ในบรรดาอนิเมยูฉะซีรี่ส์ทั้งแปดเรื่อง Brave Exkaiser ถือได้ว่าเป็นปฐมบทแห่งตำนานที่เกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง สตูดิโอซันไรส์และค่ายของเล่นยักษ์ใหญ่ทาคาระในปี 1990 และหลังจากเวลาผ่านไป 30 ปี ทาง Kotobukiya ก็ได้ปล่อยพลาสติกโมเดลของเกรท เอกไกเซอร์ หุ่นร่างสุดยอดในเรื่องนี้ออกมาให้เราได้ประกอบเล่นกัน
สำหรับโมเดลของ Great Exkaiser ตัวนี้ เป็นพลาสติกโมเดลที่ทาง Kotobukiya เพิ่งวางจำหน่ายไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้เอง และถือเป็นตัวแรกของไลน์นี้ด้วย เพราะหลังจากนี้ก็จะมีพลาสติกโมเดลยูฉะซีรี่ส์ของ Kotobukiya ออกมาให้เราเก็บหลายตัวเลยล่ะครับ ราคาก็ถือว่าไม่แพง..เอ้อ .จริงๆ ก็ไม่แพงหรอกครับ แต่กว่าจะได้มานี่ก็วิบากกรรมไม่น้อย เพราะผมใช้วิธีสั่งจากต่างประเทศ ซึ่งปรากฎว่ากล่องมันใหญ่กว่าปกติเลยต้องส่งแบบพิเศษ ต้องเสียค่าส่งเพิ่ม และเจอภาษีศุลกากรเข้าไปอีก ก็เลยได้มาในราคาที่สูงกว่าที่คาดไว้พอสมควร
และถึงแม้กล่องมันจะใหญ่มโหฬารมาก แต่พอประกอบเสร็จ ขนาดของเจ้า Great Exkaiser นั้นก็อยู่ที่ราวๆ 18 เซนติเมตร หรือพอๆ กับกันดั้ม Master Grade ทั่วไปนั่นแหละครับ ซึ่งจุดเด่นของมันที่เห็นชัดๆ ก็คือ การแยกสีที่เกือบจะสมบูรณ์แบบ 100% โดยที่ไม่มีชิ้นส่วนสติกเกอร์เลย ถึงขนาดที่พี่บางคนนึกว่าตัวนี้ทำสีมาด้วยซ้ำ ทั้งที่จริงๆ ต่อดิบทั้งตัวเลยครับ ตัดเส้นนิดเดียว ส่วนจุดพยับนั้นก็ถือได้ว่าเยอะมาก ยืนได้อย่างมั่นคง ข้อต่อแน่น เป็นหุ่นพลาสติกโมเดลที่ประกอบแล้วเล่นได้สนุกตัวหนึ่งเลย
ในส่วนของจุดด้อยนั้น ที่ชัดเจนมากก็คือ การที่มันแปลงร่างไม่ได้นี่่แหละครับ ทั้งที่จริงๆ กลไกการแปลงร่างของยูฉะซีรี่ส์มันก็ไม่ได้ซับซ้อนมาก ดูจากซีรี่ส์ซุเปอร์มินิพลาที่ทำยูฉะออกมาขายด้วยเหมือนกัน (กาโอไกการ์ และ ดักวอนที่กำลังจะออกมา) ซึ่งถ้าใครสนใจเล่นแนวแปลงร่าง ซีรี่ส์มินิพลาก็น่าจะตอบโจทย์กว่า แต่ตัวก็เล็กกว่านะ ส่วนของ Kotobukiya นั้นก็มีจุดเด่นตรงที่มีสีสันรูปร่างและสัดส่วนที่สวยงามเหมือนในอนิเมเด๊ะๆ และยังสามารถเอาชิ้นส่วนไปรวมร่างกับสาวๆ Frame Arms Girl ได้ด้วยครับ แต่เนื่องจากผมไม่ได้ตามเก็บ Frame Arms Girl เลยไม่สามารถโชว์ร่างรวมให้ดูกันได้ (แต่ก็เอารูปจาก Official มาให้ดูกันด้วยจะได้นึกภาพออก)
อีกจุดหนึ่งที่เป็นทั้งจุดเด่นและจุดด้อย ก็คือชุดอาวุธที่มีดาบมาให้ถึงสามเล่ม สามารถทำท่าถือดาบในมุมซันไรส์โพสต์ (ที่หุ่นตระกูลซันไรส์ชอบทำประจำ) แต่ในส่วนอาวุธนั้นกลับแยกสีออกมาได้ไม่ครบ บางส่วนที่ควรแยกก็ไม่แยกมาให้ แถมดาบสองเล่มยังใช้ที่ปิดด้ามดาบเดียวกันอีก! (เข้าใจว่ามันคือเล่มเดียวกัน แต่อุตส่าห์แยกเป็นสองเล่มแล้ว จะทำพลาสติกเพิ่มสำหรับปิดด้ามดาบอีกสักชิ้นมันยากตรงไหน?) และส่วนของธนูดันทำมาให้มองได้แค่ด้านเดียวอีก ด้านหลังเป็นพลาสติกโบ๋ๆ จนแปลกใจว่าพลาดได้ยังไง แถมมือที่ถืออาวุธก็หลุดง่ายมาก และเวลาจะเปลี่ยนอาวุธก็ต้องถอดนิ้วมาเสียบใหม่ ซึ่งทำบ่อยๆ ก็จะทำให้มือหลวมอีก
ซึ่งถ้าเราไม่สนกลไกการแปลงร่าง ผมคิดว่า Great Exkaiser ตัวนี้ก็เป็นพลาสติกโมเดลที่ทาง Kotobukiya ทำได้ดีจนน่าตกใจ แต่ก็ไปไม่สุดตรงพวกอาวุธต่างๆ ที่น่าจะลงทุนทำให้ดีกว่านี้อีกนิด ซึ่งถ้าหากสามารถซื้อในไทยได้ง่ายๆ ผมก็อยากจะเก็บตัวที่เหลือต่อนะ เพราะเห็นทำเจเด็กเกอร์ออกมาได้สวยมากเลย แต่ปัญหาคือเวลาสั่งจากต่างประเทศแล้วเจอทั้งค่าส่งที่สูงกว่าปกติเนื่องจากขนาดกล่อง และภาษีศุลการที่เราต้องจ่ายตามหน้าที่นี่แหละครับ ถ้ามีตัวแทนจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ ก็น่าจะทำให้เราซื้อได้ถูกกว่านี้ แต่ตอนนี้ยังไม่มี ก็คงต้องทำใจกันแรงๆ นิดนึงครับ