ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา Kyoto Animation ได้สร้างสรรค์ผลงานดีๆ ออกมามากมาย โดยเฉพาะในยุคแรกๆ ที่ค่ายนี้มักนำผลงานเกมของค้่าย Key มาถ่ายทอดออกมาในรูปแบบอนิเมได้ถูกใจแฟนๆ มากที่สุด และหนึ่งในผลงานที่ผมชอบที่สุดก็คือ Clannad นั่นเอง
อย่างที่บอกไว้แต่แรกครับว่า Clannad นั้นเดิมทีเป็นเกมแนว Visual-Novel ของค่าย Key ที่วางจำหน่ายในปี 2004 ซึ่งตอนนั้นค่าย Key กำลังถูกจับตามองอย่างมาก เพราะผลงานเกมก่อนหน้านั้นก็คือ Kanon และ Air ประสบความสำเร็จอย่างสูงมาก และพอทำเป็นอนิเมก็ยิ่งโด่งดังเข้าไปอีก และจุดที่น่าสนใจก็คือ เดิมทีทั้ง Air และ Kanon เป็นเกม 18+ ครับ (ก่อนที่จะแปลงเป็นเรทปกติในภายหลัง) แต่ Clannad นั้นถูกสร้างเป็นเกมเรทปกติ (ไม่มีฉากลามก) ตั้งแต่แรกเริ่มเลย ซึ่งนั่นหมายความว่าทางทีมงานต้องการที่จะให้ Clannad เป็นเกมที่เน้นขายเนื้อเรื่องจริงๆ
และก็ได้ผลครับ ตัวเกมประสบความสำเร็จสูงมาก ติดอันดับ 1 บิโชโจเกมยอดเยี่ยมแห่งปีของนิตยสาร Dengeki G’s Magazine แซงอันดับ 2 แบบขาดลอย..(อันดับ 2 ก็คือ Fate/stay night) และตอนจัดอันดับเกมที่บีบคั้นอารมณ์ที่สุดตลอดกาลที่จัดขึ้นเมื่อปี 2008 Clannad ก็ได้อันดับ 2 ครับ (อันดับ 1 ในตอนนั้นคือ Final Fantasy 10) ซึ่งแน่นอนว่า ด้วยความสำเร็จขนาดนี้ ทำให้ Clannad ถูกนำมาสร้างเป็นอนิเมในปี 2007 โดยเกียวโตอนิเมชั่นที่ก่อนหน้านี้เคยทำให้ Air ฉบับอนิเมดังระเบิดมาแล้ว
สำหรับเรื่อง Clannad ฉบับอนิเมนั้น จะแบ่งออกเป็น 2 ภาคใหญ่ด้วยกัน คือ Clannad (23 ตอน) และ Clannad After Story (24 ตอน) โดยใน Clannad ภาคแรกนั้น จะเป็นเรื่องราวของตัวเอก โอคาซากิ โทโมยะ ตัวเอกของเรื่อง ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นนักบาสเกตบอลชื่อดังของโรงเรียน แต่เพราะอุบัติเหตุที่มีพ่อของตนเป็นต้นเหตุ ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บที่แขนจนไม่อาจเล่นบาสได้อีก เขาจึงกลายเป็นคนขวางโลก เกลียดชังพ่อและทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว ใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนไปวันๆ
