ปีนี้ถือเป็นปีที่การ์ตูนดังหลายๆ เรื่องครบรอบ 10 ปี หรือพูดอีกมุมหนึ่งก็คือ ปี 2011 นั้นมีการ์ตูนดังระดับไอค่อนออกมาเยอะมากครับ และหนึ่งในนั้นก็คือ Mazinkaizer SKL การ์ตูนหุ่นยนต์ยักษ์สุดฮิตของ นางาอิ โก ที่ทำออกมาในรูปแบบ OVA 3 ตอนจบ
นับแต่ นางาอิ โก สร้างผลงานการ์ตูนสุดฮิตอย่างมาชีนก้า-แซด ขึ้นมาในรูปแบบคอมมิค และถูกสร้างเป็นอนิเมออกฉายทางทีวีในเวลาต่อมา มันก็กลายเป็นจุดกำเนิดของยุคอนิเมหุ่นยนต์บูมในญี่ปุ่น ที่กินเวลายาวนานกว่า 20 ปี ตั้งแต่ยุค 70s มาจนถึงยุค 90s กลายเป็นจุดเริ่มต้นของอนิเมแนวหุ่นอภินิหารซูเปอร์โรบอท และตัวมาชีนก้าเองก็กลายเป็นทรัพย์สินอันมีค่าของนางาอิ โก ที่เจ้าตัวเองมักจะนำกลับมาหากิน เอ้ย ถ่ายทอดใหม่อยู่หลายครั้ง (แปลง่ายๆ แฟนๆ เหนียวแน่นมาก)
และเมื่อปี 2011 นางาอิ โก ก็ปล่อยหุ่นมาชินก้าตัวใหม่ออกมาให้แฟนๆ ได้รู้จัก ในชื่อ มาชีนไคเซอร์ SKL ที่แม้ชื่อและหน้าตาจะใกล้เคียงกับ มาชีนไคเซอร์ ที่เคยสร้างเมื่อหลายปีก่อนหน้านั้น แต่ก็เป็นคนละเรื่องคนละจักรวาลที่ไม่ได้เกี่ยวกันเลย จากเดิมที่เป็นเหมือนการเอาตำนานมาชีนก้าภาคแรกสุดมาเล่าใหม่ให้โหดขึ้นตามสไตล์นางาอิ โกแท้ๆ และมาชีนไคเซอร์ก็เป็นพัฒนาการขั้นต่อไปของหุ่นในตระกูลมาชีนก้า ที่บังคับโดยพระเอกคนเดิม คาบูโต้ โคยิ (หรือคาบุโตะ โคจิ แต่สมัยก่อน บ้านเราเรียกโคยิครับ)
ทว่ามาในภาค SKL มาชีนไคเซอร์กลับไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรเลยกับเรื่องราวดั้งเดิมเลย (ทั้งที่ตอนแรกหลายๆ คนนึกว่าจะเป็นภาคต่อด้วยซ้ำ)
ในภาค SKL นี้ โลกหาทางจัดการเหล่าอาชญากรด้วยการส่งเหล่าคนโฉดไปจองจำบนเกาะโดดเดี่ยว ที่มีชื่อว่าเกาะจักรกล (Machine Island) ที่ถูกโดดเดี่ยวจากโลกด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่าม่านแรงดึงดูด (Gravity Curtain) ที่สร้างสนามพลังกั้นไม่ให้คนในออก คนนอกเข้าไม่ได้
และเพราะบนเกาะดันมีทรัพยากรและแหล่งพลังงานเหลือเฟือในการสร้างหุ่นรบขนาดยักษ์ ไม่ช้าพวกที่ถูกกักกันไว้ที่นั่นก็เริ่มรวมตัวกันเป็น 3 ก๊ก คือ กองทัพ การัน , ทัพคิบะ และทัพไอร่า (อันหลังนี้พิเศษหน่อย เป็นทัพของหญิงล้วน) แบ่งแยกพื้นที่กันปกครอง และทำสงครามกัน
