เกมในซีรี่ส์ Gundam Breaker นั้นถือเป็นเกมกันดั้มอีกซีรัี่ส์ที่มีแฟนๆ ติดตามอย่างเหนียวแน่น อธิบายง่ายๆ มันคือเกมเอากันพลามาประกอบแล้วมาสู้กัน ด้วยการต่อสู้และสะสมชิ้นส่วนกันพลาเอามาประกอบตามแต่ใจเราปรารถนา ทำให้เราสามารถสร้างและแต่งกันพลาของเราได้แบบไร้ขีดจำกัด แถมเอามาสู้กันได้แบบมันส์สะใจด้วย
ซึ่ง Gundam Breaker ภาค 3 นั้นถือว่าเป็นภาคที่ทำออกมาได้ดีที่สุด จนกลายเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเกมซีรี่ส์นี้ แต่พอมาถึง New Gundam Breaker ที่เป็นภาคใหม่ที่ออกวางจำหน่ายเมื่อปีที่ผ่านมา (21 มิถุนายน 2018) กลับกลายเป็นว่าแฟนๆ ซีรี่ส์นี้ออกมาถล่มด่าเกมนี้กันอย่างไม่ได้ผุดไม่เกิด จนบางคนกว่าจะได้ลองเล่นก็ต้องรอมันเซลโน่นเลย เพราะเสียงวิจารณ์ออกมาไปในทางเดียวกันว่า เป็นเกมที่ไม่ควรซื้อราคาเต็มมาเล่นอย่างยิ่ง (แม้จะเอาซูเปอร์ฟูมินะมาล่อก็ตาม)
ปัญหาที่เกิดขึ้นสำหรับเกมนี้ ผมคิดว่ามันค่อนข้างชัดนะ คือตัวเกมเปลี่ยนแปลงรูปแบบเยอะเกินไปจนแฟนๆ รับไม่ได้กัน เริ่มตั้งแต่การเอาเนื้อเรื่องแบบเกมจีบสาวในรั้วโรงเรียนมาผสมลงไปในเนื้อเรื่องหลัก ให้เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดในโรงเรียนมัธยมปลาย Gunbre ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เน้นเรื่องกันพลาโดยเฉพาะ และเราก็จะต้องเล่นไปตาม Route สาวๆ แบบต่างๆ ซึ่งมีทั้งเพื่อนวัยเด็ก สาวซึน สาวโนตม สาวแว่น ฯลฯ ตามประสาเกมจีบสาวนั่นแหละ ซึ่งแน่นอนครับ เนื้อเรื่องแบบนี้ คนที่ชอบระบบเกมแนวจีบสาวอาจจะพอรับได้ แต่คอกันพลาสูงวัยนี่คงรู้สึกกระอักกระอ่วนใจในการเล่นอย่างบอกไม่ถูก
และเอาจริงๆ เนื้อเรื่องในส่วนเกมจีบสาวมันก็เชยมาก เดินเรื่องเป็นเส้นตรง ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย กดข้ามๆ ไปก็ได้ไม่มีผลกับเนื้อเรื่อง ซึ่งเราจะต้องจับทีมกับสาวๆ เข้าต่อสู้กันพลาแบทเทิลด้วย แต่สาวๆ ของเรานี่ บางคนก็เก่งแบบน่าใจหาย ชนิดเราไม่ต้องทำอะไรเลย เก็บสะสมพาร์ทอย่างเดียวนางก็เก็บบอสให้เสร็จสรรพ แต่สาว ๆ บางคนนี่ก็โคตรจะตัวถ่วง ปล่อยเราตีบอสตัวเดียวไม่สนใจอะไรเลยก็มี ดีที่ว่าหน้าตาน่ารักแค่นั้นแหละ