จนกระทั่งเขาได้พบกับ ฟุรุคาวะ นางิสะ ลูกสาวร้านขายร้านขนมปังที่สุขภาพอ่อนแอ จนต้องเรียนซ้ำชั้น จากรุ่นพี่ก็กลายมาเป็นเพื่อนร่วมชั้นของโทโมยะ ที่เข้ามาชวนโทโมยะเข้าชมรมการละคร ที่กำลังจะปิดตัวเพราะไม่มีสมาชิก จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของทั้งสอง และยังทำให้โมโทยะรู้จักกับเพื่อนคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นคู่แฝดฟุจิบายาชิ สาวอัจฉริยะโคโตมิ สาวน้อยฟูโกะผู้ชื่นชอบปลาดาว และนักเรียนสาวสุดแกร่งอย่างโทโมโยะ ทำให้โทโมยะที่เคยปิดใจตนเองไปแล้วครั้งหนึ่ง ค่อยๆ เปิดใจตนและใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อนๆ อย่างมีความสุข ซึ่งเนื้อหาของภาคแรกนั้นก็จะเน้นไปที่เรื่องราวในรั้วโรงเรียนเป็นหลัก พร้อมกับเผยปริศนาภูมิหลังของตัวละครหลายๆ ตัวไปด้วย
พอเข้าถึงภาคต่อ Clannad After Story ซึ่งถือเป็นบทเด่นของซีรี่ส์นี้ เพราะเรื่องราวจะดำเนินต่อไปจนกระทั่งเรียนจบ โทโมยะกับนางิสะตัดสินใจที่จะคบหากันอย่างจริงจัง แต่สุดท้ายนางิสะก็ต้องซ้ำชั้นอีกรอบก็เพราะอาการป่วยกำเริบอีกครั้ง (เนื้อหาตอนนี้รันทดชนิดละครช่องหลายสียังอาย) โทโมยะที่เรียบจบไปก่อนก็ตัดสินใจที่จะออกจากบ้านหางานทำ (ก่อนนั้นโทโมยะย้ายมาอยู่บ้านนางิสะ เพราะไม่อาจทนอยู่กับพ่อตนเองได้) ซึ่งเนื้อเรื่องนั้นเดินไปไกลถึงขั้นที่ทั้งสองตัดสินใจที่จะแต่งงานกันและวางแผนที่จะมีลูกด้วยกัน แม้หลายคนจะคัดค้านเพราะร่างกายของนางิสะนั้นอ่อนแอเกินไป แต่ในที่สุดนางิสะก็ตั้งท้องและคลอดบุตรสาวที่ชื่ออุชิโอะออกมา แต่หลังจากคลอดอุชิโอได้แค่ไม่กี่นาที นางิสะก็เสียชีวิตไป…
ความตายของนางิสะทำร้ายโทโมยะอย่างเจ็บปวดที่สุด โทโมยะไม่กล้าที่จะเผชิญหน้าลูกสาวแท้ๆของตนเพราะความเจ็บปวดที่สูญเสียนางิสะไปมันเกินกว่าที่เขาจะทนรับไว้ได้ เขาจึงฝากอุชิโอะให้พ่อแม่ของนางิสะเลี้ยงดู ในขณะที่ตัวเขาเองใช้ชีวิตอย่างหมดอาลัยตายอยากไปวันๆ นานอยู่หลายปี จนถึงวันที่เขาได้พบกับลูกสาวของเขาอีกครั้งและได้ออกเดินทางไปท่องเที่ยวด้วยกันตามแผนการที่คุณซานาเอะผู้เป็นแม่ของนางิสะวางไว้ ทำให้โทโมยะพบกับย่าของตนที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี และเริ่มเข้าใจความเจ็บปวดของพ่อ พร้อมกับปรับความรู้สึกที่มีต่ออุชิโอะลงได้..ครอบครัวแสนสุขของโทโมยะกำลังกลับมาอีกครั้ง ทว่าอุชิโอะกลับล้มป่วยลงด้วยโรคเดียวกับนางิสะและเสียชีวิตไปอีกคน…
