ตาโปน ชัยยันต์ สุยะเวช

เชื่อว่าคนที่ติดตามวงการการ์ตูนไทย น่าจะพอทราบข่าวแล้วว่า ชัยยันต์ สุยะเวช หรือ ตาโปน นักเขียนการ์ตูนไทยที่อยู่ในวงการมาอย่างยาวนาน ได้จากไปตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน ในวัย 50 ปี ซึ่งเป็นข่าวที่ทำให้หลายคนรู้สึกใจหายไม่น้อย เพราะคุณตาโปนหรือพี่ยันต์นั้น ถือเป็นนักเขียนการ์ตูนไทยสไตล์มังงะรุ่นบุกเบิก ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคนหนึ่ง

ภาพของพี่ยันต์ จากเพจผู้จัดการ (แต่ผมเซฟมาจากเพจพี่ยันต์) ในมือของพี่ยันต์คือคาแรกเตอร์จากเรื่อง Hot Beach ตบแหลก ของสยามอินเตอร์

ตัวผมเองรู้จักพี่ยันต์ จากผลงานชุด หาญสู้ผีนรก ที่สมัยก่อนตีพิมพ์ลงในนิตยสาร A-Comix (ปี 1994) ซึ่งตอนนั้นวงการการ์ตูนมังงะญี่ปุ่นถือว่าอยู่ในยุครุ่งเรืองสูงสุด และกำลังเริ่มเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านสู่การ์ตูนลิขสิทธิ์เต็มตัว ส่วนการ์ตูนไทยสไตล์มังงะนั้นยังเพิ่งเริ่มตั้งไข่ และได้รับความสนใจอยู่พอสมควร แต่สำหรับงานของตาโปนนั้น จะมีจุดเด่นตรงที่เป็นการ์ตูนไทยสไตล์ญี่ปุ่นที่ผสมผสานความเป็นไทยได้อย่างลงตัว และมีลายเส้นที่สวยมาก โดยเฉพาะตัวละครผู้หญิงที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์

กากี 3 เล่มจบ (ภาพจากเพจบุรพัฒน์)

จุดเด่นของงานสไตล์พี่ยันต์ก็คือ การพยายามทดลองแนวทางใหม่ๆ อยู่เสมอ ตั้งแต่การ์ตูนชุดหาญสู้ผีนรก ที่เอาเรื่องของหมอผีไทยมาผสมผสานกับเรื่องยุคปัจจุบัน สำหรับผม เรื่องนี้สนุกสุด แต่เอาจริงๆ มีคนที่เคยอ่านเรื่องนี้น้อยมาก และตอนหลังพี่ยันต์มาเขียนหาญสู้ผีนรก ภาคของทวน เป็นภาคแยกลงในไทยคอมมิค ซึ่งภาคนี้กลับมีคนรู้จักมากกว่าอีก เพราะตอนนั้นไทยคอมมิคกำลังดัง นอกจากนั้นตาโปนก็มีผลงานการ์ตูนกีฬาอย่าง ตะกร้อ การ์ตูนมวยไทยอย่าง ลูกไม้ ซึ่งตะกร้อนั้นมีรูปแบบการเล่าเรื่องคล้ายกับการ์ตูนกีฬาสไตล์อาดาจิอยู่ไม่น้อย ส่วนลูกไม้นั้นจะออกมาในโทนดราม่ามากกว่า

โอริณกับจิณนา ฉบับอนิเมชั่น

ส่วนตัวผมเอง เคยได้มีโอกาสร่วมงานกับพี่ยันต์อยู่ครั้งหนึ่ง คือตอนที่พี่ยันต์ทำการ์ตูนไทยเกี่ยวกับจระเข้เรื่องหนึ่งเมื่อราวๆ ปี 200x ซึ่งบอกเลยว่าใครที่อ่านการ์ตูนเรื่องนั้นแล้วรู้สึกว่ามันเจ๋งล่ะก็ แต่ตัวต้นฉบับจริงๆ ยังมีอะไรที่น่าสนใจกว่านั้นเยอะเลยครับ อย่างภาพตอนเรือแตกตอนนั้นจำได้ว่าพี่ยันต์แกแอบวาดเครื่อง PS1 ใส่ไปด้วย (การ์ตูนย้อนยุคนะ) แต่น่าเสียดายที่ตอนตีพิมพ์ถูกตัดตกขอบไป (ลองดูภาพด้านล่างก็ได้ จะแอบเห็นนิดหน่อย) และยังมี easter egg เล็กๆ เกี่ยวกับสิ่งที่พี่ยันต์ชื่นชอบแทรกอยู่ในเนื้อเรื่องอยู่อีกมากมาย ทั้งในเรื่องนี้และเรื่องอื่นๆ ซึ่งถ้าเป็นแฟนการ์ตูนของตาโปนมานาน จะพอสังเกตเห็นว่า พี่ยันต์เอาใจใส่กับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้มากแค่ไหน

ไกรทอง ฉบับตาโปน (ภาพจาก //www.dreampathstudio.com)

