Nadia: The Secret of Blue Water

ผมเพิ่งได้กลับมานั่งดูอนิเมเรื่อง Nadia: The Secret of Blue Water อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ไม่ได้ดูมานานนับสิบปี และผมก็ยังยกให้อนิเมที่ออกอากาศในปี 1990 เรื่องนี้ ยังคงติด Top 5 อนิเมที่ผมชอบที่สุดตลอดกาล ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แม้จะเป็นผลงานเก่าที่กำลังจะมีอายุครบ 30 ปีแล้วก็ตาม

Nadia: The Secret of Blue Water หรือชื่อไทย สาวน้อยนาเดีย (ver ม้วน VDO ของค่ายวิดีโอสแควร์) นาเดีย ผจญภัยใต้สมุทร (ช่อง 3 ออกอากาศตอนเย็นๆ จำไม่ได้ว่าวันไหน) และ นาเดีย กับปริศนาอัญมณีมหัศจรรย์ (ฉบับ TIGA เป็น VCD ที่แปลออกมาดีที่สุด) เป็นผลงานอนิเมที่สร้างโดย Gainax กำกับโดย อันโนะ ฮิเดอากิ และออกแบบตัวละครโดยซาดาโมโต้ โยชิยูกิ ซึ่งต่อมาเราจะคุ้นชื่อของทั้งสองจากอนิเมในตำนานอย่างเอวานเกเลี่ยน

ใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์ นิยายไซไฟเรื่องดังในช่วงศตวรรษที่ 19

เค้าโครงเรื่องของนาเดียนั้น ดัดแปลงมาจาก นิยายชุด Twenty Thousand Leagues Under the Sea หรือชื่อไทย ใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์ ผลงานแนววิทยาศาสตร์ของ ฌูล แวร์น (Julel Verne) ซึ่งเป็นเรื่องราวของ กัปตันนีโม กับเรือดำน้ำชื่อ นอติลุส ที่บอกเล่าผ่านมุมมองของศาสตราจารย์ปิแอร์ แอรอนแนกซ์ นักชีววิทยาผู้โดยสารไปกับเรือที่ออกท่องทะเลไปรอบโลก

แต่เรื่องราวของนาเดียนั้นจะต่างออกไปครับ ถึงจะบอกว่ามีต้นเรื่องมาจาก ใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์ แต่ที่จริงอนิเมเรื่องนี้เป็นยำใหญ่อนิเมและวรรณกรรมคลาสสิคไปจนถึงป็อปคัลเจอร์ โดยเนื้อเรื่องจะดำเนินในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดยมีตัวเอกของเรื่องคือ ฌอง เด็กหนุ่มนักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศส กับ นาเดีย สาวน้อยปริศนาผิวดำแห่งคณะละครสัตว์ผู้ครอบครองอัญมณีปริศนาที่ชื่อบลูวอเธอร์ ที่ถูกแกรนดิสและพรรคพวกหมายปองอยู่

นาเดียในตอนเปิดเรื่อง กับลูกสิงโตชื่อคิง

ฌองพานาเดียหนีจากพวกแกรนดิสด้วยเครื่องบินของตนที่ชื่อว่า Etoile De la Saine (ซึ่งตั้งมาล้อการ์ตูนปี 1975 เรื่อง ลา แซน โนะ โฮชิ โดยคำว่า Etoile และ โฮชิ แปลว่าดวงดาวเหมือนกัน) จนทั้งสองได้มาพบกับเรือดำน้ำไฮเทคนอติลุส และกับตันนีโม ที่กำลังไล่ล่าเรือดำน้ำ การ์ฟิช ของพวกเนโอแอตแลนติส ที่นำทัพโดย การ์กอยล์ ชายซึ่งหวังจะครอบครองโลกอยู่

