Hello World เป็นหนังอนิเมที่เข้าฉายในบ้านเราเมื่อปี 2019 แต่ตอนที่ฉายโรงผมไม่ได้ดู มาได้ดูจริงๆ ก็ตอนที่หนังเรื่องนี้ลง Netflix เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และก็นึกเสียดายไม่น้อยที่ไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ในโรง ทั้งที่มันเป็นหนังดีอีกเรื่องที่ถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย
Hello World เป็นเรื่องราวในอนาคตอันใกล้ ฉากของเรื่องคือเกียวโตปี 2027 เมื่ออยู่ๆ คาตางากิ นาโอมิ เด็กนักเรียนมัธยมปลายอายุ 16 ปีได้พบกับตัวเองในอีก 10 ปีข้างหน้า ที่ย้อนเวลามาเพื่อที่จะทำให้ นาโอมิ คบกับ อิจิเกียว รูริ เพื่อนร่วมชั้น ซึ่งจริงๆ แล้วดูเหมือนว่า นาโอมิ 2037 จะย้อนเวลามา เพื่อป้องกันไม่ให้รูริ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ จึงขอความร่วมมือจากนาโอมิ (ม.ปลาย) ซึ่งตัวนาโอมิ (ม.ปลาย) ก็ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
แต่เหตุการณ์นั้นกลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด เพราะความจริงแล้ว นาโอมิไม่ได้ย้อนเวลามาจากปี 2037 แต่อันที่จริง ทั้งนาโอมิ (ม.ปลาย) รูริ และเกียวโตปี 2027 เป็นเพียงข้อมูลใน Data world ที่ถูกบันทึกไว้ในคอมพิวเตอร์ขนาดยักษ์ อัลทาล่า (Alltale) ซึ่งนาโอมิในปี 2037 ต้องการนำข้อมูลของรูริที่อยู่ในอัลทาล่า มาใส่ในร่างของรูริที่สมองตายไปแล้วตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งนั้น แต่นั่นกลับทำให้อัลทาล่ารวน เพราะข้อมูลผิดเพี้ยนไปจากที่เคยเป็นอยู่จนทำให้ระบบหวิดจะล่ม Data world จวนจะล่มสลาย ซึ่งมีแต่นาโอมิทั้งสองและรูริที่จะหยุดยั้งหายนะครั้งนี้ได้
แนวคิดของเรื่องนั้นถือได้ว่าน่าสนใจ เพราะนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของ A.I แต่กลายเป็นการสร้าง Data World จำลองโลกขึ้นมาทั้งใบ แถมเนื้อเรื่องนั้นมีการพลิกผันไปมา (บอกไว้เลยว่า ช่วงท้ายเหมือนจะพลิกอีกรอบด้วย) และยังแฝงปรัชญาให้ตีความกันได้หลายมุม รวมถึงตอนจบที่บอกเลยว่าคาดไม่ถึง นั่นทำให้อนิเมเรื่องนี้มีความแปลก น่าสนใจ จนถึงกับต้องไปหาอนิเมสั้นชุด Another World ซึ่งเป็นสปินออฟของเรื่องนี้มาดูกันต่ออีก เพื่อจะได้ปะติดปะต่อเรื่องราวได้ทั้งหมด น่าเสียดายที่บ้านเรายังไม่ได้ดู Another World ในรูปแบบลิขสิทธิ์ ไม่รู้ว่า Netflix จะใจดีเอามาให้ดูกันด้วยหรือเปล่า
จุดหนึ่งที่เจ้าของหนังในบ้านเรานำมาเป็นจุดขายก็คือ อนิเมเรื่องนี้กำกับโดย Tomohiko Itō ผู้กำกับ SAO สองซีซันแรก ซึ่งอันที่จริง SAO นั้นก็ถือเป็นแนวการผจญภัยใน Data World (เกม) เหมือนกัน เพียงแต่เงื่อนไขใน Hello World นั้นจะซับซ้อนกว่า เพราะตัวหนังจะลวงเราตลอดเรื่องว่า อะไรคือความจริง อะไรคือ DATA หรือทั้งหมดอาจจะเป็นโลกที่ทับซ้อนกันอยู่ จนถึงตอนจบก็ยังมีประเด็นที่เราต้องตีความและถกเถียงกันอยู่พอสมควร แต่นั่นก็ทำให้หนังเรื่องนี้ดูน่าสนใจจริงๆ