สืบเนื่องจากการที่ Netflix กำลังจะเอาอนิเมของสตูดิโอจิบลิมาให้แฟนๆ ทั่วโลกได้ชมกัน ทำให้อนิเมของจิบลิกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งหลังจากกระแสเงียบไปพักหนึ่ง (เพราะไม่มีงานใหม่ๆ ออกมา) ผมก็เลยตั้งจะว่าจะย้อนรีวิวถึงงานเก่าของค่ายจิบลิกันครับ เพราะตอนนี้หาดูได้ง่ายขึ้นแล้ว เผืิ่อใครไม่รู้ว่าจะดูเรื่องไหนก่อน ก็จะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
เรื่องแรกที่จะพุดถึงเป็นผลงานที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของจิบลิ แม้ว่าจะไม่ใช่ผลงานแรกสุดของค่ายนี้ แต่ก็เป็นผลงานระดับ Mass ที่เป็นเสมือนภาพจำและมัสคอตของค่ายไปแล้ว นั่นก็คือ My Neighbor Totoro หรือที่ครั้งหนึ่งบ้านเราเคยเรียกว่า โทโทโร่เพื่อนรัก ซึ่งเป็นชื่อที่นิตยสารอนิเมฉบับหนึ่งตั้งไว้เมืิ่อสามสิบกว่าปีก่อน
My Neighbor Totoro เป็นผลงานกำกับของ มิยาซากิ ฮายาโอะ ผู้กำกับคนดังที่แฟนๆ รุ่นหลังรู้จักกันดี โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นโปรเจคที่ทำออกมาคู่ขนานพร้อมกันกับอนิเมอีกเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือเรื่อง Grave of the Fireflies หรือสุสานหิ่งห้อย ของผู้กำกับ ทาคาฮาตะ อิซาโอะ ซึ่งทั้งสองเรื่องออกฉายที่ญี่ปุ่นในวันเดียวกัน โดยสุสานหิ่งห้อยนั้นจะพูดถึงเด็กที่ได้รับผลกระทบจากภัยสงคราม ในขณะที่โทโทโร่นั้นจะพูดถึงเรื่องราวระหว่างมนุษย์และธรรมชาติโดยมีตัวละครสำคัญคือ โทโทโร่ สัตว์ผู้พิทักษ์ป่าซึ่งเป็นตัวแทนของธรรมชาติอันแสนมหัศจรรย์
เรื่องราวของโทโทโระเริ่มต้นที่เด็กผู้หญิงสองคน ซัตสึกิ และ เมย์ ย้ายมาอยู่บ้านใหม่ในแถบชนบทกับพ่อที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย เนื่องจากทั้งสามต้องการที่จะมาพักอยู่ใกล้ๆ กับโรงพยาบาลที่ ยาซึโกะ แม่ของพวกเธอนอนพักรักษาตัวอยู่ (ยาซึโกะป่วยเป็นโรคกระดูกสันหลังอักเสบเนื่องมาจากวัณโรค ซึ่งเป็นโรคเดียวกับที่แม่ของมิยาซากิ ฮายาโอะเคยเป็นมาก่อน) ซึ่งซัตสึกิและเมย์ได้ค้นพบว่า ในป่าข้างบ้านนั้นมี โทโทโร่ สัตว์วิเศษผู้พิทักษ์ป่าอาศัยอยู่ และต่อมาทั้งสองก็ได้กลายเป็นเพื่อนกับโทโทโร่ และเรื่องราวมหัศจรรย์สนุก ๆ ก็ได้เกิดขึ้นตามมามากมาย
เมย์ ตั้งชื่อสัตว์วิเศษร่างยักษ์มีขนฟูนั้นว่า โทโทโร่ ซึ่งเพี้ยนมาจากคำว่า โทโรรุ หริอ troll ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเมย์รู้จัก Troll จากหนังสือนิทานนอร์เวย์เรื่อง Three Billy Goats Gruff และคิดว่าโทโทโร่ ภูตแห่งป่าก็คือ troll นั่นเองครับ ซึ่งพล็อตเรื่องของโทโทโร่นั้นก็จะง่ายๆ ให้อารมณ์แบบการผจญภัยของเด็กคล้ายกับวินนี่เดอะพูห์ ที่สอนให้เด็กมีความรับผิดชอบ ขยันขันแข็ง และรักธรรมชาติ และที่สำคัญ ด้วยความน่ารักของตัวโทโทโร่ ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในคาแรกเตอร์ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของจิบลิและได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี จนถึงตอนนี้มันแทบจะกลายเป็น DVD สามัญประจำบ้านที่คนญี่ปุ่นต้องมี โดยในส่วนของโฮมวิดีโอนั้นขายไปได้ถึง 7.8 ล้านชุด! (ทุกวันนี้ยังติดอันดับหนังขายดีอยู่เลย) และยังถูกนำกลับมาฉายใหม่ทางโทรทัศน์อยู่เรื่อยๆ
ตอนที่โทโทโร่ฉายที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 1988 ตัวหนังทำเงินไป 588 ล้านเยน และตอนที่เอากลับมาฉายใหม่ในปี 2006 ก็ทำเงินเพิ่มไปได้อีกรวมเป็น 1,170 ล้านเยน ส่วนตลาดนอกประเทศนั้นแม้จะฉายแบบจำกัดโรงเป็นส่วนใหญ่และบางประเทศก็เพิ่งนำมาฉายในช่วงไม่กี่ปีมานี้ แต่ก็ทำเงินรวมกันไปได้กว่า 3000 ล้านเยนเลยครับ
ส่วนในบ้านเราเองก่อนนี้ก็รู้จักเจ้าโทโทโร่จากการที่นิตยสารอนิเมค่ายหยึ่งเคยเอามาตีพิมพ์ในรูปแบบสกู๊ปเรื่องย่อเป็นตอนๆ ต่อเนื่องหลายฉบับจบเมื่อราว 30 ปีก่อน แต่มาได้ดูกันจริงก็ตอนยุค DVD นี่เองครับ และหลังจากนั้นเราก็ได้เห็นสินค้าโทโทโร่เข้ามาขายในบ้านเรามากมาย จนถึงตอนนี้ก็ยังมีให้เห็นอยู่ แต่เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยดูอนิเมเรื่องนี้กันแบบจริงๆ จังๆ ดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ชมโทโทโร่กันแบบเป็นทางการที่ไม่อยากให้พลาดกันครับ ใครมี Netflix ก็เปิดเข้าไปดูได้เลย ต้นเดือนกุมภานี้นะ