เรื่อง Multiverse กลายเป็นเรื่องที่คุ้นชินสำหรับคอหนังมาร์เวล หลังจากที่ได้มีการเปิดประเด็นไว้ในสไปเดอร์แมนและยังมีซีรี่ส์ต่างๆ อีก ทำให้หลายๆ คนนรอชม Doctor Strange in the Multiverse of Madness ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ Multiverse โดยตรง และคาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้สไปเดอร์เวิร์ส ยิ่งได้ แซม ไรมี่ เจ้าพ่อหนังสยองขวัญที่กลับมาทำหนังฮีโร่อีกครั้ง ก็ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจมากขึ้นไปอีก
สำหรับผม Multiverse มันก็เป็นเหมือนแนวต่างโลกอีกแนวทางหนึ่ง นั่นคือการเดินทางจากโลกหนึ่งไปยังอีกโลกหนึ่ง ที่อาจจะคล้ายหรือต่างจากโลกของเรา ซึ่งในภาคนี้หมอแปลกก็ต้องเข้าไปวุ่นวายกับ Multiverse อีกครั้งหนึ่ง โดยมีตัวละครที่เข้ามาเกี่ยวข้องหลักๆ สองคนก็คือ วานด้า หรือ สการ์เล็ต วิช และอีกคนก็คือ อเมริกัน ชาเวซ เด็กสาวตัวละครใหม่ที่จะเปิดตัวในซีรี่ส์นี้
ผมคงจะไม่สปอยล์อะไรมากนัก เพราะพูดนิดเดียวมันจะเฉลยปมหลักของเรื่องทันที (จริงๆ มันเฉลยกันตั้งแต่ต้นเรื่องเลย และหลังจากนั้นก็พอที่จะเดาแนวทางได้จนจบ) แต่ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ แก่นของเรื่องก็คือ ความไม่พอใจในโลกที่ตัวเองอยู่ จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ทำให้เกิดความคาดหวังที่ว่า ประเทศ เอ้ย โลกอื่นน่าจะดีกว่าโลกที่เราอยู่ มันจะต้องมีโลกที่ตัวเรามีความสุขอยู่ด้วยสิ ซึ่งสุดท้ายแล้ว มันจะเป็นการตั้งคำถามกับตัวเองว่า เรากำลังมีความสุขกับ “ปัจจุบัน” หรือเปล่า และการไปอยู่ “ต่างโลก” มันจะทำให้เรามีความสุขได้จริงๆ หรือ
หลังจากเฉลยปมสำคัญเกี่้ยวกับตัวร้ายตั้งแต่ต้นเรื่อง หนังก็กลายเป็น Catch Me If You Can ไล่ล่าข้ามโลก ที่จะทำให้เราได้ว้าวกับตัวละครที่เราคาดไม่ถึง (ถึงไม่อยากสปอยล์ไงล่ะ) ซึ่งถ้าหากเราผ่านตาซีรี่ส์อย่าง Whai If มาบ้าง (และควรดู WandaVision มาก่อนด้วย) ก็จะยิ่งว้าวเพราะเราจะคุ้นเคยกับคาแรกเตอร์หลายๆ คนที่มีบทบาทใน Multiverse แต่เอาจริงๆ ผมก็ไม่ได้ว้าวมากนะ เพราะยอมรับว่า มันค่อนข้างตรงกับข่าวลือที่มีออกมา แต่ที่อึ้งจนเกินกว่าว้าวก็คือ แซม ไรมี่ ที่ไม่ทิ้งความเป็นเจ้าพ่อหนังสยองขวัญ ทำให้เรื่องนี้มีฉากหลอนๆ ในระดับปริ่มๆ ขอบ PG13 เหนือกว่าเรื่องอื่นๆ (แรงกว่านี้ก็เดดพูลแล้วล่ะ) แถมยังมีฉากแนวผีตุ้งแช่มาให้เราสะดุ้งเป็นพักๆ อีก ก็ถือเป็นรสชาติแปลกใหม่ที่ไม่ได้เห็นในหนังมาร์เวลกันสักเท่าไหร่ แต่แฟนคอมมิคคงเห็นว่ามันปกตินะ มาร์เวลซอมบี้ยังเจอมาแล้ว
สรุปแล้ว ผมว่า หมอแปลกภาคนี้ เป็นหนังที่น่าสนใจ แต่อาจจะไม่ถูกจริตสำหรับทุกคน โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบหนังสยองขวัญก็ยอกตามตรงว่า มันไม่ได้หลอนระดับหนังสยองขวัญ แต่ก็มีอะไรเกินคาดอยู่บ้าง และอาจจะไม่เป็นมิตรกับผู้ชมที่เป็นเด็กมากนัก แต่ตัวเรื่องนั้นเปิดทางให้จักรวาลมาร์เวลได้ไปต่อในอีกหลากหลายแนวทาง รวมถึงภาคต่อของหมอแปลกที่เราน่าจะได้ชมกันต่อด้วย