ตอนแรกที่ได้ข่าวว่า Pokémon: Mewtwo Strikes Back – Evolution จะไม่เข้าฉายโรงในไทย ก็รู้สึกผิดหวังอยู่เหมือนกัน เพราะโปเกม่อนภาคนี้เป็นโปเกม่อนภาคแรกที่เป็น CGI ทั้งเรื่อง แถมยังขุดเอาหนังโรงตอน Mewtwo Strikes Back ซึ่งเป็นหนังโรงภาคแรกมาทำใหม่อีก แต่อย่างน้อยบ้านเราก็ได้ดูกันทาง Netflix นะ แถมยังเร็วกว่าที่คาดอีก
Pokémon: Mewtwo Strikes Back – Evolution เป็นหนังโรงโปเกม่อนตอนที่ 22 ซึ่งเนื้อเรื่องนั้นถอดมาจากภาค Mewtwo Strikes Back ในปี 1998 แทบจะช็อตต่อช็อต แม้จะมีคำว่า Evolution ห้อยอยู่ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ในส่วนเนื้อเรื่องมากนัก นอกจากงานภาพที่ทำออกมาเป็น CGI ทั้งหมดตามสมัยนิยม ซึ่งในส่วนงานภาพก็ทำออกมาได้ดี สวยเนียนตา แถมพิคาชูมีขนด้วย (แต่ไม่ real เท่าภาคนักสืบพิคาชู) แม้คาซึมิจะดูแบ๊วๆ ไปหน่อยก็เถอะ
เนื่อเรื่องย่อๆ (ก็อปมาจาก Netflix) ก็คือ “หลังตอบรับคำเชิญจากเทรนเนอร์ปริศนา ซาโตชิ คาซึมิ และทาเคชิก็ได้พบมิวทู โปเกมอนอัจฉริยะที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อท้าดวลพวกเขา” ซึ่งก็อย่างที่บอกครับว่า เนื้อเรื่องภาคนี้ถอดของเก่ามาแทบจะช็อตต่อช็อต ทำให้คนที่เคยดูของเก่ามาก่อน อาจจะรู้สึกเนือยๆ เอื่อยๆ ไปบ้าง เพราะมันเหมือนเดิมเลย มีจุดต่างกันอยู่นิดเดียวจริงๆ แต่สำหรับผมที่ไม่ได้ดูของเกามานานกว่า 20 ปี พูดตามตรงก็คือ ตอนที่ได้ดูน่ะลืมเนื้อเรื่องเก่าไปหมดแล้ว เพราะไม่เคยดูซ้ำด้วย จำเนื้อเรื่องเดิมได้แค่นิดๆ หน่อยๆ ก็เลยรู้สึกเหมือนดูหนังใหม่เลยล่ะ
แต่ถ้าจะถามว่าสนุกไหม ก็ต้องบอกกันตามตรงนะครับว่า โปเกม่อนมันเป็นการ์ตูนเด็ก ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดูง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน ในส่วนเนื้อเรื่องมันเลยดูเข้าใจง่ายๆ เบาๆ ในธีม มิตรภาพ ความพยายาม ชัยชนะ และพลังอภินิหาร ซึ่งถ้าเทียบกับหนังโรงภาคหลังๆ ผมชอบภาคหลังๆ ที่ดูมีความเรียลและสอดรับไปกับเนื้อหาที่พัฒนาขึ้นไปตามยุคมากกว่าครับ แต่หนังโรงภาคนีั้ ที่ญี่ปุ่นก็ประสบความสำเร็จพอสมควรนะครับ ทำเงินไปมากถึง 2980 ล้านเยน และในเวอร์ชั่น Netflix ที่เราได้ดูกันก็มีให้เลือกทั้งพากย์อังกฤษ พากย์ญี่ปุน พากย์ไทยครบเลยครับ โดยทีมพากย์ไทยก็เป็นทีมเดียวกับทาง True ที่เด็กๆ คุ้นเสียงกันนั่นแหละ เด็กๆ รุ่นใหม่ๆ น่าจะดูกันได้อย่างสบายใจ ส่วนแฟนรุ่นเก่าก็ดูรำลึกความหลัง และดูความน่ารักของโปเกม่อนในรูปแบบ CG ไปละกัน
https://www.netflix.com/th/title/81223075