อนิเมชุด BOFURI: I Don’t Want to Get Hurt, so I’ll Max Out My Defense หรือชื่อญี่ปุ่น Itai no wa Iya nano de Bōgyoryoku ni Kyokufuri Shitai to แค่เห็นชื่อยาวๆ แบบนี้ก็เดาได้เลยว่า เป็นผลงานที่สร้างจากไลท์โนเวลแน่ๆ เพราะไม่รู้เป็นไง วงการไลท์โนเวลพักหลังๆ นี่ขยันแข่งกันตั้งชื่อยาวๆ เสียเหลือเกิน โดยตัวต้นฉบับนิยายนั้นเป็นผลงานของ Yuumikan เขียนมาตั้งแต่ปี 2017 (แต่จริงๆ เขียนลงเวบออนไลน์มาตั้งแต่ปี 2016) จนถึงตอนนี้ก็มีรวมเล่มออกมา 9 เล่มแล้ว และมีลิขสิทธิ์นิยายในบ้านเราด้วย ใช้ชื่อไทยว่า น้องโล่สายแทงก์ แกร่งเกินร้อย
พล็อตเรื่องก็มาในแนวเกมออนไลน์แบบ VRMMORPG (ง่ายๆ ก็นึกถึง SAO เข้าไว้ครับ) ที่เคยฮิตกันอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ต่างกันตรงที่เรื่องนี้ไม่ได้ติดในเกมแล้วออกมาไม่ได้ ก็แค่ล็อกอินเข้าไปเล่นเกมสนุกๆ ตามปกตินั่นแหละครับ โดยในเรื่องนี้จะเป็นการเข้าไปเล่นเกมออนไลน์ชื่อ NewWorld Online ทว่าพิเศษหน่อยตรงที่ตัวเอกของเรื่อง ฮอนโจ คาเอเดะ (ในเกมใช้ชื่อ เมเปิ้ล) นั้น เธอเป็นคนกลัวเจ็บ ไม่อยากเจ็บตัว เจ้าตัวก็เลยอัพสกิลแบบไม่เหมือนใคร คือนอกจากจะใช้โล่ใหญ่ (เพราะกลัวเจ็บ) แล้ว ยังอัพค่าป้องกัน (VIT) ซะเต็มแม็กซ์ ไม่ยอมอัพค่าสเตตัสอื่นๆ เลย ผลก็คือเมเปิ้ลกลายเป็นตัวละครที่มีดีแค่ถึก ทน อืด เวทมนตร์ก็ไม่มี แต่ก็ยังอุตส่าห์เอาตัวรอดในเกมมาได้เรื่อยๆ แถมยังเก็บสกิลประหลาดๆ ได้เยอะทั้งโจมตีและป้องกันเสียจนทำให้เมเปิ้ลกลายเป็นตัวละครไร้เทียมทานชนิดที่เรียกว่าป้อมปราการเดินได้ไปเลย
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ นี่เป็นเรื่องราวสบาย ๆ สโลว์ไลฟ์ในโลกเกมออนไลน์แสนสดใส แถมเต็มไปด้วยคนดี ไม่มีคนเลว (โลกสวยจริงๆ) โดยสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายและสามัญสำนึกมากที่สุดในเรื่องก็คือตัวเมเปิ้ลนี่แหละครับ จากการเป็นตัวละครที่แรกๆ มีดีแค่พลังป้องกัน เธอก็เริ่มที่จะเก็บบอสได้เรื่อยๆ จนมีสกิลหายากแปลกๆ ติดตัว เริ่มมีเพื่อน มีสังคม ตั้งกิลด์แสนสุข แถมยังเอากิลด์เล็ก ๆ ไปตบตีกิลด์ใหญ่ได้อีก จนหลายๆ คนรวมถึงพวกเกมมาสเตอร์เริ่มจะมองว่าเมเปิ้ลเป็นเหมือนลาสต์บอสของเกมมากกว่าจะเป็นผู้เล่นไปแล้ว แต่มันก็ดูได้เพลินๆ สนุกๆ จนจบซีรี่ส์นะครับ แม้ว่าทั้งเรื่องนอกจากสกิลของเมเปิ้ลแล้วจะไม่มีอะไรที่เกินความคาดหมายเลยก็ตาม แต่จุดขายมันก็อยู่ที่ตัวหนูเมเปิ้ลนี่แหละ ที่ดูไปดูมาก็น่ารักดี
สตูดิโอที่รับผิดชอบอนิเมเรื่องนี้ก็คือ Silver Link ที่หลังๆ ได้งานดีๆ ไปเยอะ คุณภาพก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์รับได้ค่อนไปทางดี โดยตัวอนิเมออกอากาศไปตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ตอนนี้ก็ออนแอร์จบภาคไปแล้ว ส่วนในบ้านเรานี่ผมค่อนข้างแปลกใจที่มีให้ดูซับภาษาอังกฤษแบบถูกลิขสิทธิ์ผ่านทาง youtube ของ Muse Asia ซึ่งตอนแรกผมก็งงว่ามาได้ไง เพราะปกติ Muse Asia หรือ Muse Communication Singapore จะเป็นเอเยนซี่ที่คอยซื้อลิขสิทธิ์หนังหรือสินค้ามาขายให้กับซับเอเยนซี่หลายอื่น(รวมถึงในไทยด้วย) ทว่าตั้งแต่กลางปี 2019 ที่ผ่านมา ทาง Muse ก็เอาอนิเมลิขสิทธิ์ของตนมาปล่อยให้ดูแบบซับภาษาอังกฤษหลายเรื่อง รวมถึงเรื่อง Bofuri ที่แทบจะปล่อยออกมาให้ชมไล่เลี่ยกับทางญี่ปุ่นเลยครับ เอาเป็นว่าใครสนใจก็ของเข้าไปชมกันได้นะ ดูฟรีด้วย