[ดูจบแล้ว]Kumichou Musume to Sewagakari : ยากูซ่าพี่เลี้ยงเด็ก

Kumichou Musume to Sewagakari หรือชื่อภาษาอังกฤษ The Yakuza’s Guide to Babysitting เป็นอนิเมที่สร้างจากหนังสือการ์ตูนของ Tsukiya ที่บอกตามตรงว่าก่อนเรื่องนี้จะสร้างเป็นอนิเม ผมไม่เคยรู้จักหรือได้ยินชื่อมาก่อนเลย แต่ที่รู้สึกสนใจเพราะโลลิ..เอ้ย ไม่ใช่ แต่เพราะพล็อตเรื่องเกี่ยวกับยากูซ่าที่เอาจริงๆ ในช่วงหลายปีมานี้แทบไม่เห็นการ์ตูนยากูซ่ากันสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่เราจะเห็นยากูซ่าที่เป็นตัวประกอบหรือตัวร้ายในการ์ตูนเสียมากกว่า

ส่วนพล็อตเรื่องก็ตามชื่อเรื่องเลยครับ คิริชิมะ โทรุ อายุ 28 ปี เป็นยากูซ่าสุดโหดฉายาปีศาจแห่งแก๊งซากุรางิที่อยู่ๆ ก็ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าแก๊งให้มาดูแล ยาเอกะ ที่เป็นลูกสาววัย 7 ขวบของหัวหน้าแก๊งนั่นแหละ ครับ ซึ่งแน่นอนว่าคิริชิมะเกิดมาก็ไม่เคยมีลูก ไม่เคยเลี้ยงเด็ก แฟนก็ไม่มี เพื่อนก็น้อย (เพราะเอะอะพี่แกก็ต่อยเขาอย่างเดียว) แต่ต้องมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กซึ่งขัดแย้งกับนิสัยป่าเถื่อนเลือดเย็นของตัวเองสุดๆ แต่เจ้าตัวก็ขัดคำสั่งของหัวหน้าแก๊งไม่ได้ก็เลยกลายเป็นความสัมพันธ์ประหลาดๆ ระหว่างหนุ่มยากูซ่ากับเด็กประถมขึ้นมา

คิริชิมะ โทรุ

สิ่งที่ผมค่อนข้างชอบก็คือ อนิเมเรื่องนี้ถ่ายทอดความเป็นยากูซ่าที่ดูไม่ตกยุคและเป็นไปตามยุคสมัยจริงๆ คือไม่ใช่พวกหน้าโหดกล้ามใหญ่ร่างกายเต็มไปด้วยรอยสักเหมือนภาพจำที่เราเห็นจากการ์ตูนหรือซีรี่ส์เรื่องอื่นๆ แต่เป็นกลุ่มอิทธิพลที่มีความสัมพันธ์แบบครอบครัวพี่น้อง รักพวกพ้อง ใจนักเลง พร้อมจะปกป้องพรรคพวกด้วยชีวิต และไม่ได้เอาแต่ใช้กำลังอย่างเดียว (จริงๆ ยากูซ่ามันมีเรื่องผลประโยชน์เยอะด้วย) พอพ่อของยาเอกะสั่งให้คิริชิมะมาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก เจ้าตัวก็ไม่หือไม่อือ เพราะถือว่าพ่อของยาเอกะมีบุญคุณกับตัวเอง และพอผ่านไปสักพักคิริชิมะก็เริ่มเรียนรู้ที่จะทำตัวสมเป็นพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่ทิ้งความเป็นยากูซ่าในตัวเอง (ขออย่าให้เจ้าตัวฟิวส์ขาดก็พอ)

ยาเอกะ

เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างยาเอกะกับคิริชิมะมันก็เลยเหมือน Beauty And The Beast โฉมใหม่ ยาเอกะยังเด็กเล็กเกินกว่าที่จะเข้าใจว่า ยากูซ่าคืออะไร และทำไมคนถึงกลัวคิริชิมะ เพราะยาเอกะเห็นแต่ด้านดีๆ ของคิริชิมะ ส่วนคิริชิมะเองก็เหมือนได้กลับมามี “ครอบครัว” ให้ได้พักใจอีกครั้งหนึ่ง ทำให้อนิเมเรื่องนี้เป็นการ์ตูนยากูซ่าที่ดูแล้วฟีลกู๊ดมากๆ แต่ก็ไม่ถึงขั้นโลกสวย เพราะไม่ว่าอย่างไร คิริชิมะก็ยังคงเป็นยากูซ่าที่ชอบใช้กำลังแก้ปัญหา และถึงแม้ซากุรางิจะเป็นพ่อที่ดีและรักลูก แต่สิ่งที่แก๊งซากุรางิทำนั้นก็ยังเป็นเรื่อง “เทาๆ” ที่บางครั้งก็ไม่อาจยอมรับได้ แม้จะพยายามไม่ให้ยาเอกะรับรู้เรื่องราวในแก๊งมากนัก แต่สักวันหนึ่ง ยาเอกะก็ต้องรู้เรื่องครอบครัวของตัวเองอยู่ดี

สิ่งที่น่าสนใจคือ เราจะได้เห็นพัฒนาการและการเติบโตของยาเอกะในวัย 7 ปี กับคิริชิมะในวัย 28 ปีที่พยายามปรับจูนเข้าหากัน ยาเอกะเติมเต็มความเป็นเด็กให้กับคิริชิมะ (ซึ่งคิริชิมะไม่ได้มีช่วงวัยเด็กที่มีความสุขมากนัก นอกจากความทรงจำลางๆ เกี่ยวกับแม่) ในขณะที่ตัวคิริชิมะเองก็ได้เห็นยาเอกะค่อยๆ เติบโตและเปิดใจมากขึ้นมากกว่าตอนที่พบกันแรกๆ ซึ่งผมไม่รู้ว่าต้นฉบับหนังสือการ์ตูนเล่าเรื่องของสองคนนี้ไปไกลแค่ไหนเพราะไม่มีใครซื้อลิขสิทธิ์มาให้อ่าน แต่จากผลตอบรับในตัวอนิเมที่ดีพอสมควร แม้ไม่ถึงกับเปรี้ยงปร้าง ก็แอบอยากให้เรื่องนี้มีซีซัน 2 ต่อนะ

อ้อเรื่องนี้ Bilibili กับ Ani-One ใช้ซับไทยคนละชุดกันนะครับ หลังจากดูเทียบกันช่วงตอนแรกๆ แนะนำว่าดูซับของ Bilibili ดีกว่าครับ (แต่ไม่รู้ว่าหลังๆ Ani-One เขาแก้ซับรึยังนะ)