หลังจากนั้น ตัวผมก็เปลี่ยนสายงาน ไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับการ์ตูนไทยแล้ว ก็เลยไม่ได้เจอพี่ยันต์อีกนานเลย มาพบพี่ยันต์อีกครั้งหลังจากนั้นสิบกว่าปีตอนทำเซนชูแมกกาซีนนี่แหละครับ เพราะตอนนั้นพี่ยันต์แกมีโปรเจคหนังขบวนการที่ชื่อว่า Betta Ranger (ขบวนการปลากัด) และมีทีเซอร์ออกมาแล้วด้วย ผมเลยได้มีโอกาสัมภาษณ์พี่ยันต์ลงเซนชูแมกกาซีน ซึ่งหลายๆ คนคงพอทราบว่า พี่ยันต์แกชอบหนังฮีโร่มาก ถึงขนาดมีคาแรกเตอร์ฮีโร่สไตล์โทคุซัตสึของตัวเองที่ชื่อ ยันต์แมน ออกมาด้วย

หลังจากนั้น ผมก็ไม่ได้เจอพี่ยันต์อีกเลย (ส่วนโปรเจค Betta Ranger ก็พับไปด้วยเหตุผลหลายๆ ประการ) แต่พี่ยันต์เองก้ยังมีผลงานการ์ตูนไทยออกมาให้อ่านกันอีกหลายเรื่อง และกับหลายสำนักพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็น Hot Beach ตบแหลก ของ SIC กากี ของบุรพัฒน์ หรือก่อนหน้านั้นก็มีการ์ตูนเกี่ยวกับเกม Ragnarok ลงใน RO NEWS (แต่เรื่องนี้ผมไม่ได้อ่านเพราะผมไม่ได้เล่น RO) การ์ตูนเด็กอย่าง โอริณกับจิณนา ซึ่งมีโปรเจคอนิเมชั่นตามมาด้วย (แต่พับโครงการไปเช่นกัน)

เขียนการ์ตูนลงใน RO NEWS ด้วย (ภาพจากเพจพี่ยันต์)

นอกจากที่กล่าวมา พี่ยันต์ก็ยังมีผลงานการ์ตูนเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย และหลากหลายแนว ตามสไตล์พี่ยันต์ที่ชอบทดลองแนวทางใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ แต่การ์ตูนหลายๆ เรื่องก็มีเหตุขัดข้องทำให้เขียนไม่จบ ซึ่งโปรเจคล่าสุดที่ผมเห็น ก็น่าจะเป็นการ์ตูนผีที่เขียนลง Ookbee ซึ่งตอนที่เห็นผมเองก็แปลกใจไม่น้อย เพราะสไตล์ลายเส้นของพี่ยันต์เปลี่ยนไปจากเดิมพอสมควร แต่ถ้าใครตามเพจของพี่ยันต์อยู่ ก็น่าจะพอทราบข่าวมาได้สักพักแล้วว่า ตอนนั้นร่างกายพี่ยันต์เริ่มไม่แข็งแรง และมีอาการป่วยทำให้เดินทางไม่ค่อยสะดวกนัก

ผลงานในช่วงหลังๆ ของตาโปน ที่ลายเส้นต่างไปจากเดิมอยู่พอสมควร (ภาพจากเพจตาโปน)

และในที่สุด หลังจากที่พี่ยันต์ต่อสู้กับอาการป่วยมาอย่างยาวนาน พี่ยันต์ก็ได้จากพวกเราไปในวัย 50 ปีเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าหากร่างกายพี่ยันต์แข็งแรงไม่เจ็บป่วย พี่ยันต์ก็น่าจะยังคงสร้างสรรค์ผลงานดีๆ ออกมาให้เราได้อ่านกันได้อีกเรื่อยๆ ดังที่เราทราบว่าพี่ยันต์ยังมีโปรเจคดีๆในใจอีกหลายเรื่องที่อยากจะถ่ายทอดออกมาให้เราได้อ่านกัน รวมถึงโปรเจคในฝันอย่าง “เพชรพระอุมา” ที่พี่ยันต์อยากทำมาตั้งแต่ 20 กว่าปีก่อน การจากไปของพี่ยันต์ จึงถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของวงการการ์ตูนไทย ที่ครั้งหนึ่ง ผลงานของพี่ยันต์ ได้เคยเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทำการ์ตูนจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว

โปรเจคการ์ตูนฟุตบอล ที่พี่ยันต์โพจไว้เมื่อปี 2016 และเหมือนจะมีพิมพ์ออกมาแล้ว แต่ผมยังไม่เคยอ่าน

ขอไว้อาลัยต่อการจากไปของ ชัยยันต์ สุยะเวช ด้วยความเคารพในจิตวิญญาณของนักสู้แห่งวงการการ์ตูนไทยครับ

(หมายเหตุ ภาพประกอบเกือบทั้งหมด นำมาจากเพจ TaponeStudio ComicTeam และเพจ TaponeStudio ครับ)