ก็ถือว่าได้รับเสียงตอบรับที่ดีพอสมควร สำหรับ Mobile Suit Gundam THE WITCH FROM MERCURY ที่เพิ่งออกอากาศจบชุดไป ซึ่งแน่นอนครับว่ามีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ มีทั้งที่เป็นไปตามเป้าและไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ภาคนี้ก็ถือได้ว่าเป็นภาคที่มีกระแสตอบรับที่ดีภาคหนึ่งที่น่าจะถูกพูดถึงกันไปอีกนานเลยครับ
จุดเด่นของภาคนี้ ก็คือการปรับโทนเรื่องราวให้เข้าหาคนรุ่นใหม่มากขึ้น แก้ Pain Point เดิม ที่อนิเมกันดั้มมักจะมีแต่แฟนเดิมๆ ที่ติดตาม เรื่องราวในภาคนี้เลยถูกเซ็ตให้อยู่ในโรงเรียน ผสมกับโครงเรื่องและชื่อตัวละครหลักๆ จาก Tempest บทละครเรื่องสุดท้ายในชีวิตของ วิลเลียม เช็กสเปียร์ มีการประลอง มีการใส่ประเด็น LGBT เข้ามา ซึ่งก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดีไม่รู้สึกติดขัดอะไร แถมเปิดตัวด้วยเพลงของ YOASOBI ที่มีฐานคนฟังเยอะอีก ส่วนแฟนเก่าๆ ก็ติดตามกันตั้งแต่ Prologue Episode ที่ดราม่ากันแบบหนักหน่วง แถมยังมีปมให้ถกเถียงกันตลอดเรื่อง เรียกได้ว่ามีการวางแผนการตลาดมาอย่างดี แถมตอนจบซีซันแรกที่หักอารมณ์ตบยุงก็ถือว่าสร้างความฮือฮาได้ไม่น้อย
ส่วนซีซัน 2 ก็ถือว่ารักษามาตรฐานของซีซันแรกไว้ได้ แต่โดยส่วนตัวผมว่า Mood&Tone ของซีซัน 2 ทำได้ไม่ดีเท่าซีซันแรก รู้สึกเลยว่าในช่วงหลังมีการเร่งเนื้อเรื่องจนเหมือนพยายามหักดิบที่จะจบเกินไป ปมหลายอย่างคลี่คลายค่อนข้างง่าย บางตอนก็อธิบายด้วยการมานั่งพูดคุยกันทั้งตอน บางประเด็นก็เคลียร์กันง่ายแบบหยวนๆ กันไปก็จบ หรือหุ่นอย่าง GUNDAM SCHWARZETTE ที่มีบทออกมาจริงๆ ไม่ถึงครึ่งตอน ซึ่งตัวผมค่อนข้างเสียดายนะ เพราะผมชอบหุ่นตัวนี้พอสมควร
ตอนจบของเรื่อง ก็ถือว่าจบได้รวบรัดชัดเจน ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง สงสัยสมัยตอนจบ IBO โดนด่ากันเยอะรึเปล่าไม่รู้ ภาคนี้ก็เลยจบได้ค่อนข้างสุขนิยม happy ending ยกทัพมาจะตีกันอยู่รอมร่อแล้วก็เคลียร์กันง่ายๆ ด้วยการขายกิจการ ซึ่งสำหรับผมถือว่าแปลกใหม่นะ เป็นการปรับเนื้อหาได้เข้ากับยุคสมัยได้ดี เพราะสงครามสมัยใหม่มันเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจมากกว่าศักดิ์ศรี แต่สำหรับแฟนๆ รุ่นเก่า เท่าที่ฟังจากเสียงบ่นๆ ของลุงๆ หลายคน อาจรู้สึกว่า มันง่ายเกินปุยมุ้ย จบแบบนี้เลยนะ ปล่อยแสงหมี่หยกแล้วสงครามจบเลยนะ มันดูง่ายไปหน่อย แต่มันก็ทำให้เนื้อเรื่องคลี่คลายแบบบัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น ซึ่งน่าจะถูกใจหลายๆ คน
ใมส่วนของความสำเร็จ ก็อย่างที่บอกครับ มีทั้งตรงเป้าและไม่ตรงเป้า ที่ตรงเป้าคือกันพลาภาคนี้ขายดีมาก แม้จะไม่ทุกตัว บางตัวปั่นราคากันจนผมซื้อไม่ลง บางตัวก็เหลือจนเซลกันแล้ว ส่วนความคาดหวังที่จะได้แฟนรุ่นใหม่ก็เหมือนจะได้จริงๆ น่ะแหละ แต่ก็ไม่ได้มากขนาดติดอันดับท็อปๆ ในใจแฟนรุ่นใหม่ ซึ่งแฟนส่วนใหญ่ของภาคนี้ ก็ยังคงเป็นขาประจำเช่นเคย แต่ก็ดีใจที่ได้เห็นคนรุ่นใหม่ๆ เข้าสู่วงการกันพลามากขึ้นนะ
โดยสรุป ผมว่าภาคนี้ก็ดูสนุก และมันก็ได้ฉีกภาพลักษณ์ของกันดั้มไปไกลกว่าที่เราเคยรู้จัก ซึ่งก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วแหละ แต่ดูจากตอนจบก็ดูเหมือนต้องการจะปิดจบภาคนี้จริงๆ ไม่ต้องมีอะไรมาต่อแล้ว แฟนๆ กันดั้มก็คงจะรอภาคใหม่ๆ ที่จะออกมากันต่อไป เช่นภาคฉลองสิบปีจักรวาล Build หรือภาค Seed หนังโรงที่รอกันมานาน ก็น่าจะทำให้ชื่อของกันดั้มยังคงมีกระแสต่อเนื่องไปอีกพักใหญ่ๆ เลยครับ