หลังจาก Netflix เอาเอวาเกเลี่ยนกลับมาให้แฟนๆ รุ่นใหม่ได้มีโอกาสได้รับชมกัน จนเกิดเป็นกระแส talk ot the town ไปแล้วรอบหนึ่ง (ถ้าหนังโรงไม่เลื่อนฉาย ตอนนี้ก็อาจจะมีกระแสเพิ่มขึ้นอีก) คราวนี้ก็ถึงคิวของ Tengen Toppa Gurren Lagann หรือ อภินิหารหุ่นทะลวงสวรรค์ ผลงานเรื่องเยี่ยมอีกเรื่องของ Gainax ในปี 2007 ที่มีโอกาสกลับมาให้แฟนๆ ได้รับชมกันอีกครั้งในยุคนี้
Gurren Lagann เป็นอนิเมแนวหุ่นยนต์ซูเปอร์โรบอตบ้าพลังออกฉายทางทีวีในปี 2007 ซึ่งครึ่งเรื่องแรกของเรื่องจะกล่างถึงโลกในยุคที่มนุษย์ต้องอาศัยอยู่ในหมู่บ้านใต้ดิน เพราะบนผืนดินนั้นมีพวกมนุษย์อสูร(บีสต์เมน) ที่บังคับหุ่นยนต์ที่เรียกว่ากันเมนคอยปกครองโลกอยู่ ทว่าที่หมู่บ้านใต้ดินจิฮา ชิม่อน ตัวเอกของเรื่องในวัย 14 ปี ผู้ที่ไม่เก่งอะไรเลยนอกจากการขุดดินด้วยสว่านมือของตัวเองได้ไปขุดค้นพบหุ่นกันเมนขนาดเล็กที่ตั้งชื่อว่าลากันน์ กับสว่านจิ๋วที่ถูกเรียกว่าคอร์ดริลล์ที่เป็นเหมือนกุญแจของลากันน์โดยบังเอิญ เขากับลูกพี่คามินะ เด็กเกเรประจำหมู่บ้านจึงได้ใช้ลากันน์ในการก้าวออกมาสู่โลกพื้นพิภพ จนได้พบกับเด็กสาวชื่อโยโกะและได้รับรู้ว่า บนพื้นโลกนั้นมีกลุ่มคนที่ต่อสู้กับเหล่ามนุษย์อสูรอยู่
จุดเด่นของหุ่นลากันน์คือ ความสามารถในการรวมร่างกับกันเมนตัวอื่นให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกันได้ (แถมยังฟื้นฟูความเสียหายได้ด้วย) คามินะจึงได้ยึดเอาหุ่นกันเมนของศัตรูมาดัดแปลงในแบบฉบับของตัวเองและเรียกมันว่ากุเรนเพื่อนำมาใช้รวมร่างกับลากันน์ของชิม่อนกลายเป็นหุ่นยักษ์กุเรนลากันน์เข้าต่อสู้กับพวกมนุษย์อสูร ซึ่งกุเรนลากันน์นั้นก็สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้มาได้เรื่อยๆด้วยพลังใจที่แข็งแกร่ง ความเชื่อมั่นที่เกินร้อย และลูกบ้าของคามินะ จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เหล่าคนหนุ่มสาวลุกฮือขึ้นต่อต้านกองทัพมนุษย์อสูรที่ปกครองโดยลอร์ดจีโนม(สไปรัลคิง) ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด
เนื้อเรื่องครึ่งแรกนั้นเดินเรื่องแทบจะเป็นเส้นตรงแบบการ์ตูนซูเปอร์โรบ็อต คือไล่ปราบลูกจ๊อกเก็บเลเวลไปจนกระทั่งเจอบอส ทว่าก็มีจุดพลิกผันคือการตายของคามินะซึ่งเป็นตัวละครหลักตั้งแต่ช่วงกลางๆ ครึ่งแรก ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างคามินะ ชิม่อน และ โยโกะ กลายเป็นรักสามเส้าที่ยุ่งเหยิงขึ้นไปอีก ก่อนที่ชิม่อนที่กำลังสติแตกจะไปเจอ เนีย ลูกสาวของลอร์ดจีโนมที่จะกลายเป็นนางเอกตัวจริงในช่วงครึ่งหลัง ผู้ที่เข้ามาทำให้ชิม่อนที่กำลังสับสนจากความตายของคามินะสามารถกลับมายืนหยัดต่อสู้ได้อีกครั้ง