สมัยก่อนตอนที่ดูอนิเมถึงช่วงนี้โดยที่ไม่รู้เนื้อเรื่องเกมมาก่อน ยอมรับเลยครับว่าช็อกมาก ช็อกจนถึงขั้นนอนไม่หลับกันเลยทีเดียว คิดไม่ถึงว่าอนิเมอะไรจะทำร้ายจิตใจคนดูกันได้ถึงขนาดนี้ ยังดีที่เนื้อเรื่องยังไม่จบ ยังมีโอกาสให้โทโมโยะได้เดินต่อ สิ่งที่ไม่รู้ว่าจะเป็นอภินิหาร หรือตำนานเมือง (แต่ถ้าใครที่เล่นเวอร์ชั่นเกมมาก่อน จะเข้าใจว่ามันคืออะไร มันคือเงื่อนไขหนึ่งในเวอร์ชั่นเกม ซึ่งตัวผมเองก็มารู้ทีหลัง) ก็ได้ให้โอกาสโทโมยะอีกครั้ง แสงสว่างเจิดจ้าที่เกิดขึ้นได้ทำให้เหตุการณ์ที่ผ่านมากลับกลายเป็นภาพมายาที่แสนยาวนาน ทุกอย่างย้อนกลับมาช่วงเวลาที่นางิสะคลอดอุชิโอะอีกครั้ง และคราวนี้การคลอดก็ผ่านไปได้ด้วยดี ทั้งสามคนก็ได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขอย่างแท้จริง…
เนื้อหาของ CLANNAD นั้น แท้จริงก็คือการเดินทางอันแสนยาวนานของโทโมยะที่จะออกตามหาครอบครัวที่มีความสุขอย่างแท้จริง อย่างเช่นที่ มาเอดะ จุน ซึ่งเป็นคนแต่งเนื้อหาหลักของเกมนี้ต้องการจะสื่อถึงความเป็นครอบครัวผ่านเรื่องราวของ Clannad (ซึ่งเป็นภาษาไอริชแปลว่า ครอบครัว แต่จริงๆ แล้ว มาเอดะเข้าใจผิดนิดหน่อย เพราะ Clannad ในภาษาไอริชจริงๆ ไม่ได้หมายถึง Clan ที่แปลว่าครอบครัว แต่เป็นชื่อวงดนตรีที่เล่นกันเป็นครอบครัวของไอริชที่มีชื่อเสียงมาก และยังมีผลงานออกมาถึงปัจจุบัน) ซึ่งเรื่องนี้ก็ถ่ายทอดเรื่องราวของครอบครัวออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมมากครับ จนมีการออก OVA และ Movie ตามมาอีก รวมถึงไลท์โนเวลและหนังสือการ์ตูนด้วย
ซึ่งในบ้านเรานั้น เราได้ชม CLANNAD ผ่านทางค่ายลิขสิทธิ์อย่าง TIGA ที่วางจำหน่ายในบ้านเรามาได้พักใหญ่ๆ แล้ว ตอนนี้ตัว DVD ก็คงเป็นของหายากไปแล้ว (ผมได้มาตอนลดราคาพอดี) ซึ่งต้องรอมรับครับว่าทางเกียวโตอนิเมชั่นทำผลงานเรื่องนี้ออกมาได้ดีจริงๆ ขนาดตัวผมเองเอากลับมานั่งดูซ้ำอีกรอบเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ยังรู้สึกว่างานภาพของเรื่องนี้ยังมีคุณภาพและมาตรฐานดีกว่าอนิเมยุคปัจจุบันหลายๆ เรื่องด้วยซ้ำ เป็นหนึ่งในผลงานที่อยากให้ได้ชมกันจริงๆ เพราะแม้ตัวผมจะพูดถึงเนื้อหาโดยรวมจนเหมือนกับสปอยล์ไปเยอะแล้ว (อนิเมออกมาสิบกว่าปี คงไม่โดนว่าสปอยล์หรอกนะ) แต่รับรองว่าพอได้ดูเองจะรู้สึกเลยว่า มันดีกว่าที่ผมเขียนไว้อีก อย่างน้อยเรื่องดราม่าของตัวละครอื่นๆ ผมก็ยังไม่ได้พูดถึงเลย..ซึ่งเนื้อเรื่องในส่วนของแต่ละคนนั้น หนักหน่วงไม่แพ้ชีวิตของตัวเอกอย่างโทโมยะเลยล่ะครับ
อ้อ ล่าสุด CLANNAD เวอร์ชั่นเกม ถูกนำมารีมาสเตอร์ลง PS4 แล้วด้วยนะครับ แถมมีแบบภาษาอังกฤษสำหรับคนไม่ถนัดญี่ปุ่นด้วย ใครสนใจจะลองเล่นก็ไปดูใน PS STORE ได้เลยครับ ราคาขายอยู่ที่ 1387 บาทครับ ถ้าช่วงมีโปรโมชั่นก็น่าจะได้ราคาถูกกว่านี้อีกนะ