กัปตันนีโมในสะพานเดินเรือของนอติลุส

หลังจากนั้น เรื่องราวก็จะเริ่มพลิกผัน โดยพวกนาเดียกับแกรนดิส จะขึ้นเรือนอติลุสแล้วกลายเป็นพวกเดียวกัน เพราะแกรนดิสนั้นไม่สนใจบลูวอเตอร์แล้วแต่ดันไปสนใจกัปตันนีโมมากกว่า (เห็นผู้ชายดีกว่า ว่างั้นเถอะ) จากนั้นเนื้อเรื่องก็จะเป็นช่วงโชว์เทพของเรือนอติลุส ที่มีเทคโนโลยีที่เหนือล้ำกว่ายุคสมัยมาก ซึ่งเราจะค่อยๆ ได้รับรู้ว่า เทคโนโลยีสุดล้ำนี้มาจากชาวแอตแลนติส ที่มีอาณาจักรอยู่ใต้ท้องทะเล (ปัจจุบันกลายเป็นสุสาน) และอาณาจักรแอตแลนติสก็ได้ล่มสลายลงเพราะอาวุธมหาประลัยที่ชื่อว่าหอคอยบาเบล (อันที่จริง หอคอยบาเบลไม่ใช่อาวุธนะ) แต่พอถึงกลางเรื่อง พวกเนโอแอตแลนติสก็พัฒนายานรบทางอากาศได้สำเร็จ ซึ่งยานลำนี้มีอาวุธร้ายคือปืนยิงสนามแม่เหล็กขนาดใหญ่ที่สามารถยกเรือนอติลุสลอยขึ้นจากใต้ทะเลมาอยู่กลางอากาศและยิงถล่มเสียจนเรือนอติลุสเละไปในที่สุด

เรือดำน้ำสุดเทพไร้เทียมทานที่พอถึงบทจะพังก็เล่นเอาคนดูช็อกกันไปเลย

พวกนาเดียหนีออกมาโดยใช้ห้องกัปตันของเรือนอติลุสเป็นยานชูชีพ พร้อมกับรับรู้ว่า กัปตันเนโมเป็นพ่อที่แท้จริงของนาเดีย และในที่สุดพวกนาเดียก็ลอยมาติดอยู่บนเกาะร้าง ก่อนที่จะได้พบกับเกาะร้างอีกแห่งที่สามารถเคลื่อนตัวได้ ซึ่งที่เกาะนี้นาเดียจะได้พบกับพวกแกรนดิสอีกครั้ง และเราก็จะรู้ว่าเกาะร้างลึกลับนี้ก็คือยานเรดโนอาห์ชองชาวแอตแลนติส (ตรงนี้จะเริ่มเห็นแล้วว่า อนิเมเรื่องนี้เอาตำนานแอตแลนติส หอบาเบล เรือโนอาห์มาเชื่อมโยงกันหมด) ซึ่งชาวแอตแลนติสนั้นอพยพมาจากกลุ่มดาว M-78 (เป็นอุลตร้าแมนเรอะ) และอยู่บนโลกนี้มานับหมื่นปีแล้ว

นาเดียกำลังจะได้รับรู้ความลับที่แท้จริงของบลูวอเธอร์และชาติกำเนิดของตน

หลังจากออกมาจากเรดโนอาห์ได้สำเร็จ พวกนาเดียก็มาถึงทวีปแอฟริกา ที่ที่เชื่อกันว่าเป็นบ้านเกิดของนาเดีย และได้พบกับสถานที่ที่เคยถูกเรียกว่า “ทาร์เทซอซ” ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นอาณาจักรของชาวแอตแลนติส และรับรู้ว่าตัวนาเดียเองก็เป็นชาวแอตแลนติสและเป็นสายเลือดมนุษย์ต่างดาว (จริงๆ ควรจะรู้ตัวมาตั้งแต่หลายตอนก่อนแล้วนะ) ซึ่งนีโมนั้นเคยเป็นกษัตริย์ของทาร์เทซอซ ผู้นำของชาวแอตแลนติส แต่กลับขัดแย้งกับการ์กอยส์ซึ่งเคยเป็นอดีตนายกฯของทาร์เทซอสที่ต้องการปกครองมนุษย์ เพราะชาวแอตแลนติสนี่แหละที่เป็นคนสร้างมนุษย์ขึ้นมา แต่นีโมกลับต้องการอยู่ร่วมกับพวกมนุษย์ และยังทำลายหอคอยบาเบลจนกลายเป็นโศกนาฎกรรมครั้งใหญ่ ซึ่งการจะใช้งานหอคอยบาเบลนั้น จำเป็นต้องมีพลังของบลูวอเตอร์ ที่นีโมและนาเดียครอบครองอยู่คนละส่วน การ์กอยล์จึงยกพลมาที่ทาร์เทซอสเพื่อจับตัวนาเดีย ทว่านีโมนั้นกลับซ่อนตัวอยู่ใต้ทาร์เทซอสพร้อมกับยานอวกาศนิวนอติลุส (ฉากเปิดตัวนิวนอติลุสนี่ล้อยามาโต้เต็มๆ) ซึ่งเป็นยานรบอเนกประสงค์ของชาวแอตแลนติสโบราณ เพื่อที่จะเปิดศึกครั้งสุดท้ายกับพวกเนโอแอตแลนติสที่ตอนนี้สามารถครอบครองยานเรดโนอาห์ได้แล้ว

