ตอนที่ดูอนิเมเรื่อง “เวทมนตร์ของผู้กลับมาต้องไม่ธรรมดา” (A Returner’s Magic Should Be Special) ตอนแรกจบไป ก็ยังนึกว่ามันเป็นแนวย้อนเวลามาแแก้กรรมเหมือนเรื่องอื่นๆ แต่พอดูไปแล้วกลับรู้สึกว่าเนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่องมันมีความแตกต่างจากอนิเมแนวเดียวกันพอสมควร จนมารู้วา เรื่องนี้เป็นอนิเมญี่ปุ่นที่สร้างจากนิยายของเกาหลีและเคยถูกเขียนเป็นการ์ตูนออนไลน์ด้วยก็เลยรู้สึกว่า มันน่าจะมีอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย
ตัวอนิเมเป็นแนวแฟนตาซี ในโลกที่มีสิ่งที่เรียกว่า เขาวงกตเงา ซึ่งจะดึงเอาเหตุการณ์ในอดีตกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้งในมิติปิด ซึ่งหากปล่อยไว้มิติปิดนี้จะกัดกินโลกจนล่มสลาย การปิดมิติเขาวงกตเงานั้นสามารถทำได้โดยการทำภารกิจของแต่ละมิติให้ลุล่วง โดย เดเชียร์ เป็นหนึ่งในจอมเวทระดับล่างที่ถูกรวบรวมมาเพื่อพิชิตเขาวงกตเงาระดับสูงสุด แต่หลังจากฝ่าฟันภารกิจเป็นเวลานานกว่า 10 ปี สุดท้ายผู้รอดชีวิตที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดก็ไม่สามารถพิชิตเขาวงกตและทำให้โลกต้องเผชิญกับหายนะ ทว่าเดเชียร์กลับพบว่าตัวเขาได้ย้อนเวลากลับมายังโลกเมื่อ 13 ปีก่อน ในวันแรก ที่ตัวเขามาสอบเข้าโรงเรียนเวทมนตร์ และคราวนี้เดเชียร์จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคตและไม่ยอมให้เพื่อนพ้องของเขาต้องตายไปอีก
แนวเรื่องแฟนตาซีแบบย้อนเวลากลับมาแก้กรรมตามสูตรสำเร็จของอนิเมแนวนี้อีกเรื่อง แต่คราวนี้ทำออกมาค่อนข้างจริงจัง แม้อาจมีมุกตลกแทรกอยู่บ้างไม่ให้เนื้อเรื่องหนักเกินไปก็ตาม ซึ่งเอาจริงๆ ถ้าไม่บอกว่าเป็นอนิเมจากนิยายเกาหลีผมก็จะนึกว่าเป็นอนิเมจากไลท์โนเวลทั่วไปนี่แหละครับ แต่บรรยากาศบางอย่าง รวมถึงบุคลิกตัวละคร มันก็มีความรู้สึกที่แตกต่างกันอยู่เล็กน้อย โดยในอนิเมซีซันแรกจะเน้นไปที่เรื่องราวในโรงเรียนและกลุ่มปาร์ตี้ 3 ตัวละครหลัก คือ เดเชียร์ ตัวเอกที่จริงๆ เดิมทีก็ไม่ได้เก่งสุด แต่ฉลาด มีไหวพริบ ประสบการณ์ แถมรู้อนาคตเป็นทุนเสริมอีกด้วย โรแมนติก้า จอมเวทสาวซึนเดเระประจำเรื่อง และ พรัม นักดาบที่เคารพในตัวเดเชียร์แบบสุดๆ กับภารกิจในโรงเรียนเวทมนตร์ในการที่จะพัฒนาตัวเองและพรรคพวกให้แข็งแกร่งขึ้นเพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคตให้ได้
ตัวอนิเมผลิตโดย Arvo Animation สตูดิโอหน้าใหม่ก่อตั้งเมื่อปี 2017 ผลงานของค่ายนี้ที่ผ่านมาก็เช่น Monster Girl Doctor (รักษาหนูหน่อย คุณหมอมอนสเตอร์) เป็นต้น ซึ่งคุณภาพงานก็ถือว่ากลางๆ ไม่ได้ดีมาก แต่ผลตอบรับน่าจะดีพอสมควร เพราะเหมือนว่าพอจบซีซันแรกปุ๊บก็ประกาศซีซัน 2 ต่อเลย อาจเพราะฐานนิยายเรื่องนี้ค่อนข้างดังและมีแฟนๆ อยู่ทั่วโลก รวมถึงในไทยด้วย ซึ่งดูทรงแล้วมีโอกาสที่จะทำต่อไปอีกหลายซีซันจนจบตามนิยายอยู่พอสมควร เพราะดูเหมือนว่าเนื้อหาที่ต่อจากซีซันแรกจะยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้นด้วยครับ