ผมไม่รู้ว่า ยามูชา (หรือ หยำฉา) โดนมองว่าเป็นตัวกากประจำเรื่องดราก้อนบอลไปตั้งแต่ตอนไหน แต่สมัยที่ดราก้อนบอลเพิ่งเริ่มต้นเรื่องราวใหม่ๆ ยามูชาถือได้ว่าเป็นตัวละครสุดเท่และโคตรเก่งขนาดหวิดจะชนะโกคูได้ ซึ่งในช่วงแรกจุดอ่อนอย่างเดียวของยามูชาคือโรคกลัวผู้หญิง แต่พอได้ออกผจญภัยไปกับบลูม่า ยามูชาก็หายกลัวผู้หญิงและเริ่มคบกับบลูม่าเป็นแฟน ซึ่งในตอนนั้นหลายๆ คนคงคิดคล้ายๆ กันว่า น่าอิจฉาหมอนี่เป็นบ้าเลย
ทว่า ไม่รู้ อ.โทริยาม่าเกิดไปหมั่นไส้ยามูชาเข้าตอนไหน ถึงได้ทำให้ชีวิตของยามูชาต้องเจอกับชะตากรรมสุดแสนบัดซบ ตอนศึกชิงเจ้ายุทธภพก็โดนเทนชินฮังหักขา ครั้งต่อมายังโดนร่างทรงของพระเจ้าเล่นงานแบบน่าอับอายอีก พอมาถึงบทชาวไซย่าก็ยังอุตส่าห์โดนไซไบแมนกากๆ ระเบิดพลีชีพจนกลายเป็นภาพลักษณ์ที่ทำให้หลายๆ คนจดจำถึงความ “กาก” ของยามูชาแทนที่ความเท่ในอดีตไปเลย หนำซ้ำต่อมาแฟนสาวที่คบและร่วมผจญภัยกันมาเป็นสิบปีอย่างบลูม่าก็ยังโดนเบจิต้าแย่งไปง่าย ๆ อีก…จากนั้นยามูชาก็เลยครองตำแหน่งตัวซวยบัดซบที่สุดประจำซีรี่ส์ดราก้อนบอลไปเลย…
แต่ในวันนี้ เราจะบอกลาความกากของยามูชาในคอมมิคดราก้อนบอลเล่มล่าสุด “DRAGON BALL ภาคพิเศษ เกิดใหม่เป็นยามูชาโชะเด๊ะ” ที่คราวนี้เราจะได้เห็นยามูชาได้มีโอกาสโชว์ความเทพกันบ้าง โดยคอมมิคเรื่องนี้เขียนโดย Dragon Garow Lee ซึ่งวาดการ์ตูนเรื่องนี้ออกมาได้ใกล้เคียงกับต้นฉบับของ อ.โทริยาม่ามากพอสมควรทีเดียว โดยพล็อตเรื่องก็มาในแนวเกิดใหม่ในต่างโลกตามสมัยนิยม แต่แทนที่ตัวเอกของเรื่องจะไปเกิดใหม่ในโลกแฟนตาซีเหมือนการ์ตูนเรื่องอื่น เจ้าตัวกลับมาเกิดเป็นยามูชาในเรื่องดราก้อนบอลหน้าตาเฉยเลย
ทว่าการที่เจ้าตัว (อ่านจบแล้วก็ยังไม่รู้ว่าชื่ออะไร) เป็นแฟนพันธุ์แท้การ์ตูนเรื่องดราก้อนบอล ก็เลยรู้ถึงชะตากรรมอันแสนเจ็บปวดของยามูชาเป็นอย่างดี และในเมื่อรู้เรื่องราวของดราก้อนบอลดีอยู่แล้ว ก็เลยจัดการเปลี่ยนอนาคตของยามูชาให้กลายเป็นมนุษย์โลกที่เก่งที่สุดในเรื่องเคียงบ่าเคียงไหล่กับโกคู ถึงขนาดซัดกับชาวไซย่าได้อย่างสบาย ๆ และยังมีส่วนสำคัญในการช่วยกอบกู้โลกเอาไว้ได้ด้วย
ถึงแม้ว่าการ์ตูนเรื่องนี้จะมีความยาวแค่เล่มเดียวจบ (จริง ๆ ครึ่งเล่มก็จบ ที่เหลือเป็นตอนพิเศษ) แต่ขอบเขตของเรื่องนั้นไปไกลมากครับ เอาตั้งแต่ดราก้อนบอลสมัยโกคูยังเป็นเด็กมาจนถึงภาคซูเปอร์เลย ซึ่งถ้าหากใครไม่เคยดูภาคซูเปอร์มาก่อน ช่วงหลัง ๆ มีงงแน่ๆ แถมการที่พระเอกกลับชาติมาเกิดเป็นยามูชายังไม่ใช่เรื่องบังเอิญด้วย แต่ใครจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดก็ลองไปหาคำตอบดูในเล่มเองนะครับ
ด้านลายเส้นก็อย่างที่บอกครับว่า Dragon Garow Lee วาดออกมาได้ใกล้เคียงกับลายเส้นของ อ.โทริยาม่าค่อนข้างมาก แต่ก็มีบางจุดเหมือนกันที่ยังดูแปลกๆ ไปบ้าง และการเดินเรื่องค่อนข้างรวดเร็ว คล้ายกับตอนที่อ่านคอมมิคดราก้อนบอลซูเปอร์ คือเหตุการณ์ไหนไม่สำคัญพี่ท่านตัดทิ้งหมด เรื่องถึงได้เดินเร็วปรื้ดมากจนบางทีก็รู้สึกว่าเร็วเกินไปเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นแฟนการ์ตูนเรื่องดราก้อนบอลอยู่แล้วล่ะก็ ผมขอแนะนำให้หามาอ่านเป็นอย่างยิ่งเลยครับ แม้จะยังสนุกไม่สุด แต่ก็มีการนำเสนอเรื่องราวของดราก้อนบอลในมุมมองที่แปลกใหม่จนรู้สึกว่า โลกของดราก้อนบอลนี่มันไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