ภาพนิวนอติลุส ที่เคยเห็นตามปกหลังหนังสือการ์ตูนในยุคก่อนลิขสิทธิ์ เป็นภาพที่ผมชอบมากภาพหนึ่ง

ซึ่งก็อย่างที่บอกไว้แต่ต้นแหละครับว่า อนิเมเรื่องนี้คือการยำใหญ่สารพัดตำนานในโลกนี้ ไล่มาตั้งแต่แอตแลนติส หอคอยบาร์เบล อุลตร้าแมน เรือรบอวกาศยามาโต้ ไปจนถึงตำนานของอดัม มนุษย์คนแรกของโลก ที่เป็นมนุษย์ยักษ์เหมือนในเรื่องเอวานเกเลี่ยนเลย จนถึงตอนนี้ก็ยังสงสัยอยู่ว่า มันตัวเดียวกันรึเปล่า เพราะทั้งสองเรื่องนี้มันเชื่อมโยงกันอยู่อย่างแปลก ๆ ขนาดตัวอิคาริ ชินจิ ตัวเอกของเอวาฯ เองยังเป็นการรีดีไซน์มาจากตัวนาเดียด้วยซ้ำ (อันนี้ อ.ซาดาโมโต้สารภาพขำๆ ออกมาเองนะ) ถ้าจับชินจิแต่งหญิง และเปลี่ยนสีผิว ก็จะกลายเป็นนาเดียเลยล่ะ ส่วนอิคาริ เกนโด นั้นก็ไม่ต่างอะไรกับกัปตันนีโม เพียงแต่นีโมนั้นรักลูกแต่ไม่รู้จะแสดงออกยังไง ส่วนเกนโดนั้นไม่รู้จะรักลูกยังไง…เพราะรักเมียมากกว่า(ฮา)

นาเดียในฐานะเจ้าหญิงแห่งเนโอแอตแลนติสถูกการ์กอยล์ควบคุมจิตใจให้ฆ่าพ่อตัวเอง

และตอนปี 1990 ที่เรื่องนี้ออกฉาย คาแรกเตอร์ของนาเดียนั้นโด่งดังมาก ขึ้นอันดับ 1 ในทุกชาร์ตที่ญี่ปุ่นและน่าจะเป็นนางเอกอนิเมผิวสีที่ได้รับความนิยมอันดับ 1 ตลอดกาลด้วย แม้ว่าโดยนิสัยของนาเดียนั้นเรียกได้ว่าทำตัวได้ไม่สมเป็นนางเอกสุดๆ ทั้งเรื่องมาก เอาแต่ใจตัวเอง (เหมือนอาสึกะจากเอวาฯ) ไม่ทานเนื้อสัตว์ (เหมือนเรย์จากเอวาฯ แต่ดื้อกว่า) ซึ่งตัวอนิเมนั้นพยายามที่จะเน้นไปที่พัฒนาการของเด็กสองคน คือฌองและนาเดีย แต่โดยส่วนตัวแล้ว รู้สึกว่า นาเดียพัฒนาจากเด็กผู้หญิงที่เอาแต่ใจ ไปเป็นผู้หญิงที่เอาแต่ใจกว่าเดิมเท่านั้นเอง…(แถมยังโดนตบเพราะความเอาแต่ใจบ่อยมาก) แต่นาเดียก็มีมุมน่ารักในแบบของเธอเองอยู่เยอะนะ ไม่งั้นไม่ขึ้นแท่นนางเอกอันดับ 1 ในช่วงนั้นหรอก

ถึงทะเลาะกันยังไง แต่สุดท้ายฌองก็จะเป็นฝ่ายยอมนาเดียตลอด

ส่วนฌอง แม้โดยพื้นเรื่องจะเป็นเด็กฉลาด เป็นนักประดิษฐ์ แต่เอาเข้าจริงเจ้าตัวนั้นเป็นตัวสร้างปัญหาตลอดเรื่อง ตั้งแต่สิ่งประดิษฐ์ที่ล้มเหลวตลอดเรื่อง และการที่นอติลุสลำแรกพังนั้น ก็เป็นผลมาจากการทดลองเครื่องบินของฌองที่ทำให้การ์กอยล์จับสัญญาณเรือนอติลุสได้ (จริงๆ ก่อนหน้านั้น เรือก็เกือบจมไปรอบหนึ่งเพราะฌองเคาะผนังเรือดำน้ำจนเกือบโดนตอร์ปิโดสอย) และฌองนั้นก็เรียกได้ว่าเป็นตัวเอกแบบพ่อบ้านใจกล้าสุดๆ รักเดียวใจเดียว นาเดียสั่งให้ทำอะไรก็ทำ (ทะเลาะกันบ่อยนะ แต่สุดท้ายก็ยอม) ซึ่งตัวอนิเมนั้นเหมือนจะพยายามทำให้เราเห็นพัฒนาการของเด็กๆ ที่เติบโตท่ามกลางความขัดแย้งของสงคราม แต่เอาจริงๆ ผู้กำกับกลับเลือกที่จะให้เด็กทั้งสอง เป็นตัวแทนของอนาคตที่จะก้าวข้ามผ่านอดีต โดยเฉพาะตัวฌองซึ่งเป็นเด็กที่มีความคิดแบบวิทยาศาสตร์ จนมองข้ามอคติในสังคมยุคนั้นหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะที่หลายๆ คนอาจจะแทบลืมไปเลยก็คือ นาเดียนั้นเป็นเด็กผู้หญิงผิวสี ที่ในสังคมยุคนั้นยังไม่ให้การยอมรับ ดูจากคำพูดป้าของฌองในตอนต้นเรื่องก็น่าจะรู้สึกได้

