สมัยนี้พูดถึงอีสปอร์ตอาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรนัก แต่เมื่อหลายปีก่อน นิยายเรื่อง เทพยุทธ์เซียนกลอรี่ ผลงานการเขียนของ หูเตี๋ยหลาน นั่นเล่าเรื่องราวของวงการอีสปอร์ตไว้ได้น่าสนใจ จนได้ตีพิมพ์ยาวต่อเนื่องถึง 25 เล่มจบ กลายเป็นนิยายขายดีที่ถูกนำมาสร้างเป็นอนิเม(จีน) และซีรี่ส์จีนสุดฮิตที่มีแฟนๆ ติดตามในบ้านเราอยู่ไม่น้อย
เทพยุทธ์เซียนกลอรี่ (The King’s Avatar; 全职高手) เป็นซีรี่ส์ที่เกี่ยวกับเกมที่ชื่อว่า กลอรี่ ที่ตามเนื้อเรื่องนั้นเป็นเกมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานหลายปี จนมีการแข่งขันกันแบบลีกเกมอาชีพด้วย โดยตัวเอกของเรื่อง เยี่ยชิว (เรียกเล่นๆ เทพเยี่ย) เป็นกัปตันทีมเจียซื่อทีมดังในลีกที่กวาดความสำเร็จมามากมาย แต่ด้วยปัญหาภายในทำให้ เยี่ยชิว ต้องออกจากการเป็นกัปตัน ออกจากทีม พร้อมกับยก ID เทพของตน “อี๋เยี่ยจือชิว” ให้กับ ซุนเสียง ที่ถูกวางตัวให้เป็นกัปตันคนใหม่
เยี่ยชิวต้องระเห็จออกมาจากทีมเจียซื่อที่อยู่มานานหลายปี และไปทำงานร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ “ซิงซิน” เพราะยังไม่อาจตัดใจจากกลอรี่ได้ (อยู่ร้านเน็ต เล่นเกมได้) จนสุดท้ายเยี่ยชิวก็สร้าง ID ใหม่ขึ้นมา และไปขุดไอเท็มลับ “ร่มแสนกล” ที่เพื่อนสนิทสร้างทิ้งไว้ให้กลับมาใช้อีกครั้ง ซึ่ง “ร่มแสนกล” นั้นเป็นอาวุธที่สามารถดัดแปลงรูปแบบการเล่นได้หลากหลาย แต่อาชีพในเกมกลอรี่ที่จะใช้ได้มีแต่เพียงอาชีพ “คนจร” ซึ่งเป็นอาชีพที่ไม่ได้รับความนิยมในเกมเอาเสียเลย เพราะเป็นอาชีพที่ค่า status ไปไม่สุดสักทาง ทว่าเยี่ยชิว จะสามารถทำให้ “คนจร” และ “ร่มแสนกล” สร้างชื่อในกลอรี่ และกลับเข้าลีกได้อีกครั้งหรือไม่
สำหรับคนที่ไม่ได้อ่านนิยายมาก่อนอย่างผม ก็เป็นซีรี่ส์ที่สนุก (แต่แอบมีอืดๆ บางช่วง) และทำให้รู้สึกถึงความเป็นนิยายกำลังภายในยุคใหม่ คือเปลี่ยนจากสำนักเป็นทีม ยุทธภพเป็นลีก ตัวเอกถูกถีบออกจากสำนักไม่อาจหวนคืนยุทธภพจึงต้องไปฝึกวิชาและสร้างสำนักใหม่ ซึ่งมันคือพล้อตหนังจีนกำลังภายในนี่แหละครับ เพียงแต่เรื่องราวถูกปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย กลายเป็น อีสปอร์ต อาชีพในฝันของเด็กๆ ยุคใหม่ แต่เรื่องราวมันก็ไม่ได้ขายฝันอีสปอร์ตให้สวยหรูอะไรนะครับ กลับถ่ายทอดความยากลำบากของวงการนี้ออกมาให้เห็นถึงมิตรภาพและความพยายามของผู้เล่นแต่ละคน รวมถึงการชิงไหวชิงพริบ หักหลังและเล่ห์เหลี่ยมทางธุรกิจที่ครอบงำวงการนี้อยู่ รวมถึงประเด็นคลื่นลูกใหม่จะแซงคลื่นลูกเก่า ที่ตัวซีรี่ส์พูดถึงไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องด้วย
ทว่าเมื่อเทียบกับต้นฉบับนิยาย ก็ต้องยอมรับว่ามีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาไปพอสมควร ตรงที่เยี่ยชิวพระเอกของเราดูเป็นคนดีขึ้นเยอะเมื่อเทียบกับนิยาย (ฮา) อย่างน้อยก็ไม่อัดบุหรี่เหมือนในนิยายล่ะนะ ส่วนอวาตาร์ตอนเล่นเกมนั้นก็จะใช้ซีจีที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดีครับ พี่เยี่ยในเกมนี่นึกถึงจูล่งใน Dynasty Warriors เลย (โดยเฉพาะ อี๋เยี่ยจือชิว นี่จูล่งชัดๆ) แต่ดูแล้วแต่ละตัวมันคล้ายๆ กันไปนิดเหมือนทีมงานพยายามคุมโทนเอาไว้ ในขณะที่ในนิยายกับอนิเมดูมีสีสันจัดจ้านวิบวับกว่า ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่คนชอบนะครับ มีคนแนะนำด้วยว่าถ้าดูซีรี่ส์จบแล้วจะไปดูอนิเมต่อด้วยก็ดี เพราะตอนนี้ก็มีให้ชมกันทาง wetv อยู่แล้ว ส่วนซีรี่ส์นี่มีให้ชมทั้ง wetv และ netflix เลยครับ ชอบทางไหนก็เชิญตามสะดวกเลย