One Piece Film: Red

One Piece Film: Red เป็นภาพยนตร์ One Piece ลำดับที่ 15 ต่อจาก One Piece: Stampede (ปี 2019) ที่ฉายที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมาและกำลังสร้างสถิติรายได้เป็นภาพยนตร์ One Piece ที่ทำเงินสูงสุดในแฟรนไชส์อยู่ในขณะนี้ และในบ้านเราก็มีกำหนดฉายในวันที่ 25 สิงหาคม แต่มีการฉายรอบพิเศษไปก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง

ภาพยนตร์เรื่องนี้จะต่างจากภาพยนตร์ One Piece เรื่องอื่นๆ ตรงที่ตัวละครหลักของภาคนี้คือ อูตะ ซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่อง 3 อย่างก็คือ เธอเป็นลูกสาวของแชงค์(แชงคูส) เป็นเพื่อนสมัยเด็กของลูฟี่ (12 ปีก่อน ตามเวลาในเรื่อง) และเธอเป็นนักร้องที่โด่งดังที่สุดในเรื่อง ซึ่งการที่เธอถูกเปิดเผยเป็นลูกสาวของแชงค์ 1 ใน 4 จักรพรรดิ์ผู้ปกครองแกรนไลน์ ก็ย่อมทำให้เธอเป็นที่ถูกจับตา เพราะเธอถูกมองว่าเป็นจุดอ่อนของแชงค์ แม้ว่าในความเป็นจริง เธอจะเกลียดโจรสลัดเอามากๆ ด้วยเหตุผลบางอย่าง

และการที่เธอเป็นนักร้อง ก็ทำให้โทนของภาคนี้แตกต่างไปจากภาคอื่น ด้วยโทนสีที่ดูสว่าง สดใส ฟรุ้งฟริ้ง แฟนตาซีสีรุ้ง แบบงานวิชวลคอนเสิร์ตป็อปไอดอล และการเล่าเรื่องโดยมีบทเพลงเพราะๆ เป็นศูนย์กลาง ก็ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูคล้ายๆ จะเป็น One Piece the Musical ที่มีฉากของเรื่องอยู่ในอาณาจักรแห่งเสียงเพลง เอเลเกีย ซึ่งเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตของอูตะ โดยเป้าหมายของอูตะคือ ให้คนทั้งโลกมีความสุขกับเพลงของเธอ รวมถึงพวกโจรสลัด และทหารเรือ ก็ต้องเลิกทะเลาะกัน แล้วมาฟังเพลงของเธอดีกว่า นี่ถ้ามีใครบอกว่า เธอเป็นญาติห่างๆ ของเนคคิ บาซาร่า ผมก็เชื่อนะเนี่ย….

อูตะเป็นเพื่อนสมัยเด็กของลูฟี่

ตัวละครเด่นของภาคนี้ หลักๆ ก็จะมีลูฟี่ อูตะ และแน่นอนต้องมีแชงค์ เพราะชื่อเรื่อง One Piece Film: Red มันจะสื่อถึงอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากแชงค์ โจรสลัดผมแดง แต่จริงๆ นี่เป็นอีกภาคที่ถือว่าเป็นการรวมตัวละครที่หลายๆ คนคิดถึงให้กลับมารวมกันในคอนเสิร์ตของอูตะ ที่นอกจากจะมีการแสดงคอนเสิร์ตที่เอเลเกียแล้ว ยังมีการถ่ายทอดสดผ่านหอยทากสื่อสารไปทั่วโลกด้วย เราจึงได้เห็นตัวละครที่คิดถึงปรากฎในเรื่องมากมาย มากบ้าง น้อยบ้าง บางคนก็โผล่มาเป็นกิมมิคเฉยๆ ก็มี

แม้ว่าโครงเรื่องมันจะไม่มีอะไรซับซ้อนมากไปกว่าพลังของอูตะ เสียงเพลง เรื่องราวในวัยเด็กของอูตะกับลูฟี่ก่อนกินผลปีศาจ (ที่ไม่เคยถูกพูดถึงมาก่อน) และความลับของอูตะกับแชงค์ในอดีต ว่าทำไมแชงค์ถึงทิ้งเธอไป ซึ่งผมคงจะไม่บอกหรอกเพราะมันจะสปอยล์เกิน แต่ในความเรียบง่ายของมัน ก็มีส่วนที่เราคาดไม่ได้ และคาดไม่ถึงอยู่พอสมควร โดยเฉพาะพลังของอูตะที่โอเวอร์สเกลเอามากๆ จนนำไปสู่ฉากไคลแม็กซ์ที่ผมว่าน่าจะใหญ่สุดในเรื่องนี้อีกครั้งเลยครับ เพราะมันจะเป็นศึกรวมตัวละครเทพๆ ใน One Piece ออกมาโชว์ของกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งผมว่าน่าจะเป็นซีนที่ได้เห็นแค่ในภาพยนตร์เท่านั้น แต่มันจะออกมาแบบไหน ขอแนะนำว่า ให้ไปลองดูกันในโรงครับ งานนี้ทีมงานโตเอะเล่นใหญ่จริงๆ

เรื่องราววัยเด็กของลูฟี่ในอีกมุมที่ไม่ค่อยพูดถึง

อีกจุดที่ผมว่าน่าสนใจก็คือ เนื้อหาของเรื่องที่ค่อนข้างอัพเดทตามต้นฉบับคอมมิคมากๆ นั่นแปลว่าตอนที่มีการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งแต่ 21 พฤศจิกายน 2021 ทางทีมงานโตเอะ ผู้กำกับ ก็น่าจะทราบพล็อตล่วงหน้ากันอยู่แล้วว่า กำลังจะเกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นในจักรวาล One Piece ของ อ.โอดะ ในทิศทางไหน เนื้อเรื่องมันก็เลยเหมือนจะต่อเนื่องจากประเด็นในคอมมิคที่เคยฮือฮากันเมื่อเดือนสองเดือนก่อนพอดี ซึ่งตอนที่ได้ไปเห็นในภาพยนตร์มันก็เลยรู้สึกว่า มันเจ๋ง และเชื่อมต่อกับต้นฉบับได้อย่างลงตัว ยิ่งถ้าดูในโรงก็จะยิ่งพีคมากๆ ด้วย เพราะงานภาพหลายส่วนมันเหมาะที่จะดูในโรงจริงๆ โดยเฉพาะถ้าได้โรง 4DX ก็จะยิ่งเข้ากับงานวิชวลคอนเสิร์ตในเรื่องนี้เป็นพิเศษเลยครับ

One Piece Film: Red ฉายโรงภาพยนตร์ทั่วไป วันที่ 25 สิงหาคมครับ