แซนสัน แกรนดิส และ แฮนสัน จากตัวร้ายที่กลายเป็นฝ่ายตัวเอก แถมยังมีบทเด่นจนจบ

ตัวละครที่มีพัฒนาการมากที่สุดในเรื่องกลับเป็นแกงค์แกรนดิส ที่เปิดเรื่องมาเป็นตัวร้าย (และทำออกมาล้อเลียนพวกโดรอนโจตัวร้ายจากเรื่องยัตต้าแมนอีกที) แต่ไปไปมามา แกรนดิสกลับย้ายมาอยู่ฝ่ายนาเดีย และกลายเป็นพี่สาวที่แสนดีที่คอยอยู่เคียงข้างนาเดียในขณะที่นาเดียกำลังเติบโตจากเด็กหญิงเป็นหญิงสาว แถมแกรนดิสยังมีภูมิหลังที่น่าสงสารที่เจ้าตัวพยายามจะก้าวข้ามไปให้ได้อีก เช่นเดียวกับลูกน้องคู่หูแซนสันและแฮนสันที่ภักดีกับแกรนดิสมาตั้งแต่ต้น ไม่ว่าแกรนดิสจะตกต่ำแค่ไหนก็พร้อมจะอยู่เคียงข้าง แถมทั้งคู่ยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้พวกนีโมรอดพ้นจากวิกฤติการณ์หลายครั้ง แม้กระทั่งการยอมเสียสละแกรนด์แทงค์ (ยานสารพัดประโยชน์ที่แฮนสันสร้างขึ้น และมีบทเด่นตั้งแต่ต้นเรื่องจนอวสาน) เพื่อช่วยให้พวกนาเดียและโลกรอดพ้นอันตราย ก็อาจเรียกได้ว่าสองคนนี้นี่แหละคือพระเอกตัวจริงของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้


อีเลคตร้า ไม่ถูกกับแกรนดิส ที่ไม่ยอมทำตามกฎของเรือ

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข้อให้ชมอยู่มากมาย โดยเฉพาะในส่วนของเนื้อเรื่องที่ก้าวล้ำยุคสมัยไปมาก แต่จุดที่น่าตำหนิก็มีอยู่ไม่น้อย อาทิเช่นคุณภาพของงานที่ช่วงกลางเรื่องที่เรียกได้เลยว่าโคตรเผา ช่วงติดเกาะที่อาจดูน่าเบื่อสำหรับบางคน ลายเส้นก็ยังผิดเพี้ยนไปหมด (ตามข้อมูลบอกว่า ช่วงนี้ให้ทีมเกาหลีทำเพื่อลดต้นทุน ซึ่งต้องบอกกันก่อนว่า ควอลิตี้งานเกาหลียุค 90 กับสมัยนี้มันคนละเรื่องกันนะ ตอนนั้นวงการอนิเมเกาหลีเพิ่งตั้งไข่ คุณภาพมันก็เลยออกมาเป๋ๆ หน่อย) หรือบางทีก็ยัดขายของมาแบบดื้อๆ อย่างตอนที่ 34 ในตำนาน ที่ไม่มีเนื้อหาไรเลยนอกจากร้องเพลงกันทั้งตอน เพราะสปอนเตอร์ออกใบสั่งให้ขายอิมเมจซองของเรื่องนี้ ทำให้หลายๆ คนไม่ชอบตอน 34 เอามากๆ เนื้อหาก็เป็น Recap ภาพจากตอนเก่าๆ ด้วย แต่ผมกลับชอบดูตอนนี้มากนะ มันฮาดี โดยเฉพาะสมัยก่อนยังไม่เข้าใจเนื้อหาของเพลง แต่พอโตขึ้น ถึงวัยที่พอฟังเนื้อเพลงออกแล้วกลับยิ่งฮาเข้าไปอีก

