[NETFLIX] Channel wa Sonomama!! ทีวีโป๊ะแตก

Channel wa Sonomama!! เป็นมินิซีรี่ส์ความยาว 5 ตอนจบของญี่ปุ่นที่ทาง NETFLIX เอามาให้ชมกันเร็วแบบสายฟ้าแลบมากครับ เพราะซีรี่ส์เรื่องนี้เพิ่งฉายจบที่ญี่ปุ่นไปเมื่อกลางเดือนมีนาคมนี้เอง แถมเป็นซีรี่ส์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 50 ปีของการแพร่ภาพโทรทัศน์ในเขตฮอกไกโดด้วยนะครับ

ซีรี่ส์เรื่องนี้สร้างจากต้นฉบับหนังสือการ์ตูนของซาซากิ โนริโกะ นักเขียนการ์ตูนผู้หญิงที่มีผลงานดังๆ ที่บ้านเรารู้จักกันดีอย่าง Heaven? หลุดโลกเรสเตอรองต์ และเรื่อง Channel wa Sonomama!! ฉบับคอมมิคก็เคยมีการประกาศลิขสิทธิ์ในบ้านเราโดยทางสำนักพิมพ์ TKO ด้วยนะครับ แต่ผมไม่มั่นใจว่าเคยพิมพ์ออกมาหรือเปล่า เพราะตอนนี้ก็หาตัวสำนักพิมพ์ไม่เจอแล้ว…

แต่โดยส่วนตัว ผมก็ยังไม่มั่นใจว่าตัวซีรี่ส์ดัดแปลงจากตัวคอมมิคไปมากน้อยแค่ไหน เพราะบอกตามตรงว่า..ไม่เคยอ่านต้นฉบับคอมมิคมาก่อนเลย เท่าที่ทราบก็คือโครงเรื่องหลักและตัวเอกน่าจะเป็นคนเดียวกัน แต่เหมือนซีรี่ส์จะไม่ได้เน้นโฟกัสไปที่ตัวนางเอกคนเดียว แต่นำเสนอภาพรวมของวงการโทรทัศน์ท้องถิ่นของญี่ปุ่นมากกว่า อาจเพราะเป็นซีรี่ส์ฉลองครบรอบ 50 ปีของโทรทัศน์ฮอกไกโดด้วย

ละครเรื่องนี้จะเล่าเรื่องราวของเหล่าพนักงานรุ่นใหม่ของสถานีโทรทัศน์ HHTV ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของญี่ปุ่น ซึ่งที่ญี่ปุ่น ระบบ Broadcast ของเขาจะแตกต่างจากบ้านเรา ตรงที่ในญี่ปุ่นทีวีจะไม่ได้แพร่ภาพจากส่วนกลางเป็นหลัก แต่จะเป็นโทรทัศน์ท้องถิ่นเข้ามามีบทบาทในพื้นที่มากกว่า อาจเพราะภูมิประเทศของญี่ปุ่นนั้นเป็นเกาะทำให้การเผยแพร่สัญญาณโทรทัศน์ไม่ได้ครอบคลุมไปทั่วประเทศ อย่าง HHTV ก็เป็นสถานีโทรทัศน์ขนาดเล็กที่มีพนักงานแค่ร้อยกว่าคน และออกอากาศเฉพาะในฮอกไกโดเท่านั้น

ตัวเอกของเรื่องคือ ยูกิมารุ ฮานาโกะ พนักงานเข้าใหม่พร้อมๆ กับเพื่อนรุ่นเดียวกันอีก 5 คนที่ต้องมาเรียนรู้งานในสถานีโทรทัศน์ในตำแหน่งที่ต่างกันไป ยูกิมารุนั้นเป็นเด็กที่เรียกได่ว่างี่เง่าสุดฤทธิ์ ทำงานพลาดก็เยอะ จนดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้เรื่องอะไรในสถานีโทรทัศน์เลยจนเพื่อนๆ ก็ยังสงสัยว่าสอบผ่านเข้ามาได้ไง ผิดกับเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง ยามาเนะ และ มิยาชิตะ ที่มีความสามารถโดดเด่นจนสามารถเติบโตก้าวหน้าในสายงานได้อย่างรวดเร็ว

จนกระทั่งวันหนึ่งที่ยามาเนะทำงานพลาด และเรตติ้งของ HHTV ก็กำลังโดนช่องคู่แข่งถล่มอย่างหนักหน่วง ทางสปอนเซอร์เองก็ชักจะหวั่นๆ ผู้บริหารบางรายก็อยากจะยุบรายการทิ้งแล้วเอาละครจากช่องส่วนกลางมาฉายแทนเพื่อเรียกเรตติ้งก็มี สุดท้ายคนที่จะแก้ไขวิกฤติครั้งนี้ได้ ก็มีแต่โปรดิวเซอร์ที่คิดนอกกรอบสุดกู่อย่าง โอกุระ และคนที่คาดเดาอะไรไม่ได้อย่างยูกิมารุ ซึ่งแนวทางที่โอกุระใช้ในการกู้วิกฤติเรตติ้งก็คือ การยุบรวมฝ่ายข่าวและรายการ ให้เป็นรายการเดียวกัน

