หลังจากหลบสปอยล์กันอย่างสนุกสนานมาร่วมสัปดาห์ ในที่สุดคนไทยก็ได้ดู Spider-Man: No Way Home กันแล้วครับ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนังชุบชีวิตวงการภาพยนตร์ทั่วโลกที่กำลังซบเซาเพราะโควิดเลยทีเดียว เนื่องจากล่าสุดก็ทำรายได้ทั่วโลกทะลุพันล้านไปแล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้ฉายในจีนที่เป็นตลาดใหญ่เลยด้วยซ้ำ
ซึ่งแน่นอนครับ กระแสอวยเรื่องนี้นั้นมาแทบจะทุกสารทิศ ทั้งจากนักวิจารณ์และแฟนๆ ซึ่งก็ไม่แปลกครับ เพราะภาคนี้มันไม่ใช่สรุปไตรภาคของทอม ฮอลแลนด์ แต่มันเหลือนสรุปตำนาน 20 ปี สไปเดอร์แมน 8 ภาคเลย ขนาดทาง Sony เองเห็นกระแสคำชมแล้วยังคิดจะดันเรื่องนี้เข้าชิงออสการ์เลยครับ! ดังนั้นในส่วนของความดีงามในเรื่องผมจะไม่พูดถึงมากนะครับ เพราะพูดกันไปเยอะในหลายๆ สื่อแล้ว ก็คงไม่ต่างกันมาก ตัวผมเองก็รุ้สึกชอบอยู่ไม่น้อย แต่ก็บอกตามตรงว่า ไม่สุด ยังมีส่วนที่ผมรู้สึกไม่ชอบอยู่บ้าง ก็เลยจะขอพูดถึงจุดที่ไม่ชอบละกันครับ
อย่างแรกที่ไม่ค่อยชอบเลยก็คือ วิกฤติของภาคนี้แม้จริงๆ มันจะเริ่มจากมิสเทริโอและการเปิดเผยตัวจริงของสไปเดอร์แมน แต่เอาจริงๆ ที่มันวุ่นไปหมดนี่ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะตัวปีเตอร์เองด้วย ที่เข้าไปแทรกแซงการร่ายอาคมของหมอแปลก ซึ่งส่วนตัวผมรู้สึกว่าภาคนี้หมอแปลกแกดูง่อยๆ พิกล ส่วนปีเตอร์ก็อย่างที่หมอแปลกก็บอกนั่นแหละครับว่า แกสร้างวีรกรรมมาเยอะ จนหลายๆ คนลืมคิดไปว่าแกยังเป็นเด็กอยู่เลย เมื่อเทียบกับสิ่งที่ปีเตอร์ต้องแบกรับไว้ มันก็เป็นภาระที่หนักเกินไปสำหรับเด็กที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย จนสุดท้ายเจ้าตัวก็แบกรับไม่ไหวจนกลายเป็นหายนะตามมา
และนั่นก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ผมไม่ชอบ ก็คือตอนที่ตัวตนของสไปเดอร์ถูกเปิดเผยว่าเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง กระแสสังคมกลับไหลเข้าหาตัวเข้า ทั้งความเกลียดชัง และความเด่นดัง มีทั้งคนที่สาปแช่ง และคนที่อยากโหนกระแส ซึ่งถ้าเทียบกับสไปเดอร์แมนฉบับโทบี้ แมคไกวร์ ตอนที่สไปเดอร์แมนโดนกระชากหน้ากากบนรถไฟ ผู้คนกลับรู้สึกสงสาร เห็นใจ และปกป้องปีเตอร์(โทบี้) ซึ่งนั่นถือเป็นฉาก Epic แากหนึ่งในเรื่องเลยครับ และเอาจริง สไปเดอร์แมน(ทอม) นั้นสรางวีรกรรมระดับโลกยิ่งกว่าสไปเดอร์แมน(โทบี้)เสียอีก แต่กลับมีคนไม่น้อยที่เกลียดชังเขา เพราะการปลุกปั่นของสื่อ (ออนไลน์) ซึ่งใน เดลีบูเกิล ของเดิมก็เคยพยายามปั่นกระแสเกลียดชังสไปเดอร์แมนแต่ทำยังไงก็ยุไม่ขึ้น ผิดกับเดลีบูเกิลภาคนี้ ที่แค่คลิปเดียวก็ทำให้คนเกลียดสไปเดอร์แมนได้ครึ่งโลกโดยไม่ทันได้ตรวจสอบความถูกต้องกันเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่ามันสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้คนยุคนี้ที่หลงเชื่ออะไรง่ายๆ เกินไปรึเปล่า
และที่น่าสนใจอีกอย่างคือ Spider-Man: No Way Home นั้นเหมือนจะเป็นภาคปิดตำนานของทอม ฮอลแลนด์จริงๆ แม้จะมีกระแสข่าวว่าอาจจะมีภาคต่อ แต่เอาจริงๆ กลุ่มเพื่อน ปีเตอร์-เนด-เอ็มเจ ก็แตกแล้ว เพราะทุกคนจำปีเตอร์ไม่ได้ (แถมย้ายออกจาก NY ไปเรียนต่อ MIT อีก) ในกลุ่มอเวนเจอร์ก็จำปีเตอร์ไม่ได้ แต่ชีวิตของปีเตอร์ก็ต้องเดินต่อไปอย่างโดดเดี่ยว ซึ่งมันมีฉากหนึ่งในเรื่องที่มีการพูดว่า สักวันหนึ่ง อยากให้มีสไปเดอร์แมนผิวดำบ้าง มันเหมือนเวลาบอกกลายๆ ว่า อาจได้เวลาของ ไมล์ โมราเลส แล้วก็ได้ โดยที่ปีเตอร์(ทอม) อาจถอยออกมาเป็นพี่เลี้ยงให้กับ ไมล์ โมราเลส ก็ได้นะครับ แต่อันนี้ก็เป็นแค่การคาดเดาเท่านั้น ก็คงต้องรอชมกันต่อไป เพราะยังไงตอนปลายเรื่องก็ทิ้งประเด็นเกี่ยวกับเวนอมเอาไว้แล้ว แถมหนังก็ทำรายได้ขนาดนี้ ยังไไงก็มีภาคต่อแน่ๆ ล่ะ แต่จะแบบไหนเท่านั้นเอง