[REVIEW] Detective Conan Movie 22 Zero The Enforcer

ผมไม่ได้มีโอกาสไปดูโคนันหนังโรงภาคล่าสุดในโรงภาพยนตร์ เพราะตอนที่เขาเชิญมา ผมติดธุระไปต่างจังหวัดพอดี (ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ปีสองปีนี้ รอบสื่อการ์ตูนมักชนกับช่วงหยุดยาว หวังว่าโปเกม่อนหนังโรงตุลานี้คงไม่พลาดอีก) ความตั้งใจแต่แรกว่า จะมารีวิวหนังโรงโคนันตอนฉายโรง ก็เลยแห้วไป เพราะรอบปกติผมก็ไม่มีโอกาสได้ไปดูอยู่แล้วครับ ช่วงนี้งานยุ่ง รถติดหนักจริงๆ (บ้านอยู่โซนก่อสร้างรถไฟฟ้า) จะออกไปไหนก็ลำบาก เลยดูหนังน้อยลงมาก ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะรีวิวเรื่องนี้ตอนที่แผ่นออกนั่นแหละครับ เห็นว่าจะออกปลายปี แต่อยู่ ๆ  AIS PLAY ก็เอาโคนันหนังโรงภาคนี้มาให้ดูกันเฉยเลย พากย์ไทยเสียด้วย แถมดูฟรีอีกต่างหาก งงกันไปเลยครับ ออกจากโรงปุ๊บก็มีให้ดูฟรีแบบถูกลิขสิทธิ์แบบทันใจ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วสินะ..

เอาล่ะ ไหนๆ เขาก็ทำมาให้ดูฟรีแล้ว ก็ลองดูกันสักหน่อย สำหรับโคนันภาคนี้ เนื้อหาจะมุ่งไปที่เรื่องราวของโคนัน และ อามุโร่ ตัวละครขวัญใจสาวๆ ที่มีบทเด่นมากในภาคหลังๆ ครับ โดยเนื้อเรื่องจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อโมริ โคโกโร่ ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีก่อวินาศกรรมครั้งใหญ่ที่เอจออฟโอเชียนซึ่งจะใช้เป็นสถานที่จัดการประชุมระดับชาติจนสะเทือนถึงความเชื่อถือของกรมตำรวจ และดูเหมือนว่าอามุโร่ในบทบาทของตำรวจความมั่นคง (แฟนโคนันหลายๆ คนคงรู้ดีว่า ตาอามุโร่นี่มีตัวตนหลายบทบาทมาก) จะอยู่เบื้องหลังการจับแพะครั้งนี้ด้วย ส่วนสาเหตุที่ต้องให้ตาลุงโคโกโร่เป็นแพะนั้นก็มีเหตุผลบางอย่างอยู่ ซึ่งผมคงจะไม่บอกเพราะมันอาจจะสปอยล์เนื้อเรื่องเกินไป

สิ่งที่หลายๆ คนควรจะทราบกันก่อนก็คือ สำหรับเนื้อเรื่องภาคนี้ให้ลืมเรื่องราวของชายชุดดำไปก่อนครับ ภาคนี้เนื้อหาจะเกี่ยวข้องกับกองตำรวจความมั่นคงต้นสังกัดของอามุโร่และแทบไม่มีความเกี่ยวข้องกับชายชุดดำเลย (ซึ่งจุดนี้ทำให้หลายๆ คนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เพราะตอนที่ได้ข่าวว่าอามุโร่เป็นตัวเด่นในภาคนี้ ก็นึกว่าจะได้เห็นตัวคนของอามุโร่ในหลากหลายมิติ ไม่ใช่ในด้านตำรวจอย่างเดียว) ซึ่งเนื้อหาในช่วงแรกนั้นเป็นเหมือนการชิงไหวชิงพริบระหว่างอามุโร่และโคนัน แต่ไปไปมามาดูเหมือนว่าอามุโร่จะกลายเป็นลูกไล่โคนันไปเฉยเลย

