ถ้าพูดถึงอนิเมซีรี่ส์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปี 2022 SPY x FAMILY น่าจะติด 1 ใน 5 อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเรื่องนี้โด่งดังมากตั้งแต่ตีพิมพ์ใน Shōnen Jump+ และพอสร้างเป็นอนิเมโดยทีมสร้างชื่อดังอย่าง Wit Studio และ CloverWorks ก็ยิ่งทำให้กระแสเรื่องนี้ถูกพูดถึงในวงกว้างมากๆ และเป็นอนิเมรอบดึกเรื่องเดียวในปีที่ผ่านมา ที่ติดชาร์ตเรตติ้ง Top 10 มาโดยตลอด
สำหรับเรื่องย่อๆ ก็คงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะน่าจะรู้กันดีอยู่แล้ว โดยจะเป็นเรื่องราวของ “สนธยา” หรือ ลอยด์ ฟอร์เจอร์ สายลับคนดังแห่งเวสทาลิส ที่จำเป็นต้อง “สร้างครอบครัวหลอกๆ” ขึ้นมาเพื่อปฏิบัติภารกิจใน ออสตาเนีย ประเทศที่เป็นเหมือนขั้วตรงข้ามกับเวสทาลิส (สถานการณ์ในเรื่องคล้ายกับช่วงที่เยอรมันแบ่งประเทศออกเป็นตะวันออกและตะวันตก โดยที่สนธยาไม่ได้รู้ตัวว่า “อาเนีย” เด็กหญิงที่สนธยารับเป็นบุตรสาวบุญธรรมนั้นเป็นเด็กสาวพลังจิตผู้มีความสามารถในการอ่านใจคนอื่น และ ยอร์ ผู้หญิงที่สนธยาแต่งงานหลอกๆ ด้วยก็คือ “เจ้าหญิงหนาม” นักฆ่าคนดังแห่งออสตาเนีย
ซึ่งในครอบครัวมีเพียงอาเนียเท่านั้นที่รู้ความลับนี้ เพราะอาเนียอ่านใจได้ ก็เลยรู้ตัวจริงของทั้งสอง แม้ว่าอาเนียจะไม่เข้าใจเรื่องการเมือง หรือตัวจริงของลอยด์และยอร์แบบลึกซึ้งมากนักเพราะยังเป็นเด็ก แต่อาเนียก็รู้ว่า สายลับมันเท่ และอาเนียก็ยังชอบอนิเมสายลับเรื่องบอนด์แมนเอามากๆ ด้วย อาเนียเลยไม่รู้สึกกลัวตัวตนที่แท้จริงของลอยด์มากนัก และที่สำคัญ อาเนียรู้ดีว่า หาแผนของลอยด์ล่ม อาเนียก็จะบ้านแตก ไม่มีที่อยู่อีก ก็เลยต้องพยายามรักษาความลับนี้ไว้ พร้อมกับลุ้นให้ภารกิจของลอยด์ราบรื่นด้วย
เนื้อเรื่องก็จะเป็นแนวแอคชั่นคอเมดี้้ที่มีมีความหลากหลาย ทั้งเรื่องราวในรั้วโรงเรียนของอาเนีย ภารกิจของลอยด์ไปจนถึงชีวิตครอบครัวของทั้งสามคน ซึ่งนั่นทำให้อนิเมเรื่องนี้ดูสนุก และถึงแม้เนื้อเรื่องส่วนใหญ่จะจบในตอน แต่ก็มีแง่มุมที่คาดไม่ถึงให้พูดถึงได้เสมอ รวมถึงความน่ารักของอาเนีย สาวน้อยร้อยมีม ที่กลายเป็นตัวละครยอดฮิตติดใจกันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมถึงเนื้อหาที่เหมือนจะรุนแรง แต่เอาจริงๆ ค่อนข้างคลีนและดูง่าย จนกลายเป็นการ์ตูนครอบครัวแห่งปี (แต่ดันออนแอร์ดึก) ที่ประสบความสำเร็จใจวงกว้างมากๆ
ในส่วนอนิเมนั้น ก็น่าจนใจตรงที่เป็นผลงานร่วมของสูดิโอดัง Wit Studio และ CloverWorks ที่ดูเหมือนจะสลับกันทำงานเพื่อรักษาคุณภาพอนิเมเอาไว้ ซึ่งก็ทำออกมาได้ดีครับ แต่ด้วยตัวอนิเมซีซันแรกแบ่งออกอากาศเป็น 2 คอร์ (25 ตอน) ทำให้ดูเหมือนว่า พอหยุดพักการออกกาศไป 3 เดือนแล้วกระแสอนิเมครึ่งหลังจะดรอปไปไม่เปรี้ยงเท่าซีซันแรก แต่ก็ยังถือว่าประสบความสำเร็จและเป็นผลงานที่โดดเด่นอีกเรื่องในช่วงท้ายปี เลยไม่แปลกใจที่จะมีการประกาศซีซัน 2 และภาคหนังโรงตามมาอย่างรวดเร็ว และก็หวังว่า บ้านเราจะได้ดูกันด้วยนะ