เรื่องมันคงไม่เกิดถ้ากลไกที่ใช้สร้างม่านแรงดึงดูดเกิดการเสียหายขึ้นมา และกำลังจะเกิดระเบิดใน 66 ชั่วโมง แถมการระเบิดของมันยังแรงพอที่จะส่งผลให้คนทั้งโลกต้องตายหมดด้วย รัฐบาลของกองทัพโลกจึงต้องส่งหน่วยพิเศษเข้าไปหาทางแก้ไขเรื่องนี้ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะทั้งเกาะเต็มไปด้วยพวกบ้าเลือด ที่ต่างก็ครอบครองกลไกที่ต้องใช้ในการซ่อมแซมเครื่องยนต์สร้างม่านแรงดึงดูด เพื่อไม่ให้มันเกิดระเบิด และต่างก็มีหุ่นยนต์ยักษ์เป็นกองทัพอีกต่างหาก เมื่อกองทัพโลกบุกเข้าไปจึงได้รับการรับน้องจนแหลกโดยที่ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย
แต่โชคยังดีที่มีผู้รอดมาได้ เขาก็คือ ไคโด เคน และ เรียว มากามิ สมาชิกเดนตาย ตัวซวยของทุกทีม เพราะไม่ว่าพวกเขาไปอยู่หน่วยไหน แม้ว่าภารกิจจะสำเร็จ แต่ไม่เคยมีใครอื่นรอดมาได้นอกจากเขาทั้งสองคน และยังเป็นผู้บังคับหุ่นมาชีนไคเซอร์ SKL ที่ต้องร่วมมือกับ ยูกิ สึบาสะ วิศวกรหญิงสมาชิกอีกคนที่รอดตาย กับกองทัพไอร่า ของไอร่า มู (กลุ่มเดียวในเกาะที่ดูจะคุยกันรู้เรื่องที่สุดแล้ว) ทำสงครามกับอีกสองก๊กที่เหลือ เพื่อหาทางซ่อมเครื่องยนต์ม่านแรงดึงดูด ในเวลาที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด
แม้ว่าจะดูไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องเดิม แต่เหล่าตัวละครในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา หรือชื่อก็ดูจะทำให้แฟนเก่า (40+) ได้นึกถึงเหล่ามาชีนก้าในอดีต อย่างไอร่า มู นี่ทั้งชื่อ ทั้งหน้านี่ยกมาจากตัวนางเอกเรื่องก็อดมาชีนก้ากันเลย บรรดานักรบหญิงลูกน้องของไอร่า ก็ดูหน้าตาคุ้นๆ อยู่ไม่น้อย หรือหัวหน้าของก๊กคิบะก็ให้ลูกน้องเรียกตัวเองว่า “บอส” ซึ่งเป็นชื่อของคู่ปรับร่วมโรงเรียนของโคยิ ที่ต่อมาจะกลายเป็นเพื่อนผู้ช่วย(หรือตัวยุ่ง)ในการต่อสู้กับเหล่าร้ายที่เราคุ้นเคยกันดี
ส่วนฉากแอ๊กชั่น ก็ยังคงรักษาสไตล์ของ นางาอิ โก (เวลาหุ่นโดนฟันแล้วก็มักจะมีเครื่องยนต์พุ่งออกมาเหมือนเครื่องในทะลัก น้ำมันท่วมเหมือนสาดเลือดกระจาย) ซึ่งก็ถูกๆ ใจแฟนๆ ซีรี่ส์นี้ไม่น้อย แถมเพลงเปิดก็มันส์สะใจดีด้วย
มาชีนไคเซอร์SKL ถูกสร้างออกมาในรูปแบบ OVA 3 ตอนจบ ออกจำหน่ายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2011 และยังมีคอมมิคยาว 3 เล่มจบ เขียนโดย Kazumi Hoshi มีนิยายตีพิมพ์ใน Dengeki Hobby Magazine และปรากฎโฉมในเกมซีรี่ส์ Super Robot Wars ด้วยครับ
ปล.บทความนี้เค้าโครงมาจากบทความที่เคยเขียนลงในนิตยสารเซนชูเมื่อปี 2011 แต่ผมเอามารีไรท์ใหม่หมดครับ