กลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วครับ ว่าก่อนที่เราจะมีดาบพิฆาตอสูรภาคใหม่ให้ดูกัน เขาก็จะเอาดาบพิฆาตอสูรภาคเก่ามาย้อนความกับเอาภาคใหม่ตอนแรกมาฉายโรงให้ชมกันก่อน ซึ่งแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้ฮือฮาเท่ากับตอนฉาย ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่ : ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ เมื่อ 4 ปีก่อน เพราะแฟนๆ เริ่มจับทางได้ว่า อีกไม่นานเขาก็เอามาฉายให้ดูทางทีวี (หรือ OTT) เองแหละ แต่ก็มีแฟนๆ จำนวนไม่น้อยที่อยากดูก่อนใครในโรงภาพยนตร์ และคุณภาพงานของ ufotable นั้นก็คู่ควรพอที่จะยอมเสียเงินไปดูจอใหญ่ๆ กันในโรงภาพยนตร์ด้วย
ทว่าทีมงาน ufotable นั้นเขาก็รู้เหมือนกันครับว่าภาคที่แล้ว คือ ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่: สู่หมู่บ้านช่างตีดาบ ที่ฉายเมื่อปีที่แล้ว ทางทีมงานซื่อตรงกับตัวเองไปนิดหนึ่ง คือเอาช่วงสองตอนสุดท้ายของภาคย่านเริงรมย์ กับตอนแรกของภาคหมู่บ้านช่างตีดาบมาใส่ตรงๆ ซึ่งมันดูเล่นง่ายไปหน่อย เพราะเหมือนมีของใหม่ให้ดูแค่ครึ่งเดียว และถึงไม่ดูก็ไม่เสียหายอะไรมาก เพราะยังไงก็ได้ดูตอนฉายทีวีปกติอยู่ดี
ในปีนี้แม้จะมาสูตรเดิมเหมือนปีที่แล้ว คือเอาตอนท้ายๆ ของภาคช่างตีดาบ กับตอนแรกของภาคเสาหลัก (ซึ่งยาวพอๆ กับสองตอนปกติรวมกัน) แต่มีการทำอะไรใหม่เข้ามามากพอควร เช่นในส่วนภาคช่างตีดาบนั้นมีการตัดต่อใหม่ เพิ่มฉากใหม่ๆ เข้ามามากขึ้น ซึ่งเฉพาะส่วนช่างตีดาบนั้น คงไม่สามารถบอกได้ว่าตอนไหนช่วงไหนบ้างที่เพิ่มเข้ามา เพราะเขาขอไม่ให้สปอยล์ แต่เท่าที่ดูถือว่าค่อนข้างเยอะ (แถมสำคัญด้วย) และมันทำให้เรื่องราวในส่วนนี้มันดูไหลลื่นลงตัวขึ้น ซึ่งมันจะส่งผลให้ซีนท้ายๆ ช่วงทันจิโร่กับเนซึโกะ และซีนที่ทันจิโร่ต้องออกจากหมู่บ้านช่างตีดาบ ดูทรงพลังสมกับเป็นหนังโรงมากขึ้น
ส่วนในภาคการสั่งสอนของเสาหลัก ซึ่งเอาจริงๆ ภาคนี้ในคอมมิคสั้นมากๆ เลยนะครับ คือจะอยู่ในรวมเล่ม 16-17 และมีความยาวประมาณ 7-8 ตอนเท่านั้นเอง แต่เนื้อเรื่องในภาคนี้จะมีความสำคัญตรงที่จะเป็นบทส่งไปสู่เนื้อเรื่องในภาคปราสาทไร้ขอบเขตและการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ซึ่งจากที่ดูตอนแรกในโรงภาพยนตร์แล้ว พบว่าอนิเมมีการเรียบเรียงเนื้อเรื่องในภาคนี้ให้ต่างจากต้นฉบับอยู่บ้าง มีการเพิ่มรายละเอียดลงไปในเนื้อหาพอสมควร ช่วยให้ดูลื่นไหลและเข้าใจง่ายขึ้น ซึ่งปริศนาหลายๆ อย่างจะถูกเฉลยในภาคนี้ และผมคาดเดาว่าเนื้อหาในภาคนี้อาจจะครอบคลุมไปถึงภาคปราสาทไร้ขอบเขตบางส่วนด้วย และผมขอเดาไว้ล่วงหน้าว่า ภาคนี้อาจจะจบแบบค้างคา เพื่อจะส่งต่อไปถึงอนิเมซีซันหน้า ซึ่งอาจจะเป็นซีซันสุดท้ายของซีรีส์นี้แล้ว (อาจจะนะ เพราะจริงๆ บทต่อสู้ครั้งสุดท้ายค่อนข้างยาว จะแบ่งเป็นสองซีซันก็ยังได้ อันนี้ต้องลองเดาใจทีมงานดู)
โดยภาพรวมแล้ว ผมว่าทีมงาน ufotable ยังคงรักษามาตรฐานเดิมเอาไว้ได้ดี และหากเทียบกับหนังโรงปี 2023 ผมว่าภาคนี้เอาจุดอ่อนของภาคก่อนมาปรับแก้และทำให้มันดูลงตัวขึ้น ส่วนเรื่องงานภาพผมคิดว่าคงไม่ต้องอวยยศอะไรให้ค่ายนี้แล้ว เพราะผมคิดว่าแฟนๆ น่าจะรู้กันดีว่างานทำออกมามีคุณภาพพอที่จะฉายโรงได้ดีกว่าอนิเมฉายโรงบางเรื่องอีก ส่วนเพลงประกอบนั้นก็ถือว่าทำออกมาได้ดี เพลงเปิดใหม่ของเรื่องมีความแตกต่างจากเพลงเปิดซีซันก่อนอยู่บ้าง แต่ถ้าถามว่าชอบไหม..ชอบครับ และคิดว่าถ้าเป็นแฟนดาบพิฆาตอสูร การได้ดูหนังเรื่องนี้ในโรง นอกจากจะเป็นการทบทวนความทรงจำก่อนที่จะได้ดูภาคใหม่แล้ว ก็ยังรู้สึกได้ถึงความตั้งใจของทีมงาน และได้เสพคุณภาพของงานภาพและเสียงกันแบบเต็มอรรถรสที่เต็มอิ่มมากกว่าการได้ดูกันแบบปกติแน่ๆ ครับ