ในส่วนของงานภาพนั้น เกมนี้เปลี่ยนมาใช้ Unreal Engine 4 ซึ่งพูดได้เต็มปากว่า ภาพสวยมากครับ แต่ระบบการเล่นกลับห่วยลงมากเมื่อเทียบกับภาคก่อนๆ ซึ่งตรงนี้ปลีกย่อยเยอะมากครับ เอาเป็นว่าเหมือนคนละเกมกันเลย โดยเฉพาะการเล่นออนไลน์ที่มีปัญหากันตั้งแต่การรอคนเข้าห้องให้ครบเลยทีเดียว ทั้งที่จริงๆ แล้ว การเล่นออนไลน์ถือเป็นจุดแข็งของภาคก่อนด้วยซ้ำ ซึ่งผมพูดกันแบบให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คือ ระบบการเล่นมันเหมือนให้ความสำคัญกับการต่อสู้น้อยลง แต่เน้นการทำภารกิจทำเควสต์แบบทีมมากขึ้น อารมณ์เหมือนเล่นพวกเกมแนว MOBA มากกว่าด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นเป็นจุดที่แฟนๆ ดั้งเดิมไม่ค่อยถูกใจนัก แถมตัวเกมยังกินสเปคค่อนข้างสูง ถ้าเป็น PS4 รุ่นเก่าจะเห็นภาพกระตุกหลายจุดเลยล่ะ
และที่สำคัญ การที่มันเป็นเกมจีบสาวที่มีหลายคนหลาย Route ทำให้เราต้องผจญกับฉากซ้ำๆ บอสซ้ำๆ กันถึง 5-6 รอบ (ถ้าตั้งใจจะเล่นให้จบครบทุก Route ) ซึ่งแรกๆ มันก็สนุกดีนะ แต่หลังๆ มันก็น่าเบื่อไปเลย และพอรู้ทางแล้ว รู้ทางลับในแผนที่หมดแล้ว ตัวเกมมันก็จะดูง่ายจนเกินไป อย่างฉากบอสนี่ ตอนหลังๆ ผมติดโล่ของ GP-02 ยิงนิวเคลียร์ถล่มเลย ง่ายดี ดังนั้นในส่วนสตอรี่มันเลยไม่สนุก แต่จะไปเล่นในส่วนออนไลน์ก็ดันทำออกมาได้ไม่ดีอีก
อีกจุดหนึ่งที่เป็นประเด็นในภาคนี้ก็คือ ในเกมนี้เราสามารถเลือกประกอบกันพลาได้ทั้งแบบ 1/144 และ 1/100 เช่นเดียวกับภาคก่อนหน้า เราสามารถเอาพาร์ท 1/144 มาประกอบเข้ากับ 1/100 ได้อย่างอิสระ ทว่าทั้งสองสเกลกลับไม่มีความแตกต่างด้านค่าพลังเลยครับ ซึ่งมันกลายเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ เพราะไม่รู้จะมีสเกล 1/100 ไว้ทำไม แค่ตัวใหญ่ขึ้นอย่างเดียว ในขณะที่ของเดิมนั้น เวลาเอา 1/100 ไล่ตื้บ 1/144 มันจะสนุก เช่นเดียวกับการเอา 1/144 โค่น 1/100 ได้ มันจะสะใจมาก เพราะขนาดนั้นมีความต่างด้านพลังอยู่พอสมควร ไม่ใช่เท่ากันหมดเหมือนภาคนี้
แต่ถ้าถามว่าผมชอบไหม ในภาพรวมผมเองก็ยังสนุกกับเกมนี้อยู่นะ แต่มันสนุกที่การได้ต่อกันพลา ทำสีกันพลาในแบบที่ตัวเองชอบ สนุกกับการสะสมพาร์ทให้ครบ (ซึ่งมีมากกว่าสี่พันพาร์ท จากกันพลา 250 ตัว) ติดอาวุธแปลกๆ แต่งหุ่นตามจินตนาการ คือมันสนุกในแง่ของการเป็น Builder มากกว่า ดังนั้นสำหรับผมมันไม่ใช่เกมกากเลย คือตัวเกมยังตอบโจทย์เรื่อง Builder ได้ดี แต่ไปห่วยในส่วนไฟเตอร์มากกว่า ซึ่งถ้าเริ่มชินแล้วก็ยังพอทำใจรับระบบการเล่นของมันได้อยู่
และที่สำคัญ ตอนนี้ราคาเกมมันก็ลงมาเยอะแล้ว จะซื้อเก็บไว้ก็ไม่เสียหาย เพียงแต่ซื้อตอนนี้เราจะไม่ได้เล่นฉากพิเศษที่มีซูเปอร์ฟูมินะเท่านั้นเอง (เพราะ code หมดอายุไปแล้ว) แต่เอาจริงๆ ถึงมีก็เล่นฉากนี้ได้แค่วันละครั้งเองด้วย และบอกตามตรง ฉากนี้เล่นบ่อยๆ จะน่าเบื่อมาก เพราะมีแต่หุ่นกระจอกๆ และน้องหมี เอาไว้เก็บชิ้นส่วนให้ครบก็พอแล้วล่ะ