ตอนที่ดูหนังเรื่องนี้จบ ผมเข้าใจเลยว่า ทำไมคนบางกลุ่มถึงถูกใจหนังเรื่องนี้เอามากๆ และทำไมนักวิจารณ์ ถึงไม่ค่อยชอบหนังเรื่องนี้สักเท่าไหร่ ทำให้กระแสของหนังเรื่องนี้ มันดูกลางๆ ออกไปคนละทิศคนละทางอย่างบอกไม่ถูก
นิยามสั้นๆ ของหนังเรื่องนี้ก็คือ “มวยปล้ำสัตว์ประหลาด” ครับ สำหรับผมหนังเรื่องนี้คือหนังสัตว์ประหลาดตีกันที่มันส์ที่สุดเรื่องหนึ่ง คู่เอกคือ “พระเจ้า” ก็อตซิลล่า กับ “ราชา” คิงกิโดร่า ที่ต่อสู้แย่งชิงจ่าฝูงของเหล่าสัตว์ยักษ์ โดยมีลูกหาบคือ เจ้า “ราชินี” มอธร่า และนกยักษ์โรแดน เป็นคู่รองแต่ก็สมศักดิ์ศรีศึกชิงเจ้าเวหา
ซึ่งเรื่องราวของมัน ก็อยู่ที่หลังจากเหตุการณ์ก็อตจิบุกโลกเมื่อ 5 ปีก่อนการไปค้นพบเจ้าสัตว์พวกนี้หลับไหลอยู่ทั่วทุกแห่งในโลกถึงกว่า 17 ตัวหรือมากกว่านั้น ซึ่งในโลกก็มีการถกเถียงกันว่า เราจะอยู่ร่วมกับมันแบบโลกสวยดี หรือกำจัดมันทิ้งเสียก่อนที่มันจะตื้บเราจมดิน และสุดท้ายก็มีคนหวังจะให้สัตว์ร้ายเหล่านั้นออกมาอาละวาดเพื่อปรับสมดุลของโลก โดยมีแกนนำก็คือ เจ้ามังกรสามหัวคิงกิโดร่า คู่ปรับตลอดกาลของก็อตซิลล่าตั้งแต่ครั้งอดีต (ในเรื่องอุตส่าห์มีการพิสูจน์ด้วยภาพสลักหินยุคโบราณว่า เจ้าสองตัวนี้ตีกันมานานนับพันๆ ปีแล้วด้วยนะ)
และเมื่อคิงกิโดร่าถูกปลุกออกมา มันก็พยายามที่จะจัดการกับก็อตซิลล่าเพื่อชิงความเป็นจ่าฝูงสัตว์ยักษ์ แต่พอก็อตซิลล่าถูกเล่นงานจนเดี้ยงด้วยความโง่ของมนุษย์เอง เจ้าคิงกิโดร่าที่ไร้คู่แข่งก็ระดมพลสัตว์ประหลาดเข้าถล่มโลกทันที และเรื่องก็ออกมาเฉลยว่า แท้จริงแล้วเจ้าคิงกิโดร่าไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในโลกนี้ แต่เป็นเอเลี่ยนสปีชี่ส์จากนอกโลกเข้ามาทำลายสมดุลของระบบนิเวศของโลกที่มีแต่ก็อตซิลล่าที่เป็นสายพันธุ์เก่าแก่มาแต่โบราณที่จะรับมือได้ สุดท้ายมนุษย์ก็เลยต้องไปพึ่งพิงก็อตซิลล่าที่กำลังเดี้ยงร่อแร่อีกครั้งหนึ่ง จนกลายเป็นหนังมวยปล้ำสัตว์ประหลาดสุดมันส์ ที่แฟนๆ หนังแนวนี้น่าจะชอบ
จุดเด่นของหนังเรื่องนี้ก้คือ การที่หนัง “เคารพ” ความเป็นต้นฉบับญี่ปุ่นค่อนข้างมากครับ ทั้งคาแรกเตอร์ของก็อตซิลล่า โรแดน มอธร่า ที่ออกแบบได้ใกล้เคียงกับต้นฉบับญี่ปุ่น แต่ดูทันสมัยขึ้น ดูสมเป็นสิ่งมีชีวิตมากขึ้น (แม้ก็อตซิลล่าจะอ้วนๆ ล่ำ เหมือนหมีไปหน่อย แต่ก็ดูดีกว่าเจ้าตัวปี 1998 เยอะ และที่สำคัญ ภาคนี้ได้เห็นพี่ก็อตกันเต็มๆ ไม่เหมือนปี 2014 ที่กว่าจะได้เห็นเต็มตากันก็ตอนท้ายเรื่อง) หรือในส่วนเพลงประกอบ ที่หยิบเอาเพลงธีมหลักๆ ของสัตว์ประหลาดแต่ละตัวไม่ว่าจะเป็นก็อตซิลล่าหรือมอธร่าในเวอร์ชั่นญี่ปุ่นมา Mix ใหม่ให้ดูเจ๋งขึ้น Cool ขึ้น จนแฟนๆ เห็นแล้วอยากจะยกออสการ์เพลงประกอบยอดเยี่ยมให้เลยล่ะ แต่ปัญหาคือ ถ้าคนทั่วไปที่ไม่เคยดูก็อตซิลล่าเวอร์ชั่นญี่ปุ่นมาก่อน ก็คงรู้สึกว่า มันเป็นเพลงมันส์ๆ เพลงหนึ่งที่ดูเข้ากับหนังดี แต่อาจจะไม่รู้สึกอินอะไรมากนัก เช่นเดียวกับมุกอีกหลายๆ มุกที่เอามาจากต้นฉบับญี่ปุ่น เช่นระเบิดออกซิเจนที่เคยใช้ฆ่าก็อตจิเวอร์ชั่นญี่ปุ่นมาแล้วเป็นต้น (จริงๆ มีอีกหลายมุกมาก แต่อยากให้ลองไปดูกันในโรงเอาเองครับ)
อีกจุดหนึ่งที่ผมรู้สึกเห็นด้วยคล้ายๆ กับนักวิจารณ์ก็คือ เรื่องบทบาทของมนุษย์ในหนังเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่ามีน้อยไปหรือมากไปนะครับ แต่หลายๆ ส่วนมันดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเอาเสียเลย เอาจริงๆ นี่มันกลายเป็นหายนะโลกที่เกิดจากผัวเมียคู่หนึ่งทะเลาะกันเลยด้วยซ้ำไป ฝั่งนึงก็อยากจะกำจัดสัตว์ประหลาดให้หมดโลก อีกฝั่งก็อยากจะใช้สัตว์ประหลาดล้างโลก พอดูๆ ไปมันเหมือนกลายเป็นหนังครอบครัวทะเลาะกันแต่ดันมีโลกเป็นเดิมพันเสียมากกว่า และการตัดสินใจสำคัญในหลายๆ ฉากมันก็ดูไม่สอดคล้องกับหลักความเป็นจริงมากนัก นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมรู้สึกว่า บทบาทของมนุษย์ในเรื่องมันดูไม่ค่อยลงตัวนัก ทั้งที่หนังพยายามปูความขัดแย้งเรื่องการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับสัตว์ประหลาดมาแต่แรกเริ่ม
นอกจากนี้ ผมรู้สึกว่า การเปิดตัวสัตว์ประหลาดออกมาในภาคนี้ตั้ง 10 กว่าตัว แต่เอาจริงๆ กลับมีบทเด่นในเรื่องแค่ 4 ตัวเท่านั้น ตรงนี้รู้สึกว่าเสียของไปนิด สัตว์ประหลาดบางตัวไม่มีแม้กระทั่งชื่อด้วยซ้ำ แน่นอนละว่าถ้าหากให้สัตว์ประหลาดทั้ง 17 ตัวมีบทเด่นกันหมด ทิศทางหนังคงเป๋จนเสียสมดุลไปเลย แต่จะให้ออกมามีบทแค่มารวมญาติถ่ายรูปหมู่เสร็จแล้วแยกย้ายกลับบ้าน ผมว่ามันก็ดูใจร้ายกับสัตว์ประหลาดบางตัวไปนะ แต่ที่น่าสนใจก็คือ ช่วงท้ายมีการปูพื้นไปสู่หนังภาคต่อไป โดยการเปิดเผยสัตว์ประหลาดระดับบอสออกมาอีกสองตัว ตัวหนึ่งอยู่ช่วงต้นเครดิต และอีกตัวอยู่ท้ายเครดิต ซึ่งตัวแรกนี่มีข่าวออกมาก่อนแล้ว เดาได้ไม่ยาก แต่อีกตัวถ้ามาจริงผมว่าแฟนๆ กรี๊ดแน่
โดยสรุป นี่เป็นหนังสัตว์ประหลาดที่ตีกันมันส์ที่สุดเรื่องหนึ่ง แต่อาจจะไปได้ไม่สุด ไม่ได้การเมืองจ๋าเหมือนชินก็อตซิลล่า(ขวัญใจนักวิจารณ์) และบางช่วงก็ดูเนือยๆ ไปหน่อยเหมือนดูหนังผัวเมียทะเลาะกัน แต่ช่วงท้ายเรื่องนี่คือมวยปล้ำสัตว์ประหลาดสุดมันส์กับเพลงประกอบชั้นยอดที่คุ้มค้าพอที่จะไปดูในโรงจริงๆ