แกรนด์แทงค์ ยานสารพัดประโยชน์ของแฮนสัน

และสิ่งที่หลายๆ คนอาจจะคาดไม่ถึงก็คือ อันที่จริงโปรเจคอนิเมเรื่องนี้มีมาตั้งแต่ยุค 70 แล้วครับ และคนที่พัฒนาบทเรื่องนี้ออกมาคนแรกก็คือ มิยาซากิ ฮายาโอะ ที่ทำให้กับทางโตโฮ ก่อนที่โปรเจคนี้จะมาอยู่นมือ GAINAX และถูกนำไปเสนอขอทุนสร้างจาก NHK (สำหรับใครที่ไม่ทราบ NHK เป็นช่องสื่อสาธารณะที่ไม่มีโฆษณาไม่เน้นเชิงพานิชย์เช่นเดียวกับ BBC ของอังกฤษหรือ ThaiPbs บ้านเราครับ) จนเกิดเป็นอนิเมเรื่องนี้ออกมา แต่นั่นกลับกลายเป็นทุกขลาภ เพราะถึงอนิเมจะโด่งดังสุดๆ แต่ผู้ถือสิทธิ์ของอนิเมเรื่องนี้เกือบทั้งหมดกลับไม่ใช่ GAINAX เพราะใช้ทุน NHK ในการสร้าง และบทดั้งเดิมยังเป็นของโตโฮ (ที่ อ.มิยาซากิ เป็นคนพัฒนา แต่ไม่มีเครดิตในเรื่อง เพราะเครดิตอยู่กับทางโตโฮ) แถมยังเป็นงานร่วมผลิตกับทาง Group TAC ไม่ใช่งานออริจินอลของ GAINAX อีกด้วย นอกจากนี้ การผลิตอนิเมเรื่องนี้ด้วยคุณภาพสูงยังส่งผลทำให้ GAINAX ขาดทุนเสียจนไม่สามารถรักษาคุณภาพในบางตอนได้ (ที่เห็นฉากเผางานหลายๆ ตอนนั่นแหละครับ งบหมดเลยจ้างทีมนอกทำแทน) ซึ่งกว่า GAINAX จะฟื้นตัวได้ก็ต้องรออีกหลายปีตอนที่โปรเจคเอวาเริ่มดังไปทั่วโลกโน่นเลย (แต่แว่วว่า แม้ลิขสิทธิ์อนิเม จะอยู่กับ NHK แต่ลิขสิทธิ์เกม อยู่กับ GAINAX นะ เราเลยเห็นนาเดียโผล่มาในเกมหลายภาคมาก ล่าสุดก็ SRW-X บน PS4 ไงล่ะครับ)

นิวนอติลุส มีอีกชื่อหนึ่งว่า เอกเซลเลี่ยน ซึ่งชื่อนี้มาจากอนิเมเรื่องกันบัสเตอร์ งานเก่าของ Gainax นั่นเอง

ซึ่งจริงๆ เรื่องราวของนาเดีย ยังมีประเด็นที่น่าสนใจอีกเยอะ อาทิ เรื่องความสัมพันธ์ของแซนสันกับมารี เด็กกำพร้าที่นาเดียเก็บมาเลี้ยงที่เล่นเอาเหวอตอนจบเรื่อง เรื่องของอีเลคตร้า หญิงสาวที่ศรัทธาในตัวนีโมจนหมดใจ ที่จะกลายเป็นต้นแบบของริทสึโกะในเอวานเกเลี่ยนอีกทีหนึ่ง (แต่สุดท้าย อีเลคตร้าสมหวัง ผิดกับริทสึโกะนะครับ) ซึ่งหากมีโอกาส ผมอยากให้ลองหาอนิเมเรื่องนี้มาชมกันดูนะครับ แม้อาจจะไม่ใช่อนิเมที่สมบูรณ์แบบไปเสียหมด แต่ก็ควรค่าที่จะเป็นที่จดจำในฐานะตำนานบทหนึ่งของอนิเมยุค 90 ครับ

Atlantis: The Lost Empire

(ส่วนเรื่องที่ดิสนี่ย์ลอกนาเดียไปทำอนิเมหนังโรงเรื่อง Atlantis: The Lost Empire น่ะ ช่างมันเถอะครับ ผมคิดว่าใครที่ดูทั้งสองเรื่อง คงเข้าใจกันดีอยู่แล้ว และยังไงผมก็ชอบนาเดียมากกว่าอยู่ดี)