อีกจุดหนึ่งก็คือ โทนเรื่องของโคนันมูฟวี่ภาคนี้ดูแตกต่างจากภาคอื่นๆ พอสมควร ตรงที่ปกติโคนันมูฟวี่ภาคอื่นมักจะเล่นใหญ่รัชดาลัยทั้งแอ๊คชั่นระเบิดกันตูมตาม แต่ภาคนี้แม้จะเล่นใหญ่ (แถมเล่นใหญ่ออกอวกาศไปถึงองค์การนาซ่า ที่ในเรื่องเรียกนาซูกันเลยด้วย) แต่เนื้อเรื่องส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การสืบสวนมากกว่าครับ ส่วนฉากแอ๊กชั่นนั้นมีแค่ช่วงต้นเรื่อง(นิดเดียว) กับช่วงท้ายเรื่อง รวมแล้วน่าจะราว 20% เท่านั้นครับ แม้จะดูน้อยไปสำหรับหนังโรงโคนัน แต่ฉากแอ๊กชั่นก็มีอะไรให้รู้สึกว้าวอยู่เหมือนกัน และมันทำให้เนื้อเรื่องในส่วนสืบสวนดูเด่นและมีน้ำหนักเหตุผลขึ้นด้วย โดยเฉพาะเรื่องกระบวนการของระบบอัยการและตำรวจญี่ปุ่น ที่ไม่ค่อยได้เห็นในโคนันภาคปกติสักเท่าไหร่

ซึ่งในส่วนการสืบคดีในภาคนี้ เนื่องจากว่าตาลุงโมริโดนจับตั้งแต่ต้นเรื่อง ก็เลยทำให้โคนันได้โชว์เด่นแบบเต็มๆ ไม่ต้องพึ่งพาปืนยาสลบไปยิงใครให้เสียเวลา แต่จิกหัวใช้ตาอามุโร่ตรง ๆ เลย ซึ่งในช่วงแรกเหมือนว่าตาอามุโร่จะหลอกใช้โคนัน แต่กลายเป็นว่าในช่วงหลังโคนันนี่แหละเป็นฝ่ายควบคุมอามุโร่อีกต่อหนึ่ง ซึ่งการเดินเรื่องชิงไหวชิงพริบแบบนี้ไม่ค่อยได้เห็นในโคนันมูฟวี่สักเท่าไหร่

และถึงแม้การเดินเรื่องของภาคนี้ดูเหมือนจะเป็นเส้นตรงแบบไม่ซับซ้อนอะไร แต่สุดท้าย ภาคนี้ผมเดาตัวคนร้ายผิดครับ! เคยคิดว่าคนร้ายภาคนี้เดาง่ายเพราะเหมือนจะไม่มีอะไรหักมุมสักเท่าไหร่ แต่ก็เดาผิดจนได้ (ฮา) แต่มันก็สมเหตุสมผลนะครับสมกับที่ค่อยๆ ไล่น้ำหนักประเด็นมาตั้งแต่ต้นเรื่อง เพียงแต่ถ้าเทียบกับโคนันมูฟวี่ภาคอื่นๆ ผมว่าภาคนี้ยังไม่โดนใจสักเท่าไหร่ อาจเพราะคาดหวังในบางประเด็นไว้ค่อนข้างมากก็เป็นได้

ส่วนงานภาพผมก็รู้สึกว่า มันดูดรอปลงยังไงก็ไม่รู้สิเมื่อเทียบกับภาคก่อน..หรือเพราะภาคก่อนมันสวยเกินไปก็ไม่รู้ (ฮา) ถ้าถามตัวผม ผมชอบภาคที่แล้วมากกว่านะ แต่ภาคนี้มันก็ดูลงตัวในอีกแนวทางหนึ่ง เพียงแต่อาจจะรู้สึกไม่คุ้นเคยสักเท่าไหร่

ปล.เห็นบ่นๆ แบบนี้ หนังโคนันภาคนี้ เป็นภาคที่ประสบความสำเร็จสูงสุดนะครับ ทำสถิติเก็บรายได้ไปกว่า 8500 ล้านเยนทีเดียว

ปล.2 ทั้งที่เนื้อเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวของรันแบบเต็มๆ แต่ภาคนี้กลับไม่มีซีนสวีทๆ ระหว่างรันกับชินอิจิเลย (เสียดายนิดๆ)