินทามะภาคนี้ ก็หยิบเหตุการณ์ช่วงอิโต้จะยึดอำนาจชินเซนกุมิกับท่านรองฮิจิคาตะกลายเป็นโอตาคุมาสร้างเป็นหนังครับ โดยมีเนื้อเรื่องส่วนของท่านโชกุนปูพื้นเข้ามาเป็นระยะ ซึ่งโทนของหนังยังทำออกมาได้ใกล้เคียงกับภาคที่แล้ว คือเป็นหนังมุกต่อมุกสลับกับช่วงจริงจัง เพียงแต่ในภาคนี้ บทพูดจะเยอะกว่าภาคก่อนค่อนข้างมากครับ เพราะมีรายละเอียดของตัวละคร และบทตบมุกขัดคอของชินปาจิก็ค่อนข้างเยอะด้วย ก็เลยรู้สึกว่าบางทีอาจต้องใช้สมาธิในการดูมากกว่าภาคก่อนพอสมควร
จุดที่ผมค่อนข้างชอบภาคนี้ก็คือ มุกตลกล้อเลียนเรื่องอื่นที่มีค่อนข้างเยอะมาก และส่วนมากจะเป็นมุก 35+ ด้วย ภาคก่อนยังล้อเฉพาะการ์ตูนดังของค่ายซันไรส์เป็นหลัก (ซึ่งเป็นค่ายที่ทำอนิเมกินทามะอยู่แล้ว) แต่ภาคนี้เลยเถิดไปถึง GxIxxx เลยทีเดียว แถมยังเล่นมุกกันแบบรัวๆ แทบไม่พักหายใจ โดยเฉพาะตอนที่ท่านโชกุนออกมานี่ ก็รู้เลยว่างานนี้ต้องมีฮากันแน่นอน
อีกจุดหนึ่งก็คือ ฉากต่อสู้ในช่วงท้ายเรื่อง ซึ่งแม้จะไม่ได้อารมณ์เท่าในภาคแรก (ซึ่งผมว่าเป็นหนึ่งในฉากต่อสู้ที่มันส์ที่สุดของกินทามะ) แต่เพราะคราวนี้เป็นการต่อสู้บนพื้นโลก ต่อสู้กับมนุษย์ด้วยกัน ไม่ใช่ชาวสวรรค์ที่ไหน มันจึงไม่ดูเป็น CG หลอกๆ เหมือนคราวก่อน ซึ่งผมคิดว่าทีมงานยังทำพวกชาวสวรรค์ออกมาได้ไม่เนียน และ CG ฉากต่อสู้ในภาคก่อน (ซึ่งเป็นฉากสู้กันบนเรือเหาะลอยฟ้า)มันก็ดูลอยๆ อยู่มาก ผมก็เลยชอบฉาก Climax ของภาคนี้มากกว่าเดิมนิดหน่อย (แต่ฉากต่อสู้ของคุณกินในตอนท้ายภาคนี้ ผมว่า CG ก็ดูลอยๆ อยู่เหมือนกันนะ)
โดยรวมแล้ว ผมคิดว่าแฟนๆ กินทามะน่าจะชอบภาคนี้นะ แม้ในด้านความสดใหม่อาจจะไม่เท่าภาคแรก การเกลี่ยบทตัวละครก็ไม่ลงตัวมากนัก เพราะภาคนี้ไปเน้นที่ส่วนของชินเซ็นกุมิเยอะด้วย ทำให้ตัวละครเด่นบางตัวมีบทน้อยลงอย่่างน่าเสียดาย ถ้าพูดกันตรงๆ เลยก็คือ ในภาพรวมภาคแรกเหมือนจะดูโอเคและลงตัวกว่า แต่แฟนๆ กินทามะก็ไม่ควรพลาดชมเรื่องนี้ในโรงครับ..ยิ่งได้เห็นรายได้วันต่อวันแล้วใจหายจริง แถมตอนผมดูขนาดแค่วันละรอบยังมีคนดูไม่ถึง 10 คนเลย..