[GHIBLI]Kiki’s Delivery Service : แม่มดน้อยกิกิ

แม่มดน้อยกิกิ เป็นผลงานกำกับภาพยนตร์ลำดับที่ 5 ของ มิยาซากิ ฮายาโอะ (แต่ถ้านับเฉพาะที่กำกับให้จิบลิจะเป็นผลงานลำดับที่ 4) และเป็นหนึ่งในอนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จสูงสุดอีกเรื่องของจิบลิ ตัวหนังทำรายได้จากการฉายครั้งแรกในปี 1989 ไปถึง 2,170 ล้านเลย และเมื่อนับรายได้จากการฉายรวมทั้งหมดจะมากกว่า 4,300 ล้านเยนทีเดียว

สำหรับผลงานเรื่องนี้ มีต้นเรื่องมาจากหนังสือนิยายวรรณกรรมเยาวชนของ คาโดโนะ เอโกะ นักเขียนที่เพิ่งได้รับรางวัล ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน (รางวัลใหญ่ระดับโลกของวงการวรรณกรรม) ไปเมื่อสองปีที่ผ่านมานี้เอง และแม่มดน้อยกิกิ (Kiki’s Delivery Service) ก็เป็นผลงานที่โด่งดังที่สุดของเธอด้วย ผลงานเรื่องนี้นอกจากจะเคยถูกนำไปสร้างเป็นอนิเมชั่นโดยจิบลิแล้ว ยังเคยถูกสร้างเป็นภาพนยนตร์คนแสดงเมื่อปี 2014 และได้รับกระแสตอบรับที่ดีพอสมควร

เรื่องราวของกิกิ จะเป็นเรื่องของแม่มดที่ชื่อ “กิกิ” ซึ่งโลกของเธอมีกฎอยู่ว่า เมื่อแม่มดมีอายุถึงวัย 13 ขวบ แม่มดต้องออกเดินทางเพื่อที่จะค้นหาตนเอง เธอจึงออกเดินทางไปพร้อมกับ จิจิ แมวของเธอ จนมาถึงเมืองแห่งหนึ่ง ที่ยังไม่มีแม่มดอาศัยอยู่ในเมืองนั้น เธอจึงได้ไปพักอาศัยอยู่ในร้านขนมปังของครอบครัวที่แสนใจดี และใช้ความสามารถในการขี่ไม้กวาดของเธอทำหน้าที่ส่งของ จดหมายและพัสดุต่างๆ ให้แก่ชาวเมือง จนเป็นที่มาของชื่อเรื่องนั่นแหละครับ

และเนื่องจากต้นฉบับของเรื่องนี้เป็นวรรณกรรมเยาวชน พล็อตเรื่องของกิกิจึงไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมากนัก แต่ก็ยังให้ความรู้สึกอบอุ่นคล้ายกับเรื่องโทโทโร่ เพียงแต่คราวนี้จะมุ่งเน้นไปที่ตัวกิกิที่กำลังจะเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงตนเองจากเด็กสาวไปเป็นวัยรุ่น ไปสู่การค้นหาตัวตนของกิกิ และแน่นอนว่า ในเรื่องก็ยังมีความเป็นมิยาซากิ ฮายาโอะ สอดแทรกอยู่ โดยเฉพาะตัวของทอมโบ ที่เป็นเด็กที่ชื่นชอบเครื่องบินเหมือนกับมิยาซากิ ฮายาโอะในวัยเด็ก

แน่นอนว่า ตัวอนิเมนั้นมีการดัดแปลงต้นฉบับนิยายไปพอสมควร ไม่ต่างอะไรจากที่ดิสนีย์ที่ชอบเอาวรรณกรรมคลาสสิคมาดัดแปลงนั่นแหละครับ และสุดท้ายแล้วคนก็อาจจะจดจำเวอร์ชั่นดัดแปลงมากกว่า แต่สำหรับผลงานเรื่องนี้ ทั้งอนิเมและตัวต้นฉบับนิยาย ถือได้ว่าเป็นผลงานที่เยี่ยมยอดขึ้นหิ้งในคนละด้านที่ควรหามาชมทั้งคู่ และเนื่องจากต้นฉบับเป็นวรรณกรรมเยาวชนที่เขียนมาให้เด็กอ่าน มันจึงเป็นผลงานที่ย่อยง่าย ดูสนุก แต่ก็ยังแฝงความลุ่มลึกในเชิงปรัชญาแบบจิบลิ ทำให้อนิเมเรื่องนี้ เป็นผลงานของจิบลิที่มักจะถูกหยิบยกมาพูดถึงเป็นลำดับต้นๆ ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน