แกะกล่องต่อดิบ MG1/100RX-178 Gundam Mk-II (Ver 2.0)

ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเดือนที่แสนสาหัสของหลายๆ คน ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ทั้งของเล่นและเกมต่างพร้อมใจกันเซลเยอะมาก เรียกว่ากะให้คนซื้อล้มละลายกันเลยทีเดียว แถมบางเจ้ายังเซลตัดราคาแข่งกัน เจ้านึงว่าราคาถูกแล้ว อีกวันนึงอีกเจ้าดันขาย Flash Sale ในราคาถูกกว่าอีก โชคดีที่เดือนที่ผ่านมาไม่มีตัวเด็ดๆ ออกมามาใหม่มากนัก ผมเลยได้ไล่เก็บเกมเก่าๆ โมเดลเก่าๆ ได้อย่างสบายใจเอาไว้ต่อเล่นเวลาว่างหลายตัวเลยครับ

สำหรับเจ้า RX-178 Gundam Mk-II ตัวนี้ ก็เป็นอีกตัวที่ได้มาในราคาค่อนข้างถูกครับ (แต่หลังจากนั้น ก็มีอีกร้านเซลถูกกว่าในช่วงปลายเดือนให้ผมช้ำใจเล่น) ซึ่ง Gundam Mk-II ถือเป็นหุ่นหลักในช่วงครึ่งแรกของอนิเมชุด Mobile Suit Zeta Gundam ซึ่งเป็นทีวีซีรีส์ภาคสองอย่างเป็นทางการของกันดั้ม และเป็นอีกภาคที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงมาก ถึงแม้ว่าเจ้า Gundam Mk-II ตัวนี้ จะมีบทเด่นแค่ในช่วงครึ่งแรกของเรื่อง เพราะครึ่งหลังคามิว บีดัน ตัวเอกของภาคนี้หันไปใช้ Zeta Gundam ที่ทันสมัยกว่าแทน (หล่อกว่า แถมแปลงร่างได้) แต่ Gundam Mk-II ก็มีบทบาทในเรื่องลากยาวข้ามซีรี่ส์ไปถึงภาค ZZ เลยนะครับ ถือเป็นกันดั้มที่มีอายุการใช้งานยาวนานและมีบทบาทในอนิเมมากที่สุดตัวหนึ่งเลยล่ะ

ซึ่งเจ้า RX-178 Gundam Mk-II ตัวนี้ ถือเป็น MG ใน Ver 2.0 ที่มีการปรับปรุงข้อต่อและโครงสร้างในหลายๆ ส่วนจาก MG เวอร์ชั่นแรกที่ออกมาก่อนหน้านั้นหลายปี และทำออกมา 2 สี คือสีขาวของเอลโก้ (ฝั่งตัวเอก) และสีน้ำเงินของฝ่ายทีทานส์ซึ่งเป็นคู่ปรับของพวกเอลโก้ในช่วงแรกของเรื่อง (ในช่วงหลังของเรื่องนี้จะกลายเป็นสงคราม 3 ฝ่าย ระหว่าเอลโก้ – ทีทานส์ และเนโอซีออน ซึ่งพวกทีทานส์จะแตกพ่ายและหายไปเหลือแต่เอลโก้กับเนโอซีออนแค่สองฝ่าย) โดย MG Gundam Mk-II ของเอลโก้นั้นราคาจะแพงกว่าของทีทานส์อยู่นิดหน่อย ซึ่งตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ภายหลังถือรู้ว่า เพราะของเอลโก้มันขายฐานซ่อมบำรุงพ่วงมาให้ด้วยนี่เอง แถมยังเอาตัวฐานนี้ไปใช้กับตัวอื่นได้ด้วย ถือว่าคุ้มมาก

ฐานซ่อมบำรุง ที่เอาไปเล่นกับ MG ได้อีกหลายตัว

และถึงแม่ว่าตัว ver 2.0 นี้จะออกมาได้หลายปีแล้ว ถ้าจำไม่ผิดน่าจะตั้งแต่ปี 2005 โน่นเลย แต่หลายๆ ส่วนยังถือว่าดูดีไม่แพ้โมยุคนี้เลยครับ สัดส่วนนั้นดูลงตัว การแยกสีดี แกนไฮโดรลิคที่ข้อเท้านี่ถึงกับชุบโครเมี่ยมมาให้ด้วย แต่ก็มีจุดด้อยอยู่บ้าง ตรงที่ในส่วนช่วงล่างมันดูไม่ค่อยแน่นหนาแข็งแรง ดูไม่มั่นคงสักเท่าไหร่ แต่ส่วนที่ทำให้ผมเสียเวลาในการประกอบที่สุด กลับเป็นส่วน Backpack ที่ตรงท่อข้างหลังทำเป็นท่อผ้ามาให้เราร้อยแกนเข้าไปครับ แถมเรายังต้องวัดระยะตัดท่อเองให้แม่น ๆ ด้วย ถ้าพลาดนี่มีร้องไห้เลยแหละ แถมท่อยังหลุดง่ายอีก ผมเลยไม่กล้าขยับมันเล่นสักเท่าไหร่ เพราะถ้าหลุดทีนี่ใส่ยากน่าดูเลยล่ะ

ท่อตรง Backpack ด้านหลังเป็นผ้า ส่วนโช้คที่ขานั้นชุบโครเมียมมาให้ด้วย

แต่พอประกอบเสร็จ ก็รู้สึกเลยนะว่า มันเป็นโมเดลที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดตัวหนึ่งในราคา 4000 เยน ถึงจะเป็นโมเก่าเก็บหลายปีก็เถอะ แต่โดยส่วนตัวผมรู้สึกว่าโมใหม่ๆ สมัยนี้มันแพงเกินความจำเป็นไปนิด (แถมยังชอบเอาตัวพิเศษไปลง P-Bandai ให้แพงขึ้นอีก) ซึ่งถ้ามองเรื่องความคุ้มค่าแล้ว ผมว่าโมกลางเก่ากลางใหม่อย่าง Gundam Mk-II ตัวนี้ ค่อนข้างตอบโจทย์เลยครับ อาจจะมีบางจุดที่ทำให้รู้สึกหัวร้อนตอนประกอบบ้าง (เช่นส่วนที่ต้องร้อยท่อ) แต่ถ้าชอบซีรี่ส์กันดั้ม และสเกล 1/100 ผมว่านี่คือตัวที่ต้องมีเก็บไว้เลยครับ อย่างน้อยก็เอาฐานของมันไปเล่นกับตัวอื่นได้ด้วย แถมอาวุธก็ให้มาครบ ทั้งดาบ ปืนบีมไรเฟิล บาซูก้า และปืนวัลแคนพอดที่หัว(ถอดได้) เรียกได้เลยว่าคุ้มค่าจัดเต็มจริงๆ ครับ