นั่นคือเนื้อเรื่องในส่วนครึ่งแรก ที่เป็นเหมือนตำนานการต่อสู้ของลูกผู้ชายตามประสาการ์ตูนหุ่นยนต์ยุค 70-80s เลยครับ แต่พอเข้าครึ่งหลัง เนื้อเรื่องกลับเป็นเหมือนหนังคนละม้วน และเริ่มเข้าสูตรการ์ตูน Gainax เมื่อชิม่อนเอาชนะลอร์ดจีโนมได้ โลกกลับเข้าสู่ความสงบ ผู้คนกลับขึ้นมาอาศัยบนผืนดิน พัฒนาเมืองและเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วเว่อร์ ชิม่อนกลายเป็นผู้นำโลก กุเรนลากันน์กลายเป็นสัญลักษณ์ของยุคใหม่ ที่ใครๆ ก็ไม่อยากกลับไปต่อสู้หรือใช้ชีวิตแบบเดิมอีก
ทว่าความสงบสุขนี้กลับอยุ่ได้แค่ 7 ปี เมื่อเกิดมีศัตรูใหม่เข้ามารุกรานมนุษย์อีกครั้ง พวกมันคือเผ่าพันธุ์ที่เรียกว่า แอนตี้สไปรัล ที่เข้ามาใช้ร่างของเนียที่กำลังจะแต่งงานกับชิม่อนในการบอกความจริงแก่มนุษย์ (รวมถึงผู้ชม) ว่าแท้จริงแล้ว สไปรัลคิง (ลอร์ดจีโนม) ได้ต่อสู้กับ แอนตี้สไปรัล มาอย่างยาวนาน ก่อนที่จะพ่ายแพ้และขับไล่มนุษย์หลบไปอยู่ใต้ดินและพยายามควบคุมประชากรไม่ให้มนุษย์มีจำนวนเกิน 1 ล้านคน ซึ่งนั่นจะทำให้เหล่า แอนตี้สไปรัล หวนกลับมาเล่นงานมนุษย์อีกครั้ง ด้วยการนำดวงจันทร์พุ่งเข้าชนโลกภายใน 3 สัปดาห์
ความนี้เรื่องก็พลิกผันเลยครับ ชิน่อนจากวีรบุรุษของโลกกลับกลายเป็นอาชญากรสงครามที่ทำให้เกิดสงครามระหว่างมนุษย์และ แอนตี้สไปรัลขึ้นมาอีกครั้ง แถมยังถูกสั่งประหารโดยเพื่อนรักอย่าง รอสซิว เพราะรอสซิวนั้นต้องการที่จะทำให้ประชาชนที่กำลังลุกฮือประท้วงกลับเข้าสู่ความสงบ ก็เลยต้องให้ชิม่อนตกเป็นแพะรับบาป (รองรับอารมณ์ม็อบนั่นแหละ) ก่อนที่จะเปิดเผยแผนรับมือที่เตรียมไว้ นั่นก็คือการอพยพผู้คนบางส่วนกลับลงไปใต้ดิน และบางส่วนออกไปในอวกาศพร้อมกับยานอาร์คกุเรน ซึ่งจริงๆ เป็นยานขนาดยักษ์ที่ลอร์ดจีโนมซ่อนเอาไว้
จะเห็นว่าโทนเรื่องในครึ่งหลังแตกต่างจากครึ่งแรกมาก เมื่อ “การต่อสู้” เพียงอย่างเดียว อาจไม่ใช่คำตอบในด้านการเมืองการปกครองในโลกที่เปลี่ยนไป หากชิม่อนชนะ ก็จะกลายเป็นวีรบุรุษ แต่เมื่อแพ้ ก็กลายเป็นอาชญากรสงคราม มันกลายเป็นเรื่องธรรมดาของสังคมมนุษย์ และนั่นทำให้คนอย่างรอสชิวเข้ามามีบทบาทในเรื่อง โดยยอมเป็นฝ่ายถูกเพื่อนๆ ตราหน้าว่าหักหลังชิม่อน และรับความรู้สึกผิดไว้เพียงผู้เดียว
ทว่าก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป โยโกะที่หายตัวไปจากกลุ่มนานกว่า 7 ปี ก็กลับมาช่วยชิม่อนแหกคุก ปลุกให้ชิม่อน และทีมกุเรน ลุกขึ้นมาต่อสู้กับพวกแอนตี้สไปรัลเพื่อกอบกู้โลก และช่วยเนียกลับมา ชิม่อนไม่ต้องการที่จะเลือกหรือเสียสละใครเหมือนกับรอสซิว แต่ตัดสินใจที่จะช่วยเหลือทุกคน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้วยการเปิดศึกใหญ่กับ แอนตี้สไปรัล ด้วยกุเรนลากันน์ และพลังใจที่พวกเขาเชื่อมั่นว่าไม่แพ้ใคร
ซึ่งพลังสไปรัลในเรื่อง แท้ที่จริงแล้วมันก็คือพลังใจ คือพลังแห่งวิวัฒนาการที่จะก้าวไปข้างหน้า เหมือนสว่านที่จะทะลวงไปอย่างไม่สิ้นสุด ทว่าด้วยแนวคิดที่เชื่อว่า พลังที่มากเกินไปจะนำไปสู่สไปรัลเนเมซิสซึ่งจะกลายเป็นจุดสิ้นสุดของจักรวาล แอนตี้สไปรัล จึงเข้ามาเล่นงานผู้ที่ครอบครองพลังสไปรัลทั้งหมดรวมถึงมนุษย์ด้วย ทว่าสุดท้ายด้วยพลังใจและความเชื่อมั่นอันไร้ขอบเขตของชิม่อน ก็ทำให้สงครามอันยาวนานกับเหล่าแอนตี้สไปรัลสิ้นสุดลง โดยการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของกุเรนลากันน์นั้น อาจจะเรียกได้ว่าการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของการ์ตูนหุ่นยนต์ เพราะมันหนักข้อถึงขั้นเอากาแลกซี่มาขว้างใส่กันทีเดียว
อันที่จริง สตูดิโอ Gainax เอง ก็เป็นค่ายที่พยายามทำลายขอบเขตของสเกลการต่อสู้ในระดับ Gigantic มาหลายครั้งแล้ว ตั้งแต่การเอาดาวเคราะห์มาทำเป็นอาวุธพุ่งชนใน Gunbuster ไปจนถึงการสร้าง Third Impact ในเอวานเกเลี่ยน แต่ฉากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายในกุเรนลากันน์นั้นได้ข้ามขอบเขตไปไกลถึงอีกระดับหนึ่ง ซึ่งอันที่จริงการออกแบบเนื้อเรื่องนั้น จะทำให้ขอบเขตมันไปไกลแค่ไหนก็ได้ แต่จะให้อยู่ในขอบเขตความรู้สึกที่เรายอมรับการต่อสู้ในระดับนี้ได้แบบกุเรนลากันน์นั้น คงยากที่จะทำได้อีก
แม้ว่าในเรื่องเหตุผลนั้น หลายๆ อย่างจะอยู่ในระดับที่ต้อง “โยนตรรกะทิ้งไปซะ” แต่เนื้อเรื่องของกุเรนลากันน์นั้นก็ยังคงมีหลายประเด็นที่หลงเหลือเอาไว้ให้ผู้ชมได้พูดคุย ถกเถียง จนกระทั่งตอนจบที่ลงตัวสมบูรณ์แต่อาจจะขัดใจหลายๆ คน และนั่นทำให้แฟรนไชส์นี้ยังคงเป็นที่พูดถึงและถูกกล่าวขนานมานานกว่า 14 ปี สินค้าของกุเรนลากันน์ก็ยังถูกผลิตมาขายเรื่อยๆ ตัวหุ่นก็ยังข้ามมามีบทบาทในซีรี่ส์เกมดังอย่าง SRW ถ้าใครที่ไม่เคยดู และยังสงสัยว่าผลงานเรื่องนี้มันเจ๋งแค่ไหน ก็ลองเข้าไปดูใน Netflix กันได้เลยครับ ผมว่ามันเป็นอนิเมระดับตำนานอีกเรื่อง ที่ถึงเอามาดูใหม่ตอนนี้ ในยุคนี้ ก็ยังสนุก และยังอยากพูดถึงอยู่เรื่อยๆ นะ