แม้อาจจะช้าไปหน่อย แต่ผมเพิ่งดู Ameku M.D.: Doctor Detective หรือ บันทึกประวัติคดีคุณหมออาเมคุ ทาง Netflix จบครับ คือได้ยินชื่อเสียงของอนิเมเรื่องนี้มาพักใหญ่ๆ แล้ว เรตติ้งก็ออกมาดี แถมมีละครด้วย แต่กว่าจะได้ดูกันจริงๆ จังๆ ก็ตอนลง Netflix นี่แหละครับ

นิยามง่ายๆ ของเรื่องนี้คือ อนิเมหมอนักสืบ โดยมีตัวเอกคือ ดร.อาเมคุ ทาคาโอะ หมอสาวร่างเล็กเหมือนเด็กกับผู้ช่วยคือพ่อหมอนกน้อยสายคาราเต้หรือทาคานาชิ ยู ที่อาเมคุตั้งชื่อให้ว่า โคโทริ ที่จะต้องมาไขคดีปริศนาต่างๆ ตั้งแต่เหตุการณ์ในโรงพยาบาล ยันคดีฆาตกรรมที่ตำรวจแก้ไม่ได้ ก็จะหาทางมาเหลี่ยม เอ้ย ขอให้อาเมคุช่วยหาคำตอบให้ ซึ่งหมออาเมคุจอมเผือกก็จะมาพร้อมกับคำพูดติดปากว่า “ปริศนานี้ ฉันจะวินิจฉัยเอง” (โดยไม่ต้องเอาชื่อญาติคนไหนเป็นเดิมพัน)

จุดเด่นของเรื่องนี้แน่นอนก็คือ ตัวหมออาเมคุที่ว่ากันตามตรงก็โคตรเก่ง ฉลาดระดับอัจฉริยะ แต่ก็มั่นใจในตัวเองระดับสูงปรี๊ด ชอบสร้างปัญหา (ถ้าเธอไม่ใช่ระดับทายาทเจ้าของ รพ.ก็น่าจะโดนไล่ออกไปแล้ว) และไม่รู้จักวิธีการวางตัวกับคนอื่น ซึ่งอนิเมอาจจะไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่ก็ใบ้ออกมาอ้อมๆ ว่า ตัวเธอมีความผิดปกติบางอย่าง ซึ่งถ้าอนิเมเลือกที่จะไม่เฉลย ผมก็จะไม่บอกละกัน แต่ในบางเวอร์ชั่นก็เลือกที่จะบอกมาตรงๆ ซึ่งก็มีแต่หมอโคโทรินี่แหละ ที่ทนอารมณ์เธอได้ แถมยังคอยช่วยสนับสนุนเธอด้วย

เนื้อเรื่องเป็นการไขคดีที่มีเรื่องราวการแพทย์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งข้อมูลการแพทย์ในเรื่องค่อนข้างแน่น เพราะผู้เขียนนิยายต้นฉบับคือ มิกิโตะ ชิเน็น นั้น แกเป็นหมอจริงๆ เป็นหมอนักเขียนที่มีผลงานในบ้านเรามากมาย แถมเคยมาเมืองไทยด้วย ส่วนคาแรกเตอร์ของ ดร.อาเมคุนั้น หลายๆ คนอาจจะนึกถึงสาว ม.ปลายเกรียนแตก สึซึมิยะ ฮารุฮิ เพราะตัวนิยายนั้นได้ อ.โนอิซิ อิโต้ (ชานะ,ฮารุฮิ) มาวาดภาพประกอบให้นั่นเองครับ

ซึ่งจริงๆ แล้ว ที่ญี่ปุ่น มีนิยาย มีหนังสือการ์ตูนเกี่ยวกับหมอเยอะ แต่ไม่ค่อยได้ถูกนำมาทำเป็นอนิเมมากนัก ส่วนใหญ่จะถูกนำมาทำเป็นละครทีวีมากกว่า แต่เรื่องหมออาเมคุนั้นมีทั้งฉบับละครและอนิเม ซึ่งทั้งสองเวอร์ชั่นต่างก็ให้อรรถรสในการรับชมที่แตกต่างกันไป โดยในฉบับละคร หมออาเมคุจะรับบทโดย ฮาชิโมโตะ คันนะ สาวสวย(แต่รั่ว)ที่ว่ากันว่าในหนึ่งพันปีจะมีเพียงแค่คนเดียว ส่วนเวอร์ชั่นอนิเมที่เพิ่งลง Netflix จะผลิตโดย Project No.9 และได้ซากุระ อายาเนะ มาให้เสียงหมออาเมคุครับ ตอนนี้อนิเมก็มีให้ชมกันแล้ว ก็หวังว่าฉบับละครทีวีจะเอาเข้ามาด้วยนะ สนุกดี คดีในเรื่องก็มีทั้งง่ายและยาก แถมบางตอนก็แอบดราม่าหนักๆ ด้วย