Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba

คงไม่ต้องพูดอะไรมากกับความสำเร็จของ Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba หรือ ดาบพิฆาตอสูร การ์ตูนที่น่าจะเรียกว่าเป็นปรากฎการณ์ของปี 2019 ข้ามต่อมายังปี 2020 ได้แบบสวยงาม ด้วยยอดขายอันดับ 1 ข้ามปี และตอนนี้ก็ทำยอดขายรวมทะลุ 60 ล้านเล่มไปแล้ว (พฤษภาคม 2020)

เรื่องราวการต่อสู้ของกลุ่มพิฆาตอสูรในยุคสมัยไทโชของญี่ปุ่น พี่ชาย (ทันจิโร่) ที่มีน้องสาว (เนซึโกะ) กลายเป็นอสูร และพยายามหาหนทางที่จะทำให้น้องสาวกลับมาเป็นมนุษย์ ด้วยการเข้ากลุ่มพิฆาตอสูร จนกลายเป็นการ์ตูนยอดนิยมในนิตยสารโชเน็นจัมป์ในช่วงปี 2016-2020 ซึ่งตอนแรกนั้นหลายๆ คนแทบจะมองข้ามการ์ตูนเรื่องนี้ไปเลย เพราะลายเส้นที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Koyoharu Gotōge (ชื่อเล่น : อาจารย์เข้) อาจจะไม่ได้สะดุดตาผู้อ่านมากนักเมื่อเทียบกับเรื่องอื่นในจัมป์ แต่ด้วยพล็อตเรื่องที่น่าสนใจ เรื่องราวความผูกพันระหว่างพี่น้องที่แสนประทับใจ และการเดินเรื่องที่แม้จะเหมือนจะเป็นเส้นตรงตามสูตรสำเร็จแต่กลับไปด้วยจุดพลิกผันที่คาดไม่ถึงจนบางครั้งก็เดาทางไม่ถูก ทำให้กระแสของเรื่องนี้เริ่มถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ

เนซึโกะกลายเป็นตัวละครหญิงที่โด่งดังสุดๆ

จุดพลิกผันจริงๆ ก็ตรงที่เรื่องนี้ถูกนำมาสร้างเป็นอนิเมโดยสตูดิโอคุณภาพอย่าง Ufotable ซึ่งเรื่องงานภาพนั้นเรียกได้ว่าหายห่วง Kimetsu no Yaiba กลายเป็นอนิเมคุณภาพสูงแห่งปี 2019 ที่มาพร้อมกับกระแสตอบรับจากผู้ชมท่วมท้นจนแทบไม่น่าเชื่อว่า นี่เป็นอนิเมที่ฉายรอบดึก (ออกอากาศคืนวันเสาร์ เวลา 23.30 น.) แม้ว่าเรตติ้งทางทีวีจะไม่ได้สูงมาก และไม่เคยติดอันดับเรตติ้ง Top 10 เลย แต่ Kimetsu no Yaiba กลับได้รับการพูดถึงในวงกว้างยิ่งกว่าอนิเมท็อปฮิต เพลงประกอบก็ดังจนไม่รู้จะดังยังไง แล้วทั้งหมดที่กล่าวมามันก็ยิ่งหนุนให้หนังสือการ์ตูนขายดีติดอันดับ 1 ทั้งในไทยและญี่ปุ่น และถึงแม้ว่าอนิเมจะจบภาคไปแล้ว แต่พอปี 2020 อนิเมเรื่องนี้ถูกนำมาลง Netflix ดูกันได้ทั่วโลก ก็ยิ่งได้รับความนิยมเพิ่่มขึ้นไปอีก ดูจากตอนนี้ที่ตัวอนิเมยังคงติด Top 10 ของ Netflix มาหลายสัปดาห์แล้ว

The Movie มาแน่นอน ถ้าไม่เลื่อนเพราะ Covid

ด้วยความนิยมขนาดนี้ เชื่อแน่ว่ายังไงก็คงจะมีซีซัน 2 เพียงแต่เมื่อไหร่เท่านั้น แต่ก่อนนั้นก็คงต้องขวนขวายหาภาคหนังโรงมาดูก่อน (เพราะตอนจบภาคแรกมันดันส่งต่อไปภาคหนังโรงพอดี) ทว่าทั้งที่ความสำเร็จท่วมท้นขนาดนี้ “อาจารย์เข้” ผู้เขียนกลับเดินเรื่องให้ต้นฉบับการ์ตูนเรื่องนี้จบลงในตอนที่ 205 ชนิดหักปากกาเซียน เพราะปกติการ์ตูนในจัมป์หากประสบความสำเร็จก็มักจะถูกขอให้เขียนยืดเรื่องไปเรื่อยๆ แต่ Kimetsu no Yaiba กลับไม่เป็นเช่นนั้น ซึ่งแน่นอนว่าก็มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ รวมถึงคนที่รู้สึกเสียดายที่จบเร็วเกินไป ซึ่งถ้ามองในแง่การตลาด การ์ตูนเรื่องนี้ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น สินค้าจากอนิเมกำลังทยอยวางจำหน่าย หนังโรงก็ยังไม่ทันฉาย ถ้าหนังสือการ์ตูนยังไม่จบ ก็น่าจะขายได้ไปอีกยาวๆ ด้วยซ้ำ

คาแรกเตอร์ของ “เสาหลัก” ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น

ไม่ว่าเบื้องหลังของการรีบจบการ์ตูนเรื่องนี้จะเป็นเช่นไร (มีข่าวลือเยอะมาก) แต่โดยส่วนตัวแล้ว มันก็ถือเป็นตอนจบที่ลงตัว แม้จะเป็นไปตามสูตรสำเร็จไปหน่อยก็ตาม และเนื้อเรื่องในหนังสือการ์ตูนก็มีเหลือมากพอที่จะทำอนิเมได้อีกอย่างน้อยก็สองซีซันเป็นอย่างต่ำ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนจะมีการ์ตูนที่ประสบความสำเร็จในระดับนี้ได้อีก แต่แค่นี้ผมก็ถือว่า Kimetsu no Yaiba เป็นอนิเมระดับปรากฎการณ์ของปี 2019 ที่ประวัติศาสตร์การ์ตูนญีั่ปุ่นน่าจะบันทึกไว้อีกเรื่องล่ะครับ

ปล.ฉบับหนังสือการ์ตูน ลิขสิทธิ์ของ SIC ส่วนอนิเมมีให้ดูทาง Netflix และแว่วว่าจะมีพากย์ไทยทางช่อง CartoonClub ครับ