ซึ่งวิธีนี้ แม้ในละครจะทำออกมาดูเว่อร์ๆ เหมือนไม่มีใครทำมาก่อน แต่จริงๆ มันเป็นรูปแบบรายการโทรทัศน์ที่นิยมใช้กันในยุคนี้รูปแบบหนึ่ง ที่เรียกว่า Seamless ที่ทำให้รายการที่แตกต่างกันนั้นเชื่อมโยงกันแบบไร้รอยต่อนั่นเองครับ เพราะเอาจริงๆ ฝ่ายข่าวและรายการของแต่ละช่องนั้น มักจะมีวัฒนธรรมการทำงานที่ต่างกันแบบสุดขั้วจนไม่น่าจะจับมารวมกันได้ แต่รายการโทรทัศน์ยุคใหม่ๆ ก็มักจะนำเสนอข่าวและสาระรายการไปควบคู่กัน จนบางทีก็แยกไม่ออกว่า นี่เป็นข่าวหรือรายการ ซึ่งบ้านเราเองก็นำเสนอรายการในรูปแบบคล้ายๆ กันนี้อยู่หลายช่องเหมือนกัน

และอีกสิ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดเด่นของยูกิมารุก็คือ การยืดหยุ่น จริงๆ ในวงการโทรทัศน์นั้น พนักงานจะต้องยึดถือกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เพราะความผิดพลาดหน้าจอนิดเดียวจะนำมาซึ่งความเสียหายมากมายอย่างคาดไม่ถึง ยิ่งเป็นรายการสดยิ่งแล้วใหญ่ อาจถึงขั้นสูญเสียความน่าเชื่อถือในฐานะสื่อไปเลยก็มี แต่ยูกิมารุนั้นกลับเป็นคนที่รักษาระเบียบอะไรไม่ได้เลย แต่นั่นก็ทำให้เธอเป็นคนที่มีความยืดหยุ่น (Flexible) ถูกส่งไปทำข่าวก็ได้ ไปทำรายการก็ได้ แม้จะไม่ได้ผลงานตามคำสั่งเป๊ะๆ แต่บางครั้งแม้จะไม่ได้ข่าวเป็นชิ้นเป็นอันแต่ก็ได้อะไรที่คาดไม่ถึงกลับมาแทนอยู่เสมอ โดยเฉพาะการสร้างคอนเนกชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกับชาวบ้าน หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นอกจากเราจะได้เห็นการทำงานของฝ่ายข่าว และฝ่ายรายการ ในอีกมุมมองหนึ่งที่ไม่ค่อยจะมีใครนำเสนอแล้ว เรายังได้เห็นการทำงานของฝ่ายอื่นๆ อย่างฝ่ายผังรายการ ฝ่าย MCR ฝ่ายการตลาด ฯลฯ ซึ่งโดยปกติเรื่องราวของผู้คนเหล่านี้ มักจะถูกจัดให้เป็นฝ่ายสนับสนุนที่มีบทบาทไม่ต่างจากตัวประกอบ แต่ในซีรี่ส์เรื่องนี้ เราจะได้เห็นกลไกการทำงานของสถานีโทรทัศน์ที่ไม่มีตำแหน่งไหนเลยที่ไม่สำคัญ (ซึ่งเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมรู้สึกว่า นางเอกเรื่องนี้ไม่ค่อยเด่น เพราะคนอื่นๆ ก็มีบทเด่นไม่แพ้กัน) ซึ่งบทบาทการทำงานของแต่ละฝ่ายในละครเรื่องนี้ ก็อ้างอิงมาจากสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของฮอกไกโดจริงๆ ด้วย ถ้าเป็นคนทำงานเกี่ยวกับโทรทัศน์มาดูละครเรื่องนี้แล้ว ก็แทบไม่จำเป็นต้องบินไปดูงานสถานีโทรทัศน์ที่ญี่ปุ่นเลยครับ(ฮา)

อย่างไรก็ตาม แม้จะนำเสนอเรื่องราวชีวิตของคนทำงานออกมาได้อย่างค่อนข้างสมจริง แต่ละครเรื่องนี้ ก็ยังเป็นละครตลกนะครับ แถมเป็นละครตลกที่ค่อนข้าง Feel Good ด้วย ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะคาแรกเตอร์ของยูกิมารุที่ดูไม่ค่อยเหมือนคนทำงานโทรทัศน์ปกติทั่วไปนั่นแหละครับ เรามักจะเห็นแต่ซีรี่ส์คนทำงานข่าวเครียดๆ มาหลายเรื่อง มาดูเรื่องราวที่เบาสมองแต่สมจริงบ้างมันก็ได้เห็นมุมมองที่แปลกใหม่ดี และด้วยความที่เป็นละครมินิซีรี่ส์ยาวแค่ 5 ตอนจบ ก็เลยดูได้แบบเพลินๆ รวดเดียวไม่กี่ชั่วโมงก็จบชุดแล้ว ถ้าใครมีโอกาส ก็ลองเข้า Netflix ไปหาดูกันนะครับ

ปล.เรื่องนี้มีคนไทยเป็นดารารับเชิญอยู่คนนึงด้วย เป็นแอดมินเพจเกี่ยวกับญี่ปุ่นสักเพจหนึ่งนี่แหละ ลองๆ มองหากันดูนะครับ บอกเลยว่าสังเกตโคตรง่ายเลย (ใบ้ให้ว่า เคยเล่นหนัง GDH เรื่องนึงมาก่อนด